รัฐสภา (25 กรกฎาคม 2567) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎรแถลงสรุปผลการประชุม กมธ.นัดสุดท้าย ว่า ที่ประชุมมีมติรับรองรายงานการประชุม โดยมีข้อสรุปสำคัญดังนี้
1.ให้มีการนิรโทษกรรมคดีที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง นับตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน โดยใช้รูปแบบคณะกรรมการพิจารณาตามบัญชีแนบท้ายว่ามีคดีที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองใดบ้างที่เข้าข่าย หรือเข้าเงื่อนไขที่จะได้รับการนิรโทษกรรม
2.คดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เช่น คดีที่มีความผิดต่อชีวิต หรือละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงตามมาตรา288,289 ไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการนิรโทษกรรม
3.คดีที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง เช่น คดีตามมาตรา 110 โดยเฉพาะคดีตามมาตรา 112 ที่สังคมจับตาว่าจะรวมในการนิรโทษกรรม หรือไม่
โดย กมธ.ฯ มีข้อสรุป แบ่งออกเป็น 3 ความเห็น คือ 1.ไม่เห็นด้วยให้นิรโทษกรรมในคดีมาตรา 110 และมาตรา 112 ความเห็นที่ 2.เห็นควรให้นิรโทษกรรมในคดีมาตรา 110 และมาตรา 112 โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ และ 3.เห็นควรให้นิรโทษกรรมในคดีตามมาตรา 110 และมาตรา 112 แต่ต้องมีมาตรการ มีเงื่อนไข เช่น ให้มีคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาว่ามีมูลเหตุจูงใจใด ให้มาแถลงข้อเท็จจริงให้ทราบ มีมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ เป็นต้น โดยความเห็นของทั้ง 3 กลุ่มประเภท จะได้บรรจุลงไปในรายงานเพื่อเสนอต่อสภาฯ ไปพิจารณาด้วย
ชูศักดิ์ กล่าวว่า “วันนี้มีความคืบหน้าอีกประการที่มีมติชัดเจนคือ ควรมีมาตรการในทางบริหารก่อนที่จะมีการนิรโทษกรรม เช่น คดีต่างๆ ที่เป็คคดีเล็กค้างอยู่ในโรงพัก แต่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งมาตรการทางบริหารสามารถใช้ได้ก่อนที่จะมีการตรากฎหมายนิรโทษกรรม เช่น มาตรการสั่งไม่ฟ้อง มาตรการตามมาตรา 21 ของกฎหมายอัยการหรืออื่นๆ ที่จำเป็นได้เพิ่มเข้าไป
นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตว่าการนิรโทษกรรมมันจะเป็นไปได้ที่สุด รัฐบาลต้องรับเรื่องนี้ไปพิจารณา หรือเป็นเจ้าภาพ เพื่อช่วยกันเร่งรัด พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้เกิดขึ้น จะได้เกิดความสำเร็จในการประนีประนอม น่าอยู่น่าอาศัย ไม่ต้องทะเลาะกันเหมือนในอดีต”
ด้าน นิกร จำนง เลขานุการ กมธ.ฯ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) กมธ.ฯ จะยื่นรายงานการประชุมของ กมธ.ฯ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม จากนั้นจะดำเนินการจัดพิมพ์รูปเล่มเพื่อแจกต่อสมาชิก คาดว่าใช้เวลาในการจัดพิมพ์ประมาณ 20วั น
นอกจากนี้จะขอให้ทางวิปรัฐบาลเสนอให้นำขึ้นมาเป็นวาระพิจารณาเร่งด่วน เนื่องจากอยู่ในความสนใจของประชาชน คาดว่าจะสามารถ