หลังช่วงเช้าที่ผ่านมา (22 เม.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเอาผิด เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตามมาตาม 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปมถูกให้ออกจากราชการ และเรื่องการแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. อย่างไม่เป็นธรรม รวมถึงขอให้เอาผิดคณะพนักงานสอบสวนที่ทำคดี ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีอำนาจ
ล่าสุดช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเคยมีคนร้องไปแล้ว และครั้งนี้มาร้องซ้ำอีก มั่นใจชี้แจงได้และมีคำสั่งแต่งตั้งด้วยความเป็นธรรม
ส่วนการที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ครั้งนี้ เพราะเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและไม่ได้เป็น ผบ.ตร. เศรษฐา อธิบายว่า คะแนนในการโหวตในวันประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ชัดเจนแล้ว มีมติ 9 ต่อ 1 เป็นอะไรที่บ่งบอกชัดเจนว่า มีคนไม่ออกเสียง 1 คะแนน แต่นอกนั้นเป็นคนที่เลือก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นผบ.ตร ดังนั้นคนที่ไม่เห็นด้วย 1 เสียงก็เป็นเอกฉันท์
ส่วนที่มีการร้องเรียนเรื่องมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และการให้ออกจากราชการไว้ก่อน เศรษฐา ชี้แจงว่า เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอมา และตัวเองเพียงรับทราบเฉยๆ อีกทั้งหากไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกมาตรา 157 มากกว่า พร้อมย้ำมั่นใจว่าทำตามกฏหมายทุกอย่าง และไม่ได้เข้าข้างใคร ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดคนหนึ่ง
‘เศรษฐา’ ยอมรับส่วนตัวสงสัยเหมือนกันว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร. จบไปนานแล้ว แต่เหตุใดถึงเพิ่งมาร้องเรียน แต่ไม่เป็นไรเพราะเชื่อว่าทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ไม่ได้ลำเอียงให้คนใดคนหนึ่ง ยึดเอาผลประโยชน์พี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง
สำหรับความคืบหน้าผลสอบของตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการ ได้รายงานมาหรือยัง เศรษฐา ตอบว่า ยัง ช่วงวันหยุดก็คุยกันอยู่ แต่เรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกกล่าวหาเป็นคนละเรื่องกัน และเรื่องนี้ยังดำเนินการต่อไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ไม่ได้เร่งของคนใดคนหนึ่ง และไม่ได้มีธงว่าใครต้องผิด
นอกจากนี้ เศรษฐา ยังชี้แจงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ตัวเองยังไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย และหากมีการปรับ ครม. จริง ยืนยันจะไม่ใช่การปรับเงียบๆ เพราะการแต่งตั้งทุกอย่างต้องทำตามกระบวนการ
