‘สมศักดิ์’ มอง ‘แพทองธาร’ นั่งนายกฯ ต้องใช้เวลาอีกระยะ ชี้ ‘เศรษฐา’ ทำงานดีอยู่แล้ว

21 พฤศจิกายน 2566 - 03:49

Somsak-said-for-Paetongtarn-to-become-PM-It takes-some-more-time-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘สมศักดิ์’ ชี้ ‘แพทองธาร’ นั่งนายกฯ แน่ แต่ไม่ใช่เร็วๆ นี้

  • เผยลงพื้นที่ ‘บ้านใหญ่’ แค่พบปะคนและสร้างงาน

  • ยัน ‘เศรษฐา’ ทำงานดี ขออย่าแซว ไม่ใชเรื่องสร้างสรรค์

สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคเหนือของ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่มีการพบปะกับ 'บ้านใหญ่' ที่ถูกมองว่า อาจเป็นการเตรียมตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องรู้จักพื้นที่ในทุกจังหวัด ไม่ใช่เฉพาะภาคเหนือ และประกอบกับการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา แพทองธาร ก็ลงพื้นที่หาเสียง ก็อยากที่จะไปเยี่ยมเยียนพื้นที่ตรงนั้นด้วย ในฐานะได้รับตำแหน่งใหม่ ขณะที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มีการเปิดสาขาพรรคเพื่อไทย ก็ถือว่าเหมาะสมที่จะพบปะกับประชาชน และเป็นงานที่หัวหน้าพรรครับผิดชอบซอฟต์พาวเวอร์ด้วย ก็ต้องไปรับทราบข้อมูลทั้งหมด ประชาชนในพื้นที่ประกอบอาชีพอะไร จะสร้างงานสร้างอาชีพให้คนได้อย่างไร ถือเป็นความตั้งใจของพรรคการเมืองที่ได้มากว่า 20 ล้านเสียง ซึ่งถือเป็นงานหนักพอสมควรที่จะต้องช่วยกันเดิน

ยังยืนยันว่า การลงพื้นที่ของ แพทองธาร ไม่มีอะไรมากกว่าการพบปะประชาชนและการสร้างงาน

เมื่อถามว่าเป็นการปูทางเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น สมศักดิ์ กล่าวว่า การที่จะเป็นนายกรัฐมตรีไม่ใช่วันนี้ ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งพอสมควร เพราะวันนี้เรามี เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ทำงานดีอยู่แล้ว และต้องทำงานต่อไปอีกยาวๆ ไม่ใช่แค่วันนี้หรือพรุ่งนี้

ขออย่าไปแซว ไปพูดหรือไปคุยในเรื่องเหล่านี้เลย ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องสร้างสรรค์

Somsak-said-for-Paetongtarn-to-become-PM-It takes-some-more-time-SPACEBAR-Photo01.jpg

ยันไม่มีปัญหา แม้ไร้ 'รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง' บูรณาการงานภาคใต้ ชี้ทำงานสอดประสานได้

สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทางคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ถามหารองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบฝ่ายความมั่นคง โดยสมศักดิ์ ยืนยันไม่เห็นมีใครพูดว่าต้องเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แต่การแบ่งงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ออกมา ทั้งนี้ ตนเองนั่งในคณะกรรมการหลายชุด และทำงานในลักษณะสอดประสานกับรองนายกรัฐมนตรีท่านอื่นๆ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

ในส่วนของการพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้ เป็นกรอบของรัฐบาลเดิมที่ทำไว้และยังไม่สำเร็จ ซึ่งผมเห็นว่าการแก้ปัญหาในภาพรวม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากได้พูดคุย การก็จะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ถูกใจทุกฝ่าย เพื่อให้สามารถเดินได้ ซึ่งผมก็รับผิดชอบเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งยังเหลืออีก 20 กว่าอำเภอ ที่จะต้องมาหารือกันเพื่อปลดล็อก จึงอยากให้มีการพูดคุยกัน อะไรที่ทำได้ รับได้ ของคนทั้งประเทศ แต่ผมมั่นใจว่า แนวทางที่ได้ศึกษามาในระยะสั้นๆ ได้เห็นแนวทางที่จะทำให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เดินไปสู่สันติภาพได้อย่างไร

ลั่นปลอด 'พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ' ได้ ต้องคุยกันให้จบก่อน เผยนายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 27 พ.ย.นี้ ดูความสัมพันธ์มาเลเซีย

สมศักดิ์ บอกด้วยว่า ในวันที่ 27 พ.ย.นี้ นายกรัฐมนตรีเตรียมลงพื้นที่ภาคใต้ และลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไปดูเรื่องสายสัมพันธ์การบ้านการเมืองกับประเทศมาเลเซีย จะเป็นที่ทำให้เห็นว่า รัฐบาลให้ความใส่ใจในเรื่องการแก้ไขปัญหา ส่วนเมื่อถามถึงแนวโน้มที่จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งหมดนั้น ถ้าคุยกันจบเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่เรื่องที่ซีเรียส การที่ยังคงเอาไว้เพราะการพูดคุยยังไม่จบ จึงต้องเอาเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาปะทะไว้

แต่ถ้าเขาคุยกันลงตัวทุกอย่างจบ และการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งหมดจะเป็นลำดับสุดท้าย ซึ่งผมเองอยากใช้แนวทางนี้มากกว่าการยกเลิกเพียง 1-2 อำเภอ

ชี้คำสั่ง 'คสช.' ที่ยังค้างใน ศอ.บต.ไม่มีอุปสรรคมาก แต่อาจขัดกับระบอบประชาธิปไตย

ส่วนคำสั่ง คสช.ที่ยังค้างอยู่ มีอุปสรรคต่อการทำงานอะไรเกี่ยวกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่เจ้าตัวกำกับในการแก้ปัญหาภาคใต้หรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรมากมาย เพียงแต่ความเป็นประชาธิปไตย จะต้องมีอะไรมาเป็นเงื่อนไขที่เป็นข้อกังขาต่อประชาชน เพราะเรามาจากการเลือกตั้งก็ควรทำให้มันสมบูรณ์

ผมคงไม่ยอมให้ใครมาทำให้ผิดทำนองครองธรรมในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เบื้องต้น รับผิดชอบในส่วนนี้ หากทำไม่ดี ก็จะเกิดความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ หากเราสามารถพูดคุยทำให้เกิดความปลอดภัยประชาชนก็รับได้ ก็เชื่อว่าจะนำไปสู่หนทางความสำเร็จหากทุกฝ่ายช่วยกัน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์