ไม่มีแนวคิดแก้กฎหมายลดอำนาจ ‘ผู้ว่าฯ ธปท.’ แต่อนาคตไม่รู้

6 พ.ค. 2567 - 10:00

  • ‘เศรษฐา’ ลั่นไม่มีแนวคิดแก้กฎหมายลดอำนาจ ‘ผู้ว่าฯ ธปท.’ แต่อนาคตไม่รู้

  • โยนเป็นหน้าที่กระทรวงคลัง ย้ำไม่เคยกดดันให้ลาออก-ขู่ปลด เมินโซเชียลฯ ติดแฮชแท็ก ‘เซฟผู้ว่าฯ’

  • วอนอย่าเอาความเห็นต่างมายกระดับเป็นความขัดแย้ง ชี้เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ต่างทำงานเพื่อประชาชน

Srettha-never-been-an-idea-to-amend-the-law-to-reduce-power-of-Governor-of-B-o-T-SPACEBAR-Hero.jpg

ถูกจับตามาอย่างต่อเนื่องสำหรับความขัดแย้งระหว่าง ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี กับ ‘เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ’ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทั่งมาถึงจุดเดือดเมื่อ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลั่นกลางอีเวนต์ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ‘10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10’ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ในทำนองว่า “ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นเศรษฐกิจ” จนกลายเป็นประเด็นร้อนเรียกเสียงวิจารณ์จากทุกสารทิศ

ส่วนในระหว่างลงพื้นที่เภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เศรษฐาได้ถูกถามถึงประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับผู้ว่าฯ ธปท. ที่มองว่าเป็นอุปสรรคต่อการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต แต่ทางนายกฯ ก็ยืนยัน ไม่เคยบอกว่าเป็นอุปสรรคของเงินดิจิทัล หากมีข้อสงสัย ตนเองก็มีหน้าที่ในการอธิบายตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา ส่วนที่มีความเห็นต่างกันนั้นได้ชี้แจงไปชัดเจนแล้ว

สำหรับกระแสข่าวรัฐบาลมีแนวคิดจะแก้พระราชบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจของผู้ว่าฯ ธปท. เศรษฐา ก็ยืนยันเช่นกันว่า ไม่ได้มีแนวคิดนี้ โดยเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ที่ต้องไปดูแล และไม่เคยพูดเลย 

อย่างไรก็ตาม มองว่าประเด็นตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ว่าฯ ธปท., รัฐบาล หรือสภาผู้แทนราษฎร เรามาอยู่ด้วยกัน เพราะว่าเราต้องดูแลพี่น้องประชาชน เรื่องนี้สำคัญสุด ส่วนเรื่องการแก้ไขกฎหมาย ต้องมีการส่งเรื่องมาจากกระทรวงการคลัง ซึ่งยังไม่เห็นส่งขึ้นมา

เมื่อถามว่า รัฐบาลประกาศเดินหน้าเงินดิจิทัล แต่มีข้อทักท้วงนั้น จะเป็นอุปสรรคต่อการจ่ายเงินอีกหรือไม่ เศรษฐา ก็ย้ำว่า “ไม่มีครับ มั่นใจครับ เรียบร้อยแล้วครับ หากมีคำถามมาก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องตอบ ซึ่งโครงการก็เริ่มเดินและเป็นไปตามโครงการทุกอย่าง”

ส่วนรัฐบาลจะยื่นให้กฤษฎีกา ตีความการใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เมื่อไหร่นั้น จะให้ทาง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นผู้ชี้แจง 

ส่วนเมื่อถามย้ำถึงแนวคิดที่จะแก้ไขกฎหมายลดอำนาจความเป็นอิสระของ ธปท.หรือไม่ เศรษฐา ก็บอกว่า “ผมไม่เคยพูด แต่อนาคตผมไม่ทราบ ต้องถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง”

เมื่อถามถึงกระแสข่าวและภาพที่ออกมาตอนนี้ ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเรื่องเงินดิจิทัล แม้รัฐบาลยืนยันว่า ได้แน่ในไตรมาส 4 โดยส่วนตัวจะมีโอกาสพูดคุยกับผู้ว่าฯ ธปท. แบบส่วนตัวเหมือนช่วงแรกๆ หรือไม่นั้น เศรษฐา ตอบว่า พูดไปชัดเจนแล้ว แต่เรื่องของเงินดิจิทัลที่บอกว่ามีปัญหา เพิ่งได้ยิน แต่ก็ไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไร มีการแถลงข่าวไปเรียบร้อย

แต่พวกท่านเอง ก็พยายามบอกว่ามีปัญหา มันไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ตอนนี้โครงการก็เดินไปแล้ว และได้มีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ตอนนี้ ทุกฝ่ายต่างคนต่างมีหน้าที่ต้องไปทำงานกัน ตรงไหนที่ต้องมีการตรวจเช็กที่กฤษฎีกา ก็มีการทำงานกันไป

เศรษฐา ทวีสิน

ส่วนเมื่อถามกรณีที่นายกฯ จะบอกว่าไม่เคยมีความขัดแย้ง แต่ภาพที่ออกมาสื่อถึงความขัดแย้งระหว่างกันนั้น เศรษฐา ก็ขออย่าดูที่ภาพ แต่ให้ดูที่เนื้องานดีกว่า

อย่างที่บอก เรื่องดอกเบี้ย ผมชัดเจน ไม่เคยปฏิเสธ ผมคิดว่าดอกเบี้ยสูงควรจะลด แต่ทางผู้ว่าฯ ธปท. บอกดอกเบี้ยไม่สูง ไม่ควรจะลด ใช่หรือไม่ ก็ชัดเจน ผมก็ต้องไปหาวิธีการอื่นที่จะบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชน โดยเชิญ 4 ธนาคารมาพูดคุย ซึ่งผมไม่เคยไปมีประเด็นอะไรกับท่านเลย ผมก็ได้เชิญธนาคารในกำกับอยู่แล้ว ก็ลดไปประมาณ 0.25% ซึ่งผมได้ขอบคุณไป และก็เดินหน้าบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชนต่อไป ผมไม่ได้มีการไปต่อว่าอะไรทางผู้ว่าฯ ธปท.

เศรษฐา ทวีสิน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวเสนอแก้กฎหมายยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า รัฐบาลต้องการลดอำนาจผู้ว่าฯ ธปท. เศรษฐา ก็บอกว่า “ต้องไปถามต้นตอของข่าว วันนี้ผมไม่ได้พูด” ส่วนภาพที่ออกมาเหมือนเป็นการกดดันให้ผู้ว่าฯ ธปท. ลาออก เศรษฐา ก็ย้ำว่า

ผมไม่เคยพูดให้ผู้ว่าฯ ลาออก รวมถึงเรื่องการปลดผู้ว่าฯ ด้วยความเคารพ ถ้าท่านผู้ว่าฯฟังอยู่ ผมไม่เคยกดดันนะครับ และไม่เคยพูดด้วยนะครับ ผมกดดัน ผมอาจจะมีการพูดคุยถึงเรื่องเนื้องานเป็นหลัก ผมเป็นผู้นำรัฐบาลพูดมาแค่นี้โดยตลอด ก็แค่นี้นะครับ

เศรษฐา ทวีสิน

เมื่อถามว่า ต่างคนต่างก็ให้สัมภาษณ์ โดยทางผู้ว่าฯ ธปท.บอกว่า นักการเมืองมาแล้วก็ไป ขณะที่ทาง ธปท. ต้องรักษาสภาพการเงินการคลังของประเทศนั้น เศรษฐา บอกว่า คงไม่ไปคอมเมนต์เกี่ยวกับว่าใครพูดอะไร แต่คิดว่าตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ, ธปท., รัฐบาล, สภาฯ เรามาทำงานเพื่อใคร เพื่อประชาชน จิตใจตนยึดโยงกับประชาชนอย่างเดียวและกฎหมาย

ส่วนจะทำอย่างไรให้อุณหภูมิความขัดแย้งลดลง ในเมื่อ ธปท.เป็นกระเป๋าเงินใหญ่ของประเทศ เศรษฐา กล่าวว่า อุณหภูมิจะถูกลดก็ต่อเมื่อปัญหาของพี่น้องประชาชนถูกแก้ไข

ทั้งนี้ จะต้องมีการเรียกผู้ว่าฯ ธปท. เข้ามาพูดคุยอย่างจริงจังเพื่อลดปัญหาต่างคนต่างพูด เศรษฐา ก็มองว่า ไม่ได้ต่างคนต่างพูด ตนเองยึดโยงกับพี่น้องประชาชนอย่างเดียว ผู้ว่าฯ ธปท. ก็พูดเอง มีอะไรสื่อสารก็สื่อสารผ่านกระทรวงการคลัง จึงขอให้เป็นไปตามระบบ และจะติดตามผ่านสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งได้มีการสั่งการไปแล้วและเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ก็ได้มีการให้สัมภาษณ์ย้ำไปแล้ว 

ส่วนเมื่อถามว่า ช่วงแรกๆ นายกฯ กับผู้ว่าฯ ธปท. มีการยกหูคุยกัน เศรษฐา ก็บอว่า

ท่านผู้ว่าฯ บอกผมชัดเจนแล้วว่า ไม่อยากให้ผมสื่อสารโดยตรงกับท่าน ให้ผ่านกระทรวงการคลัง ผมก็ทำตามที่ท่านบอกมา และผมก็ไม่ได้เชิญสื่อมวลชนมากล่าวโทษผู้ว่าฯ หรืออะไรเลยใช่ไหม เมื่อท่านถามมาว่า ดอกเบี้ยสูงไหมผมก็บอกว่าดอกเบี้ยสูงก็เท่านั้นเอง ผมไม่ได้เป็นคู่กรณีกับผู้ว่าฯ คู่กรณีของผมคือความยากจนของพี่น้องประชาชน และความยากจนเกิดมาจากดอกเบี้ยสูง ผมก็บอกแค่นี้ ถ้าจะเปลี่ยนใจผมอย่างไรก็เปลี่ยนใจผมไม่ได้ ฝ่ายการเมือง ฝ่าย สส. รัฐมนตรี และองค์กรอิสระ อย่างเช่น ธปท.เอง ก็มีความปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชน แต่มองปัญหาคนละแบบเท่านั้นเอง ซึ่งต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำซึ่งกันและกัน

เศรษฐา ทวีสิน

เมื่อถามว่า ดูเหมือนนโยบายการเงินการคลังไปคนละทาง กันจะทำให้บริหารงานยากหรือไม่ เศรษฐา ก็ยอมรับว่า มีความลำบากเหมือนกัน ซึ่งต้องมีการพูดคุยกัน อย่างที่ผู้สื่อข่าวเคยมีคำแนะนำมา ซึ่งได้พูดผ่าน สศค.ไป

ส่วนกรณี ธปท.อาจจะต้องรักษาหนี้สาธารณะ ขณะที่รัฐบาลก็ต้องแก้ไขหนี้ครัวเรือน จะทำอย่างไรให้มาจูนกันได้นั้น เศรษฐา กล่าวว่า มีหลายองค์ประกอบ หนี้สาธารณะก็เป็นเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ถ้าสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ จีดีพีโต เราก็กู้ได้อีก เปอร์เซ็นต์ของหนี้สาธารณะก็ไม่ได้สูงขึ้น เราก็ต้องมีกรอบชัดเจน ต้องไม่สูงกว่า 70% ของจีดีพี ตรงนี้เป็นข้อตกลงร่วมกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร หน้าที่ตนเองคือเอานโยบายการคลัง มาดูแลพี่น้องประชาชน มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ เมื่อถามว่า ถ้าจะพูดประโยคหนึ่งถึงผู้ว่าฯ ธปท. อยากจะพูดอะไร เศรษฐา ก็ร่ายยาวบอกว่า

ไม่ครับ ผมว่าไม่มี ผมพูดชัดเจนแล้วสิ่งที่เราเห็นด้วยไม่เห็นด้วย อย่าว่าแต่ผู้ว่าฯธปท.เลยครับ คนในรัฐบาลเองคนในพรรคเอง เราก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทุกคน นโยบายต่างๆมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เราเป็นผู้ใหญ่แล้วเราก็พูดคุยกันไป อย่าให้มีวาทะกรรมว่า จะปลด จะอะไร มันไม่ใช่ ไม่ได้อยู่ในความคิดของผมเลย แม้กระทั่งนิดเดียว เราอยู่ด้วยกันเป็นผู้ใหญ่ ก็มีความประสงค์ดีกับพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้น ความเห็นต่างก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว วันนี้ผมก็ไม่ได้เห็นตรงกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ทุกเรื่อง แต่เราก็คุยกัน มีภาษาที่สามารถพูดคุยสื่อสารกันได้ พยายามที่จะยืดหยุ่นประนีประนอมกันได้ เพราะผมเชื่อว่าทุกคน รวมถึงทุกคนที่ยืนอยู่ที่นี่ มาทำงานเพื่อประชาชน อย่าไปเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาดีกว่า เรื่องความขัดแย้ง เป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้มีเกิดขึ้น แต่เมื่อมีความเห็นต่าง เราก็พยายามบริหารความเห็นต่างตรงนี้ บนบรรทัดฐานของการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน

เศรษฐา ทวีสิน

เมื่อถามถึงความรู้สึกต่อกระแสโซเชียลมีเดียที่ติดแฮชแท็ก ‘เซฟผู้ว่าฯ ธปท.’ เศรษฐา ก็ร่ายยาวอีกครั้งว่า “ไม่มีคอมเมนต์ครับ เพราะผมมองว่าท่านไม่มีอะไรที่จะต้องถูกเซฟ เพราะท่านก็มาถูกต้อง ท่านก็มีหน้าที่ของท่าน ก็ทำงานไป หลายๆอย่างที่ท่านทำผมเห็นด้วยก็มี ก็เหมือนกันหลายๆอย่างที่ผมทำเชื่อว่าท่านก็เห็นด้วย และหลายอย่างที่ผมทำก็อาจจะไม่เห็นด้วย แต่เราเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันแล้ว อย่างน้อยนะครับฝ่ายผมก็มาทำเพื่อประชาชน ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะไปขัดแย้งกับใคร ไม่มีข้อคิดเห็นที่ว่าจะต้องเซฟ”

ผมว่า ท่านไม่ต้องการการเซฟ เพราะไม่มีใครจะไปปลดท่าน ไม่มีใครพูด รัฐมนตรีคนใหม่ก็ไม่ได้พูด ผมเองก็ไม่ได้พูดใช่ไหม เพียงแต่ท่านแปลเรื่องเราไม่เห็นตรงกันในบางเรื่องใช่หรือไม่ พยายามยกระดับขึ้นไปให้เกิดความขัดแย้ง แต่ผมยืนยันนะที่นี้ ไม่ว่าจะในสาธารณะหรือส่วนตัวก็ตาม ผมก็พูดแบบนี้แหละ เรื่องดอกเบี้ยเรื่องเดียว ผมไม่ได้พูดเรื่องการกำกับดูแลแบงค์ หรือหนี้เสีย ก็ไม่ได้พูด ท่านก็ดูหนี้เสียให้มีอัตราที่ดีแล้ว เราก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เรื่องที่มันดี มันถูกต้อง ก็ไม่ต้องชมกันหรอก ท่านก็ทำของท่านในสิ่งที่ดีไป และผมก็มั่นใจว่า สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ในหลายๆ เรื่อง เช่น การลงพื้นที่ใน 2 วันที่ผ่านมา ก็เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน แต่เราก็ไม่เห็นด้วยในเรื่องการลดดอกเบี้ย ก็ต้องว่ากันไป ซึ่งผมก็มีวิธีการที่จะดูแลปัญหาตรงนี้ เช่น เชิญผู้บริหารธนาคารมาคุย ซึ่งเป็นธนาคารรัฐ เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน

เศรษฐา ทวีสิน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์