ไม่ไว้หน้าอยู่แล้ว! ถ้าเจอ ‘ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์’ เอี่ยวผิดกฎหมาย

23 ก.พ. 2567 - 07:00

  • ‘เศรษฐา’ ลั่นไม่ไว้หน้าอยู่แล้ว! หากพบ ‘ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์’ เอี่ยวผิดกฎหมาย

  • ติงไม่ควรใช้สื่อตอบโต้กันไป-มา เพราะเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว

Srettha-explains-the-current-scandal-involving-the-police-SPACEBAR-Hero.jpg

ปมร้อนเขย่า ‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ สืบเนื่องจากคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์เชื่อมโยงกับ ‘บิ๊กตำรวจ’ ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็น ‘ประเด็นการเมือง’ ไปแล้ว

แต่ในเรื่องนี้ เศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นแย้งว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นประเด็นทางการเมือง แต่เป็นประเด็นที่ทำผิดกฎหมาย ที่ต้องมีการพิสูจน์ทราบให้ได้ว่า ใครเป็นผู้ทำผิดกฎหมาย และรัฐบาลนี้ ยึดหลักการทำในสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย แต่อย่างไรก็ตาม เข้าใจความเป็นห่วงเป็นใยจากทุกภาคส่วน ทั้งสื่อมวลชนและประชาชน เมื่อมีข่าวออกไป แต่เราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วย

ถ้ามีข่าวออกไปว่า ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เอง มีส่วนพัวพันในเรื่องที่ผิดกฎหมาย ความไว้วางใจและความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัยก็จะลดน้อยลงไป จึงอยากให้มีการพิสูจน์โดยเร็ว โดยใช้กฎหมายเป็นหลัก โดยต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่ายด้วย โดยเฉพาะผู้ถูกกล่าวโทษด้วย

เมื่อถามถึงมุมมองต่อกรณีการแถลงข่าวตอบโต้ผ่านสื่อของตำรวจ จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ก็มองว่าทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ควรที่จะทราบว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ และยืนยันว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหาวันนี้ ยังไม่ถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งย้ำตลอดว่าต้องให้ความเป็นธรรม แต่การที่มาใช้สื่อฯ ตอบโต้กันไปมา ถ้าถามตน ก็ไม่อยากให้ทำ

เมื่อถามย้ำว่า จะถือโอกาสนี้กวาดขยะในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ นายกรัฐมนตรี บอกว่า “แน่นอนครับ หากมีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นไม่ไว้หน้าอยู่แล้ว  ตรงนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”

สั่งเข้มกวดขันยาเสพติด-ของเถื่อน

ส่วนกรณีการเชิญ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เข้าพบวานนี้ (22 ก.พ.) หลังมีรายงานการแก้ปัญหาทั้งยาเสพติดและของเถื่อน ยังไม่ดีเท่าที่ควรนั้น

เศรษฐา ชี้แจงว่า วันนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้บอกไปว่า ในพื้นที่ภาคเหนือ การบริหารจัดการปัญหาโดยรวมทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้าเถื่อน ยาเสพติด การเผาที่ส่งผลกระทบให้เกิด PM2.5 พื้นที่ภาคเหนือทำได้ดีมาก เนื่องจากมีการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมศุลกากร  

‘กาญจนบุรี’ ยังทำงานไม่ดีเท่าที่ควร เผย ‘รอง ผบ.ตร.’ เตรียมลุย ลั่นหากยังไม่ดีขึ้นจะลงพื้นที่เอง

แต่ในส่วนพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เข้าใจว่า เมื่อการบริหารจัดการทำได้ดีในพื้นที่ภาคเหนือ ผู้ทำผิดกฏหมายก็เปลี่ยนเส้นทางลักลอบเข้ามาทางฝั่งกาญจนบุรี จำนวนมาก นอกจากนี้ ได้รับข้อมูลอย่างชัดเจนว่า เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จุดความร้อนอยู่ที่กาญจนบุรีจำนวนมาก ขณะเดียวกัน สินค้าเถื่อนที่เข้ามา ก็เข้ามาจากฝั่งกาญจนบุรี รวมถึงยาเสพติดที่กาญจนบุรีก็มีเยอะ

ก็ต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ยังทำงานไม่ดีพอ ผมเองก็ได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบกด้วย ซึ่งท่านเองก็เข้าใจและได้ลงไปในพื้นที่ เพื่อเข้มงวดกวดขันในเรื่องนี้ วันนี้ได้ คุยกับรอง ผบ.ตร. ซึ่งท่านก็เข้าใจ และจะลงไปบริหารจัดการปัญหาเอง และอีกหนึ่งถึงสองสัปดาห์ ถ้ายังไม่ดีขึ้น ผมก็จะลงไปเอง เพราะถือเป็นจุดสำคัญ เป็นจุดยุทธศาสตร์เลยก็ว่าได้ ซึ่งเมื่อวานนี้ ก็ได้ไปที่สภาฯ พบกับ สส. ก็ได้บอกว่า สส.ต้องทำหน้าที่ให้เข้มงวดขึ้น ลงพื้นที่ให้มากขึ้น ถามไถ่ทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และให้ข้อมูลที่ถูกต้องเป็นธรรมกับหน่วยงานรัฐ เพื่อเข้าไปบริหารจัดการปัญหาให้ได้ดี

เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่เองต้องทำงานเชิงรุกหรือไม่ ไม่ใช่ปล่อยให้พื้นที่หนึ่งเข้ม อีกพื้นที่ก็กลายเป็นจุดอ่อน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ถูกต้อง ก็ต้องทำงานเชิงรุกด้วย ในส่วนของจังหวัดก็ได้สั่งการไปแล้ว อย่างเช่นที่จังหวัดระนอง ขอให้ช่วยทำด้วย เพราะหากปิดที่จังหวัดกาญจนบุรีได้ อาจจะไปโผล่ที่จังหวัดระนองอีก”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์