สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีที่ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศ แถลงทั้งน้ำตา ว่าสมาคมมีงบไม่เพียงพอใช้หนี้ สยามสปอร์ต ว่าเบื้องต้นได้ให้กำลังใจ กับนายกสมาคม และเห็นใจว่า เข้ามาภายใต้ภาวะที่ทุกคนทราบดี แต่หนี้เป็นเรื่องที่สมาคมต้องรับผิดชอบ ส่วนการฟ้องร้อง จะให้ใครรับผิดชอบ ก็ต้องไปดำเนินการต่อไป ซึ่งตอนนี้ทราบว่า มาดามแป้ง กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ฟ้องร้องสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อให้เขามารับผิดชอบในส่วนนี้
ส่วนเรื่องความช่วยเหลือของรัฐบาล ยอมรับว่า กระทรวงท่องเที่ยวฯ ไม่สามารถให้งบประมาณ เพื่อไปใช้หนี้ได้ เนื่องจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีไว้เพื่อสนับสนุนการแข่งขันของนักกีฬาของทีมชาติไทย ซึ่งมีงบกว่าพันล้านบาท พร้อมยืนยันว่า ไม่ต้องกังวลจะกระทบต่อฟุตบอลทีมชาติไทย และไม่ต้องกลัวสมาคมจะล่ม เพราะเรามีมาตรการสนับสนุน และสามารถของบพัฒนาได้ ยกเว้นชำระหนี้ให้ เพราะงบของกระทรวงท่องเที่ยว ถูกตั้งไว้เป็นงบปกติ ไม่ได้ตั้งไว้เพื่อใช้หนี้
ส่วนได้รับรายงานเรื่องความผิดปกติในการใช้งบ และการเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ในยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคม หรือไม่ สรวงศ์ ระบุ พึ่งเข้ามารับตำแหน่ง แต่ได้รับทราบจากสื่อว่า มีการท้วงติงเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคดีความ ตามเนื้องาน และเมื่อศาลพิพากษาออกมาแบบนี้ คนที่ต้องรับผิดชอบ คือ สมาคม
ทั้งนี้ หากมีการร้องเรียนการทุจริตโครงการต่าง ๆ ในอดีต ก็จะตั้งกรรมการตรวจสอบทันที แต่ขณะนี้ยังไม่มี และจำเป็นต้องมีผู้ร้องเข้ามา ไม่ว่าจะสมาคมหรือนักกีฬา ซึ่งเราไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบเองได้
ส่วนต้องเชิญ ทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกันหรือไม่ สรวงศ์ กล่าวว่า มันเกินการพูดคุยไปแล้ว เพราะมีคำพิพากษาของศาลมาแล้ว ส่วนเรื่องการตัดสิน การชดใช้ กระทรวงฯ สามารถช่วยเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย การผ่อนชำระกับเจ้าหนี้ได้อยู่
สรวงศ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยืนยันว่าจะไม่แก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีชื่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ความจริงแล้วนายกฯ มีความพร้อมที่จะอธิบายและต้องคำถาม เพราะตลอด 5 เดือนที่เข้ารับตำแหน่ง นายกฯ ทำงานเองและตัดสินใจเองทุกอย่าง ดังนั้นการตอบคำถามหรือชี้แจงเองไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้เป็นเรื่องที่ญัตติที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรมองว่า ไม่สมควร และส่วนตัวมองว่าผิดรัฐธรรมนูญด้วยที่ใส่ชื่อบุคคลภายนอกที่ไม่มีโอกาสเข้ามาตอบโต้หรือชี้แจงในสภามาอยู่ญัตติ หากประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุเข้าระเบียบวาระเป็นการประทับตราว่า สามารถพูดถึงบุคคลภายนอกได้เลย ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยจะยอมหรือไม่ หากประธานยอมบรรจุระเบียบวาระโดยที่มีชื่อคนนอก สรวงศ์ ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมอยู่แล้วในการมาชี้แจง หากประธานพร้อมที่จะบรรจุ ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็พร้อมอยู่แล้ว แต่การจะพูดถึงบุคคลภายนอกโดยที่บุคคลนั้นไม่สามารถมาตอบโต้ได้ก็ต้องดูตามเนื้อหาที่จะเอามาอภิปรายในสภาฯ
ส่วนจะตั้งรับอย่างรับเพราะน่าจะมีการอภิปรายถึงทักษิณแน่นอนนั้น สรวงศ์ กล่าวว่า ต้องถามกลับไปยังพรรคฝ่ายค้าน และให้ประชาชนตั้งคำถามด้วยว่า สรุปแล้วการยื่นญัตติครั้งนี้หวังอะไร หากหวังจะให้ได้ผลดีกับประเทศในการปรับเปลี่ยนการทำงานของนายกฯ จริงๆ หรือมีการเสนอแนะในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีปัญหาเลยจริงๆ แต่ประเด็นตอนนี้จริงๆ แล้วค่อนข้างผิดหวัง เพราะหวังที่จะเห็นการเมืองใหม่ๆ สุดท้ายก็กลับไปเหมือนเดิม ซึ่งเราอยู่ในสภาฯ อยู่ในการเมืองมา 20 ปี เราก็เห็นแบบนี้มาตลอด โดยทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้หวังอะไร นอกจากจะพูดเพื่อลดความน่าเชื่อถือของอีกฝั่งหนึ่งเพื่อให้เกิดผลทางการเมือง
เมื่อถามว่าจะต้องเตรียมตั้งองครักษ์มาดูตอนอภิปรายหรือไม่ เพราะน่าจะมีการพาดพิงบุคคลภายนอก สรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ต้องมีองครักษ์ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่เนื้องานและการอภิปราย ซึ่งเราพร้อมที่จะตอบคำถามและชี้แจงในสภา