‘กลาโหม’ จัดระดับความเข้ม เกาะติดสู้รบ ‘อิสราเอล-อิหร่าน’ ชายแดน ‘เมียนมา’

19 เมษายน 2567 - 09:42

Sutin-Defence-isreal-Iran-Myanmar-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘กลาโหม’ จัดระดับความเข้มสถานการณ์ สั่งติดตามสถานการณ์สู้รบ ‘อิหร่าน-อิสราเอล’ ชี้ยังไม่กระทบไทย เพราะระยะทางห่างไกล

  • เตรียมการระดับเข้ม ทอ. บินลาดตระเวน-เตือน ‘ชายแดนเมียนมา’ พร้อมสกัดกั้นอากาศยานหากรุกล้ำ

สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 4/2567 ที่ กองบัญชาการกองทัพอากาศ ว่า สาระที่พูดคุยกันมีอยู่หลายเรื่อง ประเด็นแรก คือที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านเกี่ยวกับการสู้รบในเมียนมา เพื่อให้เข้าใจ เท่าทันในการเตรียมตัว

โดยในที่ประชุมได้มีการรายงานยอดในการตรวจเลือกทหารเข้ากองประจำการ โดยมีนี้ได้ดำเนินการเป็นอย่างเรียบร้อย และได้ทหารตามเป้าหมายที่จะได้ แต่ที่น่าสนใจคือ ยอดทหารสมัครใจในปีนี้ ที่เพิ่มขึ้น เกือบ 9% แต่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่อยากได้ และอยากได้มากกว่านี้ ซึ่งจากการวิเคราะห์ก็ได้ผลออกมาว่า ปีนี้เป็นปีแรก เราเตรียมตัวช้า การประชาสัมพันธ์ก็สั้น ความเชื่อมั่นก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร รวมถึงปัจจัยลบ ที่อาจจะเกิดจากธรรมชาติ หรืออาจจะเกิดจากคนที่ตั้งใจสร้างขึ้น เช่น การฝึกนอกรีต การเอาทหารไปรับใช้ และอีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ส่งผลให้ผู้ปกครอง และเด็กยังหวั่นไหว โดยได้คุยกันในที่ประชุมว่า ในปีต่อไป เราต้องมาตั้งหลักใหม่ จะต้องประชาสัมพันธ์ให้พร้อมทุกมิติทุกช่องทาง รวมถึงร่วมมือกับภาคีอื่นๆ ในการสื่อสารไปถึงเด็ก และผู้ปกครอง และสั่งการในที่ประชุมว่าจะต้องจัดการปัจจัยลบทั้งหมดให้ได้

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องความคืบหน้าการปฏิรูปโครงสร้างกำลังพล และกองทัพ ซึ่งในการประชุมคราวก่อน ที่ประชุมสภากลาโหมเคยอนุมัติหลักเกณฑ์ในการให้มีข้าราชการพลเรือนฝนกระทรวงกลาโหม โดยวันนี้สำนักงานนโยบาย และแผนของกระทรวงกลาโหม จะเดินทางเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะจัดสัมมนากับกองกำลังพล ในการเตรียมความพร้อม เพื่อจัดโครงสร้าง และสื่อสารถึงกำลังพลให้เชื่อมั่นในเส้นทางใหม่ ภายในเดือนพฤษภาคมนี้

นายสุทิน ยังกล่าวถึงเรื่องงบประมาณแผ่นดินปี 67 ที่กำลังจะทูลเกล้าฯ ที่จะบังคับใช้ เหลือเวลาอีก 5 เดือน โดยได้กำชับทุกเหล่าทัพทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ให้ไปวางแผนดำเนินการจัดการให้ทันกับเวลา และจะต้องทำอย่าให้งบเสียหาย บนพื้นฐานของการยึดระเบียบปฏิบัติให้เคร่งครัด และโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และนำนโยบายของรัฐบาลไปดำเนินการให้ได้ เช่น การจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์ ให้ใช้ของภายในประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยี ก็ต้องขอถ้าทำได้ 

"คำว่าขอ เดี๋ยวฝ่ายค้านก็หาว่าตนหน่อมแน้มอีก สำหรับคนที่มีวินัยเคร่งครัด ใช้คำว่าขอก็จบ แต่ถ้าคนหย่อนยานทางวินัยผมก็จะต้องทุบโต๊ะ ฉะนั้นที่นี่ไม่ต้องทุบโต๊ะ ใช้แค่คำว่าขอ ก็เชื่อว่าจะทำสำเร็จ” สุทิน กล่าว 

ส่วนการเตรียมความพร้อมสำหรับการรองรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศอิหร่านกับอิสราเอล สุทิน ยืนยันว่า เราก็ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดให้รู้ทันก่อน ส่วนเรื่องการสู้รบนั้น มองว่า บางพื้นที่ยังอยู่ไกลจากเรา ผลกระทบก็จะค่อนข้างน้อย เราก็เตรียมการในระดับหนึ่ง ส่วนประเทศไหนที่อยู่ใกล้บ้านเราเราก็สั่งเตรียมการในระดับเข้ม เราก็ไม่ได้กำชับอะไรมาก แต่ก็สั่งให้จับตาอย่าประมาท

ส่วนภาพรวมแนวชายแดนเมียนมา เราก็มีคณะกรรมการชายแดนทั้งระดับที่ดูแลร่วมกัน ขณะที่กองทัพ ก็มีหน่วยทหาร ซึ่งกองทัพอากาศก็พร้อมที่จะขึ้นบิน โดยมีการบินลาดตระเวนหรือบินเตือน และบินป้องปรามอยู่ด้วย ไม่มีปัญหา พร้อมยืนยันในขีดความสามารถ หากมีการบินรุกล้ำเข้ามา เราก็พร้อมเครื่องบินสกัดกั้นได้โดยทันที จึงเป็นเรื่องที่ไม่หนักใจ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์