สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศหรือ Defense & Security 2023 ระหว่างวันที่ 6- 9 พ.ย.นี้มีผู้ประกอบการจากทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 500 บริษัทจาก 40 ประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งศาลานานาชาติจำนวน 25 ประเทศ ที่ อิมแพคเมืองทองธานี โดยมี พล.อ.สนิธชนก สังข์จันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ร่วมงาน นอกจากนี้ได้เชิญ รมว.กลาโหม จากมิตรประเทศ ผบ.เหล่าทัพ สมาชิกอาเซียน และเอกอัครราชทูต ร่วมงาน ที่สำคัญมี เอิง เอ็ง เฮ็น รมว.กลาโหมสิงคโปร์ มาร่วมชมงานด้วย
สุทิน กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า งานนิทรรศการ Defense & Security 2023 เป็นงานที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญสำหรับกระทรวงกลาโหมและกองทัพไทย เป็นที่ประจักษ์ทั่วกันว่าเป็นงานนิทรรศการสร้างเครือข่ายชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ทางด้านความมั่นคงและความปลอดภัยแห่งเอเชียที่ครอบคลุมการทหารทั้ง 3 เหล่าทัพ
นิทรรศการ Defense & Security 2023 ถูกสร้างสรรค์บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทุกระดับชั้นภายใต้แนวคิด ‘พลังแห่งความร่วมมือ’ โดยนิทรรศการนี้ได้นำประวัติอันยาวนานและแน่นแฟ้มในความร่วมมือกันระหว่างบริษัทนานาชาติที่ประกอบธุรกิจ รักษาความปลอดภัยและความมั่นคงภายใน มาใช้ให้เกิดประโยชน์ จะเปิดโอกาสให้บุคลากรทางทหาร ได้สร้างความสัมพันธ์ เชื่อมตรงกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนร่วมอาชีพ เพื่อสานสัมพันธ์ไมตรีแห่งประชาคมโลก
การจัดนิทรรศการครั้งนี้ถือว่าเป็นประโยชน์แก่กองทัพอย่างยิ่ง และภูมิภาคในอาเซียน ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมเล็งเห็นว่า นิทรรศการ Defense & Security 2023 ไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อกำลังพลทางทหารเท่านั้น แต่สำคัญต่อประเทศชาติอีกด้วย เนื่องด้วยรัฐบาลไทยมีนโยบายและเป้าหมายที่สำคัญที่จะส่งเสริมพัฒนา ความสามารถเทคโนโลยีของประเทศไทยด้านความมั่นคงและความปลอดภัยเพื่อให้บรรลุความสามารถในการพึ่งพาตัวเองอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการรักษาความมั่นคงภายในลดการนำเข้า ส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการส่งออกอุปกรณ์ทางการทหารที่ผลิตภายในประเทศ
ตอนนี้ถึงเป็นช่องทางให้เราประชาสัมพันธ์พัฒนาการของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการรักษาความปลอดภัยของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมโลก ตลอดจนความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอาวุธยุทโธปกรณ์และซอฟต์แวร์ ที่จะเสริมประสิทธิภาพและศักยภาพ ในการตัดสินใจ และมอบทางเลือกที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด กับความต้องการของกองทัพ
จากนั้น สุทิน ได้นำ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.เหล่าทัพ เดิมชมนิทรรศการของประเทศต่างๆ เช่น บริษัท KAI ของเกาหลีใต้ ที่ไทยเคยจัดหาเครื่องบินฝึกบิน T-50 TH
จากนั้นชมนิททรศการ บริษัท Elbit System ของอิสราเอล ที่สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ของกระทรวงกลาโหมไทย ได้ร่วมกันวิจัยและพัฒนารถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องเอนกประสงค์ D11A พร้อมกันนี้ ‘สุทิน’ ยังได้พบปะกับ ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย ระหว่างชมนิทรรศการฯ
จากนั้นได้เยี่ยมชม บริษัท Lockheed ของสหรัฐฯ ที่ผลิตเครื่องบินขับไล่ F-16 , เยี่บมชมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่ผลิตโดยกระทรวงกลาโหมของไทย สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ , บริษัท Norinco ของจีน ที่ผลิตรถเรดาร์ทางทหาร รถสะเทินน้ำสะเทินบก อากาศยานไร้คนขับ เป็นต้น โดยบริษัท Norinco ไทยเคยจัดหาจัดหายานเกราะโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก VN-16 เข้าประจำการ ทร. และรถถัง VT-4 เข้าประจำการ ทบ.
อย่างไรก็ตาม ‘สุทิน’ ไม่ได้เดินชมนิทรรศการของบริษัท CSSC ที่เป็นบริษัทที่ต่อเรือดำน้ำให้กับไทย โดยเป็นรัฐวิสาหกิจต่อเรือของจีน จากนั้น ‘สุทิน’ ได้ไปรับชมนทรรศการบริษัท SAAB ของสวีเดน ที่ผลิตเครื่องบินขับไล่กริพเพน ที่ไทยเคยจัดหามาประจำการ ทอ.
