สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานอัยการสูงสุด 3 ประเด็น เกี่ยวกับสัญญาโครงการเรือดำน้ำ ขั้นตอนการเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำ ผู้มีอำนาจในการแก้สัญญา ว่า เป็นไปตามที่ ผบ.ทร.กล่าว วันนี้กำลังเดินหน้าสู่การแก้ปัญหาและหาทางออก แต่ทางออกที่กำลังแสวงหาอยู่ ก็ต้องฉุกคิดว่าในข้อกฎหมายทำได้เท่าใด และใครจะเป็นคนทำ ก่อนจะเดินไปไกลกว่านี้ ก็ต้องเคลียร์ตรงนี้ก่อน
จึงให้กองทัพเรือทำหนังสือไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อได้รับคำตอบมาอย่างไร ก็จะสามารถกำหนดทางออกที่ถูกต้องได้ ไม่ต้องมีใครมาพะวง ส่วนจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้หรือไม่ ตนจะต้องขอเร่งรัดไปยังอัยการสูงสุด ซึ่งเชื่อว่าจะไม่นาน
เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคก้าวไกล ที่อยากให้แก้สัญญาเรือดำน้ำนำถกในสภาฯ มากกว่าให้เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียว สุทิน กล่าวว่า เขาก็คิดแบบนั้น เพราะฝ่ายค้าน ผมเคยเป็นมาก่อน อะไรก็อยากลากเข้าสภาฯ ถ้าไม่ลากเข้าสภาฯ เขาก็ไม่ได้โชว์ ไม่ได้พูด เขาก็อยากมีส่วนร่วม เป็นธรรมดา เพราะถ้าเอาเข้าสภาฯ เขาก็มีส่วนร่วมเสนอแนะ มองในแง่บวกก็ถือว่าเขาก็มีกุศลเจตนา แต่เราเองเป็นฝ่ายบริหาร ก็ต้องดูว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 178 หรือไม่
คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร บอกว่าผมอ่านกฎหมายรัฐธรรมนูญไม่แตก ตีความไม่ถูก เขาบอกว่าจริงๆ เรื่องนี้มันเป็นสัญญาที่ต้องเอาเข้าสภาฯ ผมดูเรื่องนี้ไม่ได้ดูง่ายๆ ผมมีทีมศึกษา ถ้าบอกว่าเรื่องนี้ต้องเข้าสภาฯ มันต้องเข้าตั้งแต่ตอนทำครั้งแรก รัฐบาลก่อนต้องเอาเข้าสภาฯ จะมาเอาเข้าอะไรตอนนี้ ตอนนั้น คุณวิโรจน์ ก็เป็นฝ่ายค้านกับผม ตรวจสอบเขา แต่ไม่ได้เรียกร้องให้เอาเข้าสภา ทำไมไม่พูด ทำไมไม่ท้วงติง ทำไมไม่บอกให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เอาเข้าสภาฯ แต่ตอนนี้มาบอกให้สุทินเอาเข้าสภา ซึ่งผมดูอยู่
เมื่อถามว่าหัวใจจริงๆ ของเรือดำน้ำ ที่กองทัพเรือให้อัยการสูงสุดพิจารณานั้นคืออะไร นายสุทิน กล่าวว่า เราถามเขาดู เพราะเมื่อจีนไม่สามารถหาเครื่องยนต์มาได้ แล้วกองทัพเรือก็จะไปแก้ไขข้อตกลง หลังกองทัพเรือเข้าใจว่ามีอำนาจทำ แต่วันนี้พอมาดูกฎหมายแล้วมันกำกวมอยู่ เพราะฉะนั้นเพื่อให้ชัดเจน ก็ให้ไปดูว่ากองทัพเรือมีอำนาจแก้ไขข้อตกลงหรือไม่
ผมว่าวันนี้กังวลว่าทำอะไรแล้วจะถูกต้องที่สุด แม้ว่าได้เรือมา ก็ต้องถามว่าได้มาถูกต้องหรือไม่ สมมุติว่าได้ตามสเป็ก วันนี้ก็ต้องมาดู ว่าที่ทำไปถูกหรือไม่ หากแก้สัญญาแล้ว ก็ต้องดูว่ามีสิทธิแก้สัญญาหรือไม่ แล้วถ้าไม่ได้เรือดำน้ำ จะไปเอาอย่างอื่น ตามกฎหมายทำได้หรือไม่ สัญญาทำได้หรือไม่ ผมว่ากองทัพเรือเขาก็ต้องดูให้รอบคอบ แต่ถ้าถามว่าเขาอยากได้เรือดำน้ำหรือไม่ ทุกคนอยากได้ ผมก็อยากได้ แต่มันเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะเมื่อไม่ได้ จึงมีเหตุการณ์ในวันนี้ ถ้าวันนี้เป็นสเป็กเดิมมา จีนหาได้ก็เอาเลย เป็นสเป็กเดิมมา
เมื่อถามถึงจากท่าทีของจีน ดูจะไม่ยอมให้เปลี่ยนจากเรือดำน้ำเป็นเรือผิวน้ำ เพราะบริษัทที่จะต่อเรือผิวน้ำ อาจจะเป็นคนละบริษัทกับเรือดำน้ำ อีกทั้งบริษัทของจีนได้ต่อเรือลำน้ำลำแรกไปครึ่งลำแล้ว อาจจะเสี่ยงต่อภาวะขาดทุนได้ สุทิน กล่าวว่า แน่นอนว่าเขาก็ไม่อยากเปลี่ยน เขาก็ทำธุรกิจ เขาก็ลงทุน ถ้าเปลี่ยนเขาก็สุ่มเสี่ยงขาดทุน
คือกองทัพเรือก็อยากได้เรือดำน้ำ ทางนู้นก็อยากให้เรือดำน้ำ เพราะทางนู้นถ้าให้อย่างอื่น ก็มีโอกาสขาดทุน แต่ทางนี้ถ้าได้อย่างอื่น ก็ไม่ตรงกับเป้าหมาย แต่มันต้องจำนนด้วยเหตุผล ว่ามันเป็นเหตุที่ผิดพลาด จีนก็ต้องยอมรับว่าเขาผิดพลาด ที่ไปหามาไม่ได้
เมื่อถามว่าไม่ใช่ว่าผิดพลาดตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วหรือไม่ ในการตัดสินใจซื้อเรือดำน้ำ สุทิน กล่าวว่า เรื่องตัดสินใจซื้อผมว่าไม่พลาดหรอก แต่ซื้อแล้วไปทำข้อตกลงอย่างไร ไปดูว่ามันเป็นไปได้หรือเปล่า เครื่อง MTU ส่วนเมื่อถามว่าเป็นความบกพร่องของทีโออาร์ ที่ไม่ระบุให้ชัดเจนว่าเป็นเครื่องที่ผลิตในจีน แต่ได้ลิขสิทธิ์จากเยอรมันหรือไม่นั้น สุทิน กล่าวว่า ไม่อยากโทษว่าใครบกพร่อง แต่เมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องแก้ แต่อยู่ที่ว่าจะแก้อย่างไร ซึ่งต้องรออัยการสูงสุดตอบมา เมื่อตอบมาแล้วก็จะสามารถเดินหน้าได้ แบบมั่นใจทุกฝ่าย
เมื่อถามว่ารู้สึกเหนื่อยและหนักใจหรือไม่ หลังจากมาเป็นรัฐมนตรีแล้วเจอเรื่องเหล่านี้เลย นายสุทิน กล่าวว่า
ไม่หนักใจ เพราะทำและเดินหน้าโดยสุจริต แต่ถ้าคิดไม่สุจริต ก็ต้องคิดหนัก แต่อันนี้ไม่มีปัญหา เพราะมีกระบวนการขั้นตอนและข้อกฎหมายที่จะเดินไปอยู่ เราก็เดินตามนั้น
