ไม่แปลกใจ ที่บรรดาคอการเมืองหลายคนต่างเห็นพ้อง ว่า ‘จังหวัดเชียงใหม่’ ถือเป็น ‘หัวหาดสำคัญ’ ต่อการสถาปนา ‘อำนาจทางการเมืองภาคเหนือ’ ผ่านการช่วงชิงฐานเสียงอย่างเข้มข้น ไม่เว้นแม้แต่ ‘ปี๋ใหม่เมือง’ หรือ ‘เทศกาลสงกรานต์’ ปีนี้ ที่ไม่ต่างอะไรกับ ‘สงคราม’ พิชิตใจเพื่อกอบโกยเสียงโหวต ‘ศึกเลือกตั้งนายกเล็ก’ ระหว่างค่าย ‘สีแดง’ และ ‘สีส้ม’ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา ในทุกๆ ศึกชิง ‘นครเวียงพิงค์’
‘แม่ทัพ’ พร้อม ‘ขุนพล’ นำโยธาเผชิญหน้า
วิเคราะห์กันคร่าวๆ จากกำหนดการของ ‘พรรคเพื่อไทย’ และ ‘พรรคประชาชน’ ในการเดินหมากลุยหาเสียงช่วย ‘ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่’ เสมือนการเคลื่อนทัพเต็มอัตราศึก มี ‘แม่ทัพ’ หรืออีกนัยคือ ‘ผู้นำทางจิตวิญญาณ’ นำหน้า ‘ขุนพล’ เข้าทำการ
เริ่มจากกำหนดการชนิดยาวเป็นหางว่าวของ ‘พ่อลูกตระกูลชินวัตร’ ที่จะเริ่มเดินสายในวันพรุ่งนี้ (13 เมษายน 2568) โดยในช่วงบ่าย ‘แพทองธาร’ จะเป็นประธานเปิดงาน ‘World Songkran Thapae Chiangmai’ ที่ถนนท่าแพ และตอนเย็นจะเป็นประธานเปิดงาน ‘MY WATER WORLD SONGKRAN FESTIVAL 2025’ ที่ศูนย์การค้าเมญ่า ก่อนจะเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ‘Amazing Songkran Chiangmai x Boryeong Mud Festival 2025’ จากสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ณ ข่วงประตูท่าแพ พร้อมกับร่วมพิธีสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ พระคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ก่อนจะจบภารกิจสุดท้ายในกิจกรรม ‘SF My Water World Songkran Festival 2025’ ณ ศูนย์การค้าเมญ่า
ส่วนใน วันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2568 จะร่วมงาน ‘ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองสันกำแพง’ ณ ชุมชนโหล่งฮิมคาว ตำบลสันกลาง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ‘พ่อแม้ว - ลูกอิ๊งค์’ จะใช้วันหยุดยาวพักผ่อนกับครอบครัว พบปะญาติพี่น้องในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อถือโอกาสทำบุญ - ขอความเป็นสิริมงคล พร้อมร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กับคนเชียงใหม่ด้วย
ขณะที่ ‘พรรคประชาชน’ ที่แบ่งความเคลื่อนไหวออกเป็น 2 สาย (วันที่ 12 เมษายน) สายที่ 1 ‘ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ’ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค จะเยี่ยมชมการทำโคมศรีล้านนา ณ บ้านแยงบัว จ.ลำปาง ก่อนช่วงบ่ายถึงเย็นจะร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ที่บริเวณหน้าสำนักงานไปรษณีย์ลำปาง ไปจบที่ห้างเสรีสรรพสินค้า
ส่วนสายที่ 2 ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะร่วมกิจกรรมประเพณี วิถีน้ำ วิถีไทย ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่เวลา 17.30-18.30 น. ร่วมเล่นน้ำสงกรานต์แยกรินคำ เมญ่านิมมาน ซึ่งมีกำหนดการเหลื่อมๆ กับ ‘แพทองธาร’ ที่จะร่วมกิจกรรมในพื้นที่ดาวน์ทาวน์เชียงใหม่เช่นกัน
ส่วนวันที่ 13 เมษายน 2568 ‘ณัฐพงษ์' จะเดินชมงานกิจกรรมสงกรานต์ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ เวลา 10.00-11.00 น. ก่อนที่จะไปเจอ ‘พิธา’ ในช่วงบ่ายของวัน โดยทั้งคู่จะร่วมพิธีขบวนแห่สรงน้ำพระพุทธรูป ณ หน้าโรงเรียนจักรคำคณาทร และร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ พบปะเยี่ยมชมร้านค้าชุมชน ต่อ ณ ศูนย์นักท่องเที่ยวเชิงสะพานท่าขาม จังหวัดลำพูน
ปูทางเลือกตั้ง ‘นายกเทศบาลนครเชียงใหม่’ 2 คนหลักจาก ‘ค่ายแดง - ส้ม’
สำหรับ ‘ศึกเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี' รอบนี้ ‘พรรคเพื่อไทย’ ส่ง ‘อัศนี บูรณุปกรณ์’ แชมป์เก่า ลูกชาย ‘ประพันธ์ บูรณุปกรณ์’ จาก ‘กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม’ ที่เลือก ‘ค่ายแดง’ เป็นแบ็กอัพ ต่างจากคนนามสกุลเดียวกันอย่าง ‘กุ้ง - ทัศนีย์’ ที่เลือกสนับสนุน ‘ค่ายส้ม’ ในช่วงการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา ขณะที่ ‘พรรคประชาชน’ ส่ง ‘ธีรวุฒิ แก้วฟอง’ เป็นผู้สมัครท้าชิง โดย ‘ธีรวุฒิ’ เคยลงในนามของ ‘คณะก้าวหน้า’ เมื่อการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เมื่อ 4 ปีก่อน แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับ ‘อัศนี’ ไป
อย่างไรก็ดี การแข่งขันชิงเก้าอี้ ‘นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่’ รอบนี้ มีสิ่งที่น่าจับตามองอยู่หลายประการ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงจากปรากฏการณ์ที่ผ่านมา
- ผลการเลือกตั้งใหญ่ 2566 ที่พรรคก้าวไกล (ขณะนั้น) สามารถคว้าอี้สส.เขตได้ 7 ที่นั่ง ทำให้มีฐานเสียงระดับท้องถิ่นมีความหนักแน่น โดยเฉพาะในพื้นที่ ‘นครเชียงใหม่’
- ผลคะแนนจากศึกเลือกตั้ง ‘นายก อบจ. เชียงใหม่’ เดือนกุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา ระหว่าง 'พิชัย เลิศพงศ์อดิศร' ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และ 'พันธุ์อาจ ชัยรัตน์' ที่ถึงแม้ผู้กำชัยจะเป็นฝั่งของ ‘ค่ายสีแดง’ ที่ได้รับเสียงโหวตอยู่ที่ 379,341 คะแนน ขณะที่ ‘ค่ายสีส้ม’ ได้รับเสียงโหตอยู่ที่ 358,386 คะแนน แต่หากมองถึงการทิ้งห่างของผลเลือกตั้ง ที่ตามก้นกันเพียงราวๆ 2 หมื่นนิดๆ ย่อมทำให้อุณหภูมิใน ‘ศึกเลือกตั้งนายกเล็ก’ เพื่อชิง ‘นครเชียงใหม่’ รอบนี้ ดุเดือดเข้มข้นแน่นอน
จึงไม่แปลกใจที่ ‘สงกรานต์’ เชียงใหม่ จะกลายเป็น ‘สงคราม’ เพื่อขุมวัดพลัง ผ่านการใช้ ‘แม่ทัพ - ขุนพล’ ลุยศึกแบบแทบเผชิญหน้ากันตรงๆ