‘สมศักดิ์’ ลั่นไม่ใช่ ‘เทวดา’ ปัดอยู่เบื้องหลัง ‘สามารถ’ โยง ‘ดิไอคอน

30 ต.ค. 2567 - 10:14

  • ‘สมศักดิ์’ ลั่นปม ‘เทวดา’ เกี่ยวข้องกับตัวเองเป็น 0 %

  • แจงตั้ง ‘สามารถ’ ทำงานยุติธรรมเหตุมีความสามารถเรื่องแชร์ลูกโซ่ ไม่ทราบพฤติกรรมโยง ‘ดิไอคอน’

  • ซัด ‘โฆษก พปชร.’ พูดความจริง ยังไม่มองเป็นการเอาคืนทางการเมือง

Somsak_declares_Not_Angel_linked_to_The_Icon_Group_case_SPACEBAR_Hero_5538bf95a4.jpg

สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สาธารณสุข) กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงข่าวเกี่ยวกับคดี ดิไอคอนกรุ๊ป มีการพาดพิงคลิปเสียงของนักการเมือง ซึ่งเป็นผู้ที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สมัยเป็น รมว.ยุติธรรม เป็นผู้แต่งตั้งเข้ามา 

สมศักดิ์ กล่าวว่า “ขอพูดประเด็นเทวดาก่อน คิดว่าไม่มีที่เกี่ยวข้องกับตนเอง เป็น 0% แต่มีผู้คนพยายามปั้น หรือเบี่ยงเบนประเด็น” ซึ่งหากไปลำดับขั้นตอนดูดีๆ จะเห็นว่าไม่เกี่ยวเลย และเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งวัน เวลา เรื่องที่เข้ากรรมาธิการ ในปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่นายสามารถออกจากกระทรวงยุติธรรมแล้ว ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน 

สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นไปสู่ตรงนั้นตรงนี้ ถ้ามาที่ตน บอกเลยว่าเสียเวลาเปล่า เพราะว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น ตนได้ตอบชัดเจนไปแล้ว เอาเวลาไปใส่ใจตรงอื่น ประเด็นอื่นๆ ดีกว่า ไม่ใช่ว่าใครรู้จักใครแล้วจะกลายเป็นประเด็นความเสียหายไปทั้งหมด 

“ผมรู้จักคน คนก็รู้จักผม โดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรมเป็นแหล่งรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน ใครจะไปจะมาก็ได้ แต่ต้องเป็นคนดี ทำในสิ่งที่ดี การที่คนรู้จักกัน ทำงานร่วมกัน ก็ไม่ใช่ว่าคนหนึ่งทำผิดแล้ว อีกคนหนึ่งก็ต้องผิดไปด้วย อย่าติ๊ต่างไปอย่างนั้น ให้เอาเนื้อหาสาระข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าใครอยู่ใกล้สัมผัสกันแล้วจะช็อตเหมือนไฟฟ้า ใครไปทำอะไรที่ไหนมาใครจะตามไปรู้ด้วย แต่ในแง่การทำงานก็ไม่ได้เกิดความเสียหายในช่วงนั้น” สมศักดิ์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามถึงช่วงที่เป็น รมว.ยุติธรรม มีการรู้จักและมีการแต่งตั้งนายสามารถอย่างไร สมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นช่วงระยะเวลาการหาเสียงแล้วเห็นว่า นายสามารถเก่งเรื่องแชร์ลูกโซ่ เขาตระเวนไปประชุมในหลายๆ จังหวัด เกี่ยวกับเรื่องแชร์ลูกโซ่ ให้ความรู้แก่ประชาชนที่ถูกโกง ถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงในเรื่องการช่วยเหลือประชาชน 

แล้วการรณรงค์ปราบแชร์ลูกโซ่ก็เป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรมขณะนั้น แต่ปราบอย่างไรก็ไม่หมด คนทำงานที่ติดตามแชร์ลูกโซ่ของส่วนราชการก็เติบโตไปเยอะ เป็นอธิบดีก็มี เป็นคนตั้งใจทำงาน แต่กรณีนี้ คลิปที่ออกมา ตนไม่ทราบว่าเป็นพฤติกรรมหลังๆ เป็นสิ่งที่ตนก็ไม่เคยทราบมาก่อนว่ามันมีอย่างนั้น 

เมื่อถามว่า พล.ต.ท.ปิยะ มีการแถลงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในคลิปเสียงเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ท่านเป็น รมว.ยุติธรรม สมศักดิ์ กล่าวว่า เขารู้ได้อย่างไรว่าเป็นเวลาเดียวกัน เขาเป็นตำรวจใช่หรือไม่ ทั้งนี้ พล.ต.ท.ปิยะ เป็นคนที่สนิทสนมกับพรรคพวกของตนที่ตามมาทำงานที่นี่ (กระทรวงสาธารณสุข) เมื่อก่อนก็ไปมาหาสู่กันตลอด ก็ไม่มีอะไร “_บอกแล้วว่า ประเด็นต่างๆ หากการทำหน้าที่ทางการเมืองทำให้ทุกอย่างดูดี และให้คนอื่นเสียหาย นั่นเป็นการเมืองที่ไม่ดี ควรจะพูดเรื่องข้อเท็จจริงมากกว่า”_

เมื่อถามย้ำว่า มองว่าเป็นการเอาคืนของพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีเอาคืนหรอก เพราะก็รู้จักกันอยู่ พฤติกรรมของคนขณะที่ทำงานด้วยกัน ไม่มีเสียหาย แล้วกรณีที่ว่าเสียหายก็ไม่เห็นจะจับเขาได้ คนที่เขาเสียก็ไปจับไปดำเนินการ วันนี้เจ้าทุกข์บอกว่า ยังไม่ได้จ่ายเงิน ก็เลยแป๊กไปหมด แล้วหันมาเล่นงานคนที่บอกว่าเขารู้จักทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งจะกระทบกับประชาชนให้ทำงานยาก จะเข้ามาร้องเรียนปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุข ตนก็ไม่กล้าเจอแบบนี้ก็ไม่ได้

“ตนตรงไปตรงมา อะไรที่ประชาชนเดือดร้อน หากช่วยได้ก็ต้องทำจะไปเกรงกลัวสิ่งเหล่านี้คงไม่ได้ คนไม่ดีเราก็อย่าไปคบ หากยังไม่รู้ว่าเขาไม่ดีเราจะไม่คบเขาก็ไม่ได้ เราคบทุกคน แล้วนายสามารถในขณะนั้นเขาไม่ได้ทำอะไรเสียหาย แต่วันนี้เมื่อมันมีปัญหาเขาก็ต้องมาชี้แจงและดำเนินคดีกับคนที่กล่าวหาเขา แต่หากเขานิ่งไปก็ไม่ใช่สิ่งที่ตนจะไปบอกหรือไปบังคับเขาได้”

‘สมศักดิ์’ เมินถูกแอบอ้างชื่อ ปล่อย ‘เจ๊อ้อย-ทนายตั้ม’ ซัดกันเอง

สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี ‘เจ๊อ้อย’ เศรษฐีนี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ษิทรา เบี้ยบังเกิด (ทนายตั้ม) ว่าโกงเงิน 2 ล้านยูโร คิดเป็นเงินไทย 71 ล้านบาท และให้ข้อมูลว่า ทนายตั้มเคยอ้างชื่อนายสมศักดิ์ ในการทำธุรกิจล็อตเตอรี่ออนไลน์ จะดำเนินการอะไรหรือไม่ 

สมศักดิ์ กล่าวว่า ตนจะไปดำเนินการอะไรเขาได้อย่างนั้นหรือ เขาบอกว่ามีการอ้างชื่อตน แต่มีพยานหลักฐานที่อ้างถึงตนหรือไม่ ซึ่งหากมีพยานหลักฐานก็จะต้องเป็นคดีความ แต่ถ้าจะให้คนไปฟ้องร้อง ซึ่งยังไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือไม่ เพราะเขาพูดกันสองคน คนหนึ่งบอกว่าพูด ขณะที่อีกคนหนึ่งยังไม่ได้พูดอะไร แล้วความเกี่ยวข้องไปถึงที่ไหนตามรูปแบบคดีความ ทั้งนี้ ใครรู้จักใครไม่ใช่ว่าจะทำผิดไปทั้งหมด แต่ประเด็นคือเขาทำผิดร่วมกันหรือไม่ หากไม่ใช่แล้วจะมีประโยชน์อะไร การเบี่ยงเบนไปหาคนนั้นคนนี้เพื่อให้พ้นจากตัวเอง สำหรับตนเองไม่ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว 

“ให้สองคนเขาไปฟ้องกันเองเถอะ ผมไม่คิดจะไปฟ้องอะไรเขาหรอก ผมไม่ได้รู้จัก ที่คนบอกว่าเขาอ้างถึงผม เขาอาจจะอ้าง จะพูด เหมือนวันนี้ก็มียาโด๊ปอีกยี่ห้อหนึ่งเอาชื่อผมเข้าไปเกี่ยวข้องอีก ก็มีชื่อผมไปเกี่ยวข้องคงขายดีมั้ง เลยให้เจ้าหน้าที่ติดตาม รายไหนที่ตรวจพบก็ดำเนินคดี หากเป็นการหมิ่นประมาทให้เสียหายก็ดำเนินคดี” สมศักดิ์ กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์