สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ชี้แจงประเด็นแพทยสภาส่งมติมาให้พิจารณาลงโทษแพทย์จำนวน 3 คน กรณีส่ง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ว่า คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษ เพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ที่ผมตั้งขึ้น มีหน้าที่ให้คำปรึกษากับผม
ทั้งนี้ การพิจารณาแพทยสภาต้องผ่านคณะกรรมการ 4 ชุด เริ่มต้นคือ คณะอนุกรรมการจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมชุดเฉพาะกิจ จะเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน
เมื่อคณะกรรมการดังกล่าวมีมติจะส่งให้คณะกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจ เมื่อทำงานจบแล้วจะส่งให้คณะกรรมการกลั่นกรอง จากนั้น จะนำเข้าคณะกรรมการแพทยสภาที่มีคณะกรรมการทั้งหมด 70 คน เพื่อดำเนินการในการพิจารณาโทษ ซึ่งผมได้ข้อมูลจากคณะกรรมการทั้ง 4 ชุด แต่ยังไม่ได้คำตอบ หากได้คำตอบมาแล้วจะมีการพูดคุยและประชุมร่วมกับคณะกรรมการที่ผมตั้งขึ้นตามมาตรา 25
วันนี้ ผมยังไม่สามารถบอกข้อมูลได้ว่าจะยับยั้งหรือไม่ยับยั้ง เพราะข้อมูลยังไม่ครบ และยังมีเอกสารที่ต้องนำมาเสนอเพื่อให้สอดคล้องกับที่เริ่มมาตั้งแต่เรื่องจริยธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อมูลการรักษา ผลสอบของคณะกรรมการจะต้องออกมาจากแพทยสภาใช่หรือไม่? สมศักดิ์ กล่าวว่า ผมดูในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของผมตามมาตรา 25 และจะรับฟังจากคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษฯ ที่ตั้งมาเป็นหลัก
เมื่อถามว่า อดีตแพทยสภาออกมาตั้งคำถามว่า หากมี พ.ร.บ.แพทยสภาฉบับใหม่ ควรจะให้อำนาจสภานายกพิเศษมีอำนาจในการยับยั้งมติแพทยสภาหรือไม่? สมศักดิ์ กล่าวว่า “นั่นสิ กฎหมายเขียนไว้ทำไม ต้องเปลี่ยนสิ งั้นก็ต้องไปเปลี่ยนกฎหมายใหม่ เพราะผมทำตามกฎหมาย ถ้าผมไม่ทำตามกฎหมายก็จะมีความผิด เหมือนกับแพทยสภา ถ้าไปพิจารณาแล้วทำให้ผู้ที่ถูกพิจารณาโทษรู้สึกว่าไม่ผิด เขาฟ้องร้อง มันจะเป็นปัญหา เหมือนผมไม่ดำเนินการ ไม่ทำอะไร ปล่อยไว้เฉยๆ ก็อาจจะถูกฟ้องร้องได้ ถ้าคิดว่าสภานายกพิเศษไม่มีประโยชน์ กฎหมายก็ต้องเปลี่ยน แต่ตรงนี้ผมถูกบังคับด้วยกฎหมาย เลยต้องทำงาน”
เมื่อถามว่า กำหนด 15 วันที่สภานายกพิเศษจะต้องพิจารณามติแพทยสภา จะเริ่มนับตั้งแต่วันไหน? สมศักดิ์ กล่าวว่า ผมคิดว่าถ้าข้อมูลครบก็จะใช้เวลา 15 วัน หลังจากได้รับหนังสือจากแพทยสภา ทั้งนี้ จากการขอข้อมูลไปครั้งที่ 2 หากได้กลับมาข้อมูลก็ครบแล้ว ซึ่งจะพยายามไม่ขอขยายเวลา
เมื่อถามถึงกรณีแพทยสภาแนบเอกสารมาในรายงานว่า ทักษิณ ไม่ได้ป่วยวิกฤติ ตรงนี้จะมีการขอข้อมูลเพิ่มอีกหรือไม่? สมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนผมเข้าใจว่า เขาได้มีการพิจารณาไปหมดแล้ว ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้ก็ยังไม่ได้พูดถึง และมีการเสนอความเห็นมายังสภานายกพิเศษ
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา 157 เกี่ยวข้องกับคนที่อยู่ในกระบวนการทั้งหมด รวมถึงผม และคนที่ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการแต่ละชุด ฉะนั้น เราจะต้องพิจารณาให้ดีตามอำนาจหน้าที่ที่เรามี
เมื่อถามว่า ได้อ่านหนังสือของนายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจที่ร้องขอความเป็นธรรมหรือยัง? สมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ดูแล้ว จึงได้ขอเอกสารจากแพทยสภาว่า มันตรงกับสิ่งที่เขาร้องเรียน ขอร้อง ขอความเป็นธรรมมาหรือไม่ เพราะมันมีความเกี่ยวข้องกับมาตรา 157
เมื่อถามถึงกรณี วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ระบุหากยับยั้งมติแพทยสภาโดยไม่มีเหตุผลทางการแพทย์ สภานายกพิเศษอาจโดนมาตรา 157? สมศักดิ์ กล่าวว่า คนต้องถูกตรวจสอบโดยกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการของแพทยสภาทุกชุด
เราต้องระมัดระวังว่าอะไรที่ควรหรือไม่ควร จะต้องดำเนินการไม่ให้ขัดกับมาตรา 157 เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ