‘เศรษฐา’ เผยไต๋คุม ‘กลาโหม’ ไม่มีเปลี่ยนม้ากลางศึก ‘เงินดิจิทัล’

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในที่ประชุมได้มีรัฐมนตรีซักถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.หรือไม่ ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง อย่างที่สื่อได้เสนอข่าวไป วัคซีนที่ดีที่สุดคือการทำงานนั่นเอง ผมเชื่อเช่นนั้น และต้องขอบคุณที่สื่อได้เสนอข่าวไป ตอนนี้ทุกท่านยังมุมานะทำงานอย่างเดียว

เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการเสนอชื่อรัฐมนตรีในโควตาหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย และวันนี้ผมได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เรื่องข้าวโพด และอะไรหลายๆ เรื่อง ท่านก็ไม่เห็นพูดอะไรมา

เมื่อถามว่า ในสัปดาห์นี้มีโอกาสนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าเกิดคุย ก็คงเป็นการคุยเป็นการส่วนตัวของบางท่านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องงานอย่างเดียว ซึ่งก็มีการทำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าวินาทีนี้ นายกฯ จะไปควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ใช้หรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า "วินาทีนี้ผมยังเป็น รมว.คลัง และเป็นนายกรัฐมนตรีครับ" 

เมื่อถามอีกว่า มีโอกาสที่จะไปหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ผมคิดว่าทุกอย่างมันมีโอกาส และขึ้นอยู่กับเงื่อนไขเวลามากกว่า

เมื่อถามว่า ถ้าเกิดนายกฯ ไปควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม จะมีนโยบายอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า อย่าพูดถึงถ้ายังไม่เกิดดีกว่า ไว้เกิดแล้วค่อยว่ากันดีกว่า

เมื่อถามว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่เสร็จ ถ้าเปลี่ยนม้ากลางศึกจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ผมไม่ตอบคำถามเรื่องนี้ ผมคิดว่าเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมันชัดเจนไปแล้วเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า จะส่งไม้ต่อให้ รมว.คลัง คนต่อไปได้แล้วใช่หรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรที่จะส่งไม้ต่อกับใครทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย จะยึดเก้าอี้ประธานสภาฯ คืน จากพรรคประชาชาติ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ไม่ทราบเรื่องจริงๆ ต้องไปถามหัวหน้าพรรค 

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะยกเครื่องการทำงานในสภาฯ จึงต้องมีการปรับ ครม. เศรษฐา กล่าวว่า เรื่องการทำงานกับสภาฯ เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด แต่การจะยกเครื่องอย่างไร หรือจะปรับอย่างไรในบริบทปัจจุบันนี้ ผมเชื่อว่าทุกๆ คนให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภาอยู่แล้ว อะไรที่จะสามารถทำให้ขับเคลื่อนการออกกฎหมาย ระบบตรวจสอบได้ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญในเรื่องนี้

เมื่อถามว่า ในความคิดของนายกฯ บุคคลที่จะไปทำหน้าที่หลักในการประสานงานฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารต้องมีคุณสมบัติอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ผมคงไม่ไปก้าวล่วง และไม่ไปพูดอะไร เพราะเดี๋ยวจะกระทบกระเทือนกับคนที่อยู่ปัจจุบัน อย่าดีกว่า อันนี้ไม่ใช่เรื่องของผม