จากยุค 'บิ๊กตู่' ถึง 'เศรษฐา' บ้านพักร้อน 'บิ๊กโจ๊ก' หนีเรื่องร้อนๆ

20 มีนาคม 2567 - 08:40

Surachet-Prayut-Srettha-Office-of-the-Prime-Minister-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ย้อนอดีต ‘บิ๊กโจ๊ก’ เข้า ทำเนียบฯ ครั้งที่ 2 จากยุค ‘บิ๊กตู่’ ถึงยุค ‘เศรษฐา’ กลายเป็น ‘บ้านพักร้อน’ จากเรื่อง ‘ร้อนๆ’ กับ ‘อายุราชการ’ 7 ปี ชิงนั่ง ผบ.ตร.

  • แต่งานนี้ไม่ง่าย ว่ากันว่า เป้าหมายสูงสุด ต้องเตะ ‘บิ๊กโจ๊ก’ พ้นจาก ‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ เท่านั้น ผลพวง ‘โตเร็ว’ ตำนาน ‘แมวเก้าชีวิต’ ยังใช้ได้หรือไม่ อนาคตเจ้าของฉายา ‘โจ๊กหวานเจี๊ยบ’ จะเป็นอย่างไร ?

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล โดยเด้งเข้ากรุสำนักนายกฯ ที่แตกต่างจากในอดีตคือ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. โดนเด้งให้มาช่วยงานที่สำนักนายกฯ ด้วย ผลพวงจากศึกในวงการ ตร. ที่เปิด ‘รายการแฉ-ท้าพิสูจน์’ กันเอง 

ย้อนกลับไป 5 เม.ย. 2562 บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขณะนั้น ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พ้นจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไปปฏิบัติราชการ ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สตช. แทน 

ผ่านมา 4 วัน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช. ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 2/2562 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มเติม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อยู่ในบัญชีรายชื่อเพิ่มเติมตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558 โดยให้ขาดตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ใน สตช. เพื่อโอนไปเป็น ข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทนักบริหารระดับสูง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) 

ม.ค. 2563 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ขอลาอุปสมบท เพื่อทดแทนบุญคุณ บิดา มารดา ที่วัดไทยในพุทธคยา ประเทศอินเดีย ก่อนที่จะกลับมารับตำแหน่งที่สำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล  

ก.พ. 2563 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้รับมอบหมายให้เป็น ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี  ทำหน้าที่ให้ข้อสนอแนะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน 

ก.ย. 2563 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มอบหมายให้ทนายความส่วนตัว ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ในขณะนั้น ต่อศาลปกครอง ออกคำสั่งย้ายโอนไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ศาลได้ตัดสินไม่รับคำฟ้อง  

มี.ค. 2564 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับเข้าเป็น ข้าราชการตำรวจ อีกครั้ง หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ลงนามโอนย้ายกลับ สตช. อีกครั้ง พร้อมให้สอบเรื่องต่างๆ ที่ สตช. ต่อไป 

ขณะที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ในขณะนั้น ให้ระบุว่า คำสั่งของนายกรัฐมนตรีคือ ให้พิจารณาทุกคนที่ค้างอยู่ในสำนักนายกรัฐมนตรี เวลานี้ ถ้าเคลียร์ได้ก็ให้พยายามเคลียร์ออกไป ส่วนรายละเอียดอยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาอยู่ ว่ามีใครบ้างที่ไม่มีคดี ถ้าใครยังมีเรื่องติดอยู่ที่ ป.ป.ช. อาจจะเคลียร์ยาก ถ้าใครไม่มีเรื่องที่เกี่ยวกับ ป.ป.ช. ก็โอเค 

ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้กลับมาเติบโตที่ สตช. อีกครั้ง จนได้ขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร. ขึ้นเป็นแคนดิเดท ผบ.ตร. ที่เหลืออายุราชการ 7 ปี เกษียณฯปี 2574 สำหรับ แคนดิเดต ผบ.ตร. เมื่อปี 2566 ได้แก่ รอง ผบ.ตร. 4 คน เรียงตามลำดับอาวุโส ได้แก่ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการ ปี 2567 , พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการ ปี 2574 , พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการ ปี 2569 และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เกษียณอายุราชการ ปี 2567 

ในช่วงก่อนแต่งตั้ง ผบ.ตร. วิบากกรรมได้มาเผชิญ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดนค้นบ้านพัก เกิดภาพ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สวมชุดนอนยื่นอยู่หน้าบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์โยง ‘บิ๊กโจ๊ก-ลูกน้อง’ กับคดีเว็ปพนัน 

บทสรุปสุดท้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อาวุโสลำดับที่ 4 ขึ้นเป็น ผบ.ตร. ส่วน พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ถูกโยกออก สตช. หลัง ครม. แต่งตั้งเป็น เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แทน ทำให้ชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เลื่อนลำดับอาวุโส มาเป็นลำดับที่ 1 แต่ล่าสุด นายกฯ ลงนามเด้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาช่วยงานสำนักนายกฯ ชั่วคราว 60 วัน และแต่งตั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการแทน 

อายุราชการของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่เหลืออีก 7 ปี เกษียณฯปี 2574 ทำให้ใกล้ถึงฝั่งฝันขึ้นเป็น ผบ.ตร. ที่นั่งตำแหน่งได้ยาวนาน สิ่งที่เกิดขึ้นกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงหนีไม่พ้นเรื่อง ‘การเมือง’ ในวงการตำรวจ ที่ไม่จบง่ายๆ ตรงข้ามกับที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวหลังเคลียร์ใจกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ต่อหน้า ‘เศรษฐา’ ที่ทำเนียบฯ ว่า “จบแล้ว” 

เพราะเป้าหมายสูงสุด ว่ากันว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต้องพ้นจาก สตช. เท่านั้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์