‘คปท.’ ลุยยื่น สตง.ระงับ ‘แจกเงินดิจิทัล’ ชงแจ้ง ‘ป.ป.ช.-กกต.-หน่วยงานเกี่ยวข้อง’ ตรวจสอบ

20 ต.ค. 2566 - 05:16

  • กระแสต้านทุกทิศ! ‘คปท.’ ยื่นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ระงับโครงการ ‘แจกเงินดิจิทัล’

  • ชงแจ้ง ‘ป.ป.ช.-กกต.-หน่วยงานเกี่ยวข้อง’ ให้สอบสวน หวั่นก่อความเสียหายต่อระบบการเงินการคลังของประเทศ

  • ด้าน ‘จุรินทร์’ ย้ำไม่ขวาง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ชี้ตัวแทน ‘กระทรวงการคลัง’ แจงไม่เคลียร์เอาเงินจากไหน-ทำอย่างไร

  • เผยขอเกาะติดผ่าน ‘กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ’ ของสภาฯ คู่ขนานให้ ‘พิสิษฐ์’ ติดตามในนาม ‘ประชาธิปัตย์’

Submit_to_Office_of_the_Auditor_General_of_TH_to_suspend_digital_wallet_project_SPACEBAR_Hero_ad766a5246.jpg

เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย พิชิต ไชยมงคล, นัสเซอร์ ยีหมะ, สอและ กูมุดา, ภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ให้ดำเนินการระงับหรือยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐ ในโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท แก่ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปี ของรัฐบาล โดยมีที่ปรึกษาผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้รับหนังสือแทน พร้อมเรียกร้องดำเนินการ 3 ข้อ ประกอบด้วย

1\. ขอให้ระงับโครงการแจกเงินดิจิทัล ซึ่งจะสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงแก่ระบบการเงินการคลังของประเทศ โดยใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญที่ท่านสามารถกระทำได้ ตามและโดยอาศัยบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 240 มาตรา 244 และมาตรา 245

2\. แจ้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวน หรือปฏิบัติตามหน้าที่ในการดำเนินการเอาผิดต่อผู้กระทำการทุจริต หรือแจ้งเหตุว่าจะมีการทุจริตในโครงการจนเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อการเงิน-การคลังของประเทศ

3\. แจ้งรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา ให้ยกเลิกโครงการแจกเงินดิจิตอล เพื่อระงับยับยั้งความเสียหายอย่างร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นแก่การเงินการ-คลังของประเทศ พร้อมทั้งเปิดเผยผลการสืบสวนสอบสวนตามข้อ 1. ต่อประชาชนเพื่อทราบด้วย

Submit_to_Office_of_the_Auditor_General_of_TH_to_suspend_digital_wallet_project_SPACEBAR_Photo01_2f418542e1.jpg

‘จุรินทร์’ ย้ำไม่ขวาง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ เผยตัวแทน ‘ป.ป.ช.-ธปท.’ แจงเคลียร์

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจของสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้เสนอญัตติให้มีการพิจารณาเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ในที่ประชุม ว่า 3 หน่วยงานที่มาชี้แจง มี 2 หน่วยงานที่มีความชัดเจนคือ ผู้แทนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นเตรียมการลงนามในคำสั่งตั้งคณะกรรมการติดตามโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของรัฐบาล ตาม มาตรา 32 ของ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ โดยจะเชิญผู้ที่มีความรู้เข้ามาร่วมเป็นกรรมการติดตามด้วย  

ส่วนผู้แทนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ให้ข้อมูลชัดเจนว่า จากการคาดการณ์เศรษฐกิจประเทศของ ธปท. เศรษฐกิจในปีนี้จะโตราว 2.8% และในปี 2567 จะโตประมาณ 4.4% อยู่แล้ว แม้ไม่มีการแจกเงิน 560,000 ล้านบาท และหากมีการแจกเงิน ก็จะมีผลในการกระตุ้นการบริโภคระยะสั้น และจะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่มา

Submit_to_Office_of_the_Auditor_General_of_TH_to_suspend_digital_wallet_project_SPACEBAR_Photo02_4385b3ea1b.jpg

‘กระทรวงการคลัง’ บอกไม่ได้เอาเงินจากไหน-ทำอย่างไร ลั่นขอเกาะติดผ่าน ‘กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ’ พร้อมให้ ‘พิสิษฐ์’ ดูคู่ขนานฝั่ง ‘ประชาธิปัตย์’ ส่วนผู้แทนกระทรวงการคลัง ยังไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนต่อคำถาม 2 ข้อ ที่ถามคือ 1.จะทำอย่างไร และ 2. จะเอาเงินมาจากไหน โดยตอบแต่เพียงว่า จะทำให้ถูกกฎหมายและจะไม่ใช้เงินที่ผิดวินัยการเงินการคลังเท่านั้น แต่ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับว่าหน่วยราชการส่วนใหญ่ที่มาให้ความเห็นกับกระทรวงการคลังนั้น ส่วนใหญ่อยากให้ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วเป็นเครื่องมือในการจ่ายเงิน นั่นหมายความว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลก็ยังไม่มีความชัดเจนทั้งสองเรื่อง ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ รมช.คลัง ได้ออกมาแถลงเลื่อนโครงการออกไปอีก

“ผมจะติดตามเรื่องนี้ผ่านคณะ กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ ของสภาฯ ต่อไป เพื่อให้โครงการนี้เกิดประโยชน์สูงสุดและเกิดความเสียหายต่อประเทศให้น้อยที่สุดถ้ามี ส่วนในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ผมได้มอบหมายให้นายพิสิษฐ์ ลี้อาธรรม อดีต รมช.คลัง และประธานนโยบายพรรคได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และแถลงให้ความเห็นเป็นระยะ แต่จะไม่ไปขัดขวาง เพราะถือเป็นสิทธิ์ของรัฐบาลในการที่จะมีนโยบายอย่างใดอย่างหนึ่ง”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์