ที่ทำเนียบรัฐบาล สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยความคืบเรื่องส่งทนายไปฟ้องหมิ่นประมาท รักชนก ศรีนอก และ สหัสวัต คุ้มคง สส.พรรคประชาชน หลังพูดพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้งบลงทุนซื้อตึก Skyy9 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน
สุชาติ ระบุว่า รูปแบบการฟ้องเป็นรูปแบบต่างกรรมต่างวาระ โดยฟ้องเรียกค่าเสียหาย ฐานทำให้เสียชื่อเสียง 50 ล้านบาท พร้อมระบุว่าการฟ้องเรียกค่าเสียหายครั้งนี้ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองและคนในครอบครัว เพราะวันก่อนพ่อและแม่ผม นั่งรถเข็นมาสอบถามด้วยความเป็นห่วง
ทั้งนี้ หากศาลประทับร้องฟ้อง ขั้นตอนต่อไปจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อ เอาผิดมาตรฐานจริยธรรม สส.รักชนก และ สส.สหัสวัต ต่อ
สุชาติ ยังชี้แจงว่า การเป็นบุคคลสาธารณะ รัฐมนตรี สส. ต้องตรวจสอบได้หมด และพร้อมให้คนอื่นตรวจสอบในกระบวนการที่ถูกต้อง แต่การให้ข่าวที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นในที่สาธารณะ ควรต้องรู้จริง ถึงจะเป็นที่ยอมรับของสังคม
ส่วนที่มีข่าวว่า สส.รักชนก ไปพูดคุยกับ ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อขอข้อมูล จากการสอบถามศิริวรรณ บอกว่าไม่ได้พูดคุยอะไรกับ สส.รักชนก เลย ฉะนั้น คนเราต้องพูดความจริง ควรเป็นตัวอย่างให้นักการเมืองรุ่นหลังๆ
สุชาติ ย้ำว่า เรื่องที่เกิดขึ้นส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีอะไรสืบเนื่องมาถึงตัวผม
เมื่อถามว่าเป็นการฟ้องเพื่อปิดปากหรือไม่ สุชาติ ตอบว่า หากผมไม่ฟ้องศาลแล้วใครจะเป็นคนตัดสิน เพราะศาลเป็นที่พึ่งของผู้บริสุทธิ์ แล้วคนที่เป็นนักการเมืองหรือคนที่จะมากล่าวหาลอยๆ โดยไม่มีหลักฐานและไม่ใช่เรื่องจริง ต้องได้รับผลสุดท้ายว่าอะไรคืออะไร เมื่อถามว่าหากคู่กรณีมาขอโทษจะยอมหรือไม่ สุชาติ ตอบว่า
“คนๆ นี้มันเหนือการเยียวยา สังคมรับไม่ได้ คุณก็รู้ว่าเขามีคดีอื่นอยู่ แล้วคนอย่างผมตรงข้ามกับคนพวกนี้ล้านเปอร์เซ็นต์ และคิดว่าคนอย่างนี้ไม่ใช่คนที่สำนึกผิดได้”
สุชาติ กล่าว
ต่อมามีรายงานว่า ศาลอาญา ได้ประทับรับฟ้อง โดยกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องเป็น วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น. โดย สุชาติ ชมกลิ่น จะเดินทางมาให้ปากคำในฐานะพยานและผู้เสียหายด้วยตัวเอง