‘เดือนสิงหาคม’ ปีนี้ ถือเป็นช่วงเวลา ‘หน้าสิ่วหน้าขวาน’ โดยเฉพาะกับผู้ที่อยู่ในแวดวงการเมือง เนื่องด้วยมี 3 ประเด็นร้อน ๆ ที่กำลังจะมาเยือน ได้แก่
- คดียุบพรรคก้าวไกล
- คดี ‘40 สว.’ ยื่นถอดถอน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
- ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะพ้นโทษ
อย่างไรก็ตาม แม้หลายคนวิตกกังวลถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจ ‘เกิดเหตุไม่คาดฝัน’ แต่ทาง ‘สุทิน คลังแสง’ รมว.กลาโหม ก็ยืนยันว่า “ไม่ห่วง”
ประเทศไทยมีประสบการณ์เรื่องนี้บ่อย รวมถึงมีระบบที่จะรองรับและฝ่ายแก้สถานการณ์ก็เก่ง และคนที่จะมาก็เก่ง และที่สำคัญคนไทยมีบทเรียน ถ้าเราเลยเถิดไปคงจะเจ็บปวด ซึ่งจากบทเรียนนั้น คนไทยคงไม่น่าจะทำอะไรให้เสียหาย
ส่วนได้ให้กำลังใจนายกฯ หรือไม่ สุทิน กล่าวว่า ยังไม่ถึงกับให้กำลังใจ เนื่องจากยังไม่มีอะไรส่งสัญญาณที่เสียหายกับนายกฯ เพียงแต่ให้กำลังใจกรณีมารดาของนายกรัฐมนตรีเสียชีวิต ซึ่งเรื่องอื่นมองว่า ไม่มีอะไรน่ากังวลสำหรับท่าน
เมื่อถามว่าได้พบกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ในงานวันเกิดทักษิณ หรือไม่ สุทิน ระบุว่า เจอกันเฉพาะในงานพระราชพิธีเท่านั้น ซึ่ง นพ.ชลน่าน ก็สดชื่นดี ส่วนเมื่อถามต่อไปว่า พร้อมยืนยัน ไม่ได้มีการพูดคุยกับทักษิณ
ดูท่านอิดโรย ผมมอบช่อดอกไม้เสร็จก็เดินทางกลับ
15 ก.ย. ‘โผทหาร’ ต้องจบ! ไม่ขัด ‘ผบ.เหล่าทัพ’ รุ่นเดียวกันยกแผง มอง ‘เก้าอี้ ผบ.ทบ.’ ไม่ส่งผลการเมืองอนาคต
สุทิน ยังชี้แจงถึงการประชุมสภากลาโหมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ว่า เป็นการเน้นย้ำกรอบและหลักคิดการทำโผโยกย้ายนายทหารประจำปี 2567 ซึ่งเข้าใจว่ายังมีเวลา ด้วยหลังจากพูดคุยกันวันนี้แล้วก็ให้ทุกเหล่าทัพไปดำเนินการ ส่วนตำแหน่งสำคัญ เช่น ผบ.ทบ. และ ผบ.ทร. จะให้หลักคิดในการเลือกคนอย่างไรนั้น มองว่า หลากหลายคงต้องรับฟังจากหลากหลายแนว คนในกองทัพยอมรับใคร รวมถึงความคิดเห็นของคนเก่า ผลงาน ฝีมือ ความรู้ ความสามารถ
ยอมรับว่าเรื่อง ‘รุ่น’ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา แต่ไม่ใช่ประเด็นหลัก
ส่วนการประชุมบอร์ดปรับย้ายนายทหาร ถึงขั้นต้องโหวตหรือไม่นั้น สุทิน มองว่า หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องโหวต แต่ทราบว่า ที่ผ่านมาไม่เคยต้องมีการโหวต ซึ่งการปรับย้ายช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็ไม่มีการโหวต ส่วนปรากฏการณ์การโยกย้ายเหล่าเราจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ไม่ทราบ
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปรับย้ายใหญ่ ถือเป็นครั้งแรกในฐานะที่เป็น รมว.กลาโหม แต่ไม่มีความกังวลอะไร และเชื่อว่าง่ายกว่ากระทรวงอื่น อีกทั้งเชื่อว่าการปรับย้ายครั้งนี้จะบริหารกันเองได้ ไม่ถึงขั้นต้องโหวต
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับคำพูดที่ว่าโผทหารเป็นของร้อน สุทิน กล่าวว่า “ของร้อนก็คือทำไม่ดี แต่เราจะทำให้ดีโดยการยึดหลักความเป็นธรรม”
สำหรับ ‘ฝ่ายการเมือง’ จำเป็นต้องพิจารณาตำแหน่งสำคัญ หรือจะยึดตามหรือจะยึดตามที่ ‘ผบ.เหล่าทัพ’ เสนอไปนั้น สุทิน บอกว่า จะฟังทั้งระดับข้างบน กลาง และล่าง
ล่างก็คือชั้นผู้น้อยในเหล่าทัพ กลางคือคนที่จะมาเป็นในระนาบเดียวกัน ส่วนบนก็คือฝ่ายการเมือง รวมถึงกระทรวง ทบวง กรม อื่น ๆ ที่จะทำงานร่วมกับทหาร
ส่วนกรณีที่มีการพูดถึง ‘ผบ.เหล่าทัพ’ ควรจะเป็นทหารรุ่นที่ 24 ทั้งแผง เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวในการทำงาน เพราะของเดิมที่ยังไม่เกษียณมีอยู่ 3 คนแล้วนั้น สุทิน ได้ย้ำว่า เรื่องรุ่นไม่ใช่ประเด็นแรกและประเด็นหลัก
เราดูที่ความรู้ ความสามารถ ในการยอมรับในกองทัพ ส่วนจะบังเอิญไปตรงกับรุ่นไหนก็ไม่เป็นไร หรือจะบังเอิญตรงกับรุ่นเดียวกันทั้งหมด เราก็ต้องยอมรับ
เมื่อถามถึงการเลือก ‘ผบ.ทบ.’ ต้องพิจารณาไปถึงอนาคตที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจการเมืองหรือไม่ สุทิน บอกว่า ในอดีตอาจจะใช่ แต่ต่อไปคิดว่าไม่มีผล เพราะปัจจุบันบรรยากาศการเมืองเปลี่ยน ทหารก็ไม่เข้ามายุ่งแล้ว และถ้าเขาไม่ยุ่งก็ไม่มีผล
ส่วนคุณสมบัติของ ‘ผบ.ทบ.’ ในมุมมองควรเป็นอย่างไรนั้น สุทิน บอกว่า “เป็นที่ยอมรับของกองทัพ ซึ่งก็จะทำให้เกิดความเป็นเอกภาพ” เมื่อถามย้ำว่า ฝ่ายการเมืองจะไม่ล้วงลูกโผทหารใช่หรือไม่ สุทิน บอกว่า ถ้าเป็น รมว.กลาโหม ไม่ถือว่าล้วงลูก เพราะต้องกำกับให้เป็นไปด้วยความเป็นธรรม ให้ได้คนที่เป็นที่ยอมรับมากที่สุด
เมื่อถามต่อไปว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ให้คำแนะนำเรื่องกองทัพบ้างหรือไม่ สุทิน ตอบว่า “ไม่หรอก ท่านไม่ยุ่ง” และให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนมากกว่า
ส่วนเมื่อถามถึงความกังวลต่อแรงกระเพื่อมภายในกองทัพ เพราะมีคนสมหวังก็ต้องมีคนผิดหวัง สุทิน ก็ยืนยัน “ไม่ห่วง เพราะเราไม่มีวาระพิเศษ และเชื่อว่าจะไม่มีอะไร กองทัพก็มีวัฒนธรรมองค์กรของเขาอยู่ ถือเป็นจุดแข็ง”
ขณะที่ประเด็น ‘ผบ.ทร.คนใหม่’ ที่จะเข้ามาสานต่อเรื่องเรือดำน้ำและเรือฟริเกตนั้น สุทิน ก็มองว่า ไม่น่าจะมีผล เพราะการเลือก ผบ.ทร.คนใหม่ ก็ต้องเลือกตามหลักเกณฑ์เดียวกัน
ได้นัดส่งโผทหารไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคมนี้ และต้องจบก่อน 15 กันยายน
ปัด ครม.รับรองใช้อาวุธ ‘สหรัฐฯ’ ไม่เชื่อมโยงหนุนซื้อ F-16 ทอ.
รมว.กลาโหม เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณซ่อมแซมที่พักข้าราชการกลาโหม หลังจากที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปดูที่พักอาศัยของข้าราชการชั้นผู้น้อย ซึ่งมีความไม่เพียงพอ จึงให้ใช้ ‘งบกลาง’ ไปสร้างที่พักอาศัยให้กำลังพลทุกเหล่าทัพ โดยใช้งบประมาณ 600 กว่าล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้มีการอนุมัติแล้ว และสามารถเริ่มสร้างได้ทันที เพื่อให้ทันต่อการใช้งบประมาณปี 2567
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการรับรองการใช้อาวุธจากสหรัฐอเมริกา
ประเทศที่จะได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ จะต้องมีข้อผูกพันเล็กน้อย เช่น การไม่ใช้อาวุธเพื่อละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือขัดขวางด้านมนุษยธรรม ซึ่งเราไม่ได้ทำเช่นนั้นอยู่แล้ว
พร้อมยืนยันว่า สหรัฐฯ ไม่ได้มีเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติม เป็นเงื่อนไขเดียวกันกับทุกประเทศ และการช่วยเหลือของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ก็ไม่เกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องบินรบ F16 ของกองทัพอากาศ
ไม่เชื่อมโยงกัน เพราะประเด็นดังกล่าวเป็นหลักการปกติ
ทหารต้องมี ‘บัตรผู้ช่วย ป.ป.ส.’ ปราบปรามยาเสพติด ชี้ส่งเข้าอบรมเพิ่มขึ้นให้ทันใช้งาน ไร้ปัญหาผลประโยชน์ ไม่คิดเรื่องรางวัลนำจับ
รมว.กลาโหม ชี้แจงถึงการสนับสนุนแก้ปัญหายาเสพติดในส่วนของกองทัพด้วยว่า จำเป็นต้องมีบัตรผู้ช่วย ป.ป.ส. โดยจะต้องมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ารับการอบรมเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ทันต่อการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพ ในลักษณะการบูรณาการร่วม ซึ่งเราจะมีบทบาทที่เข้มข้นขึ้น ส่วนเมื่อถามว่า มีเรื่องเกี่ยวกับรางวัลนำจับด้วยหรือไม่ จึงจำเป็นต้องมีบัตรผู้ช่วย ป.ป.ส. เพื่อปฏิบัติการปราบปราบยาเสพติด สุทิน ยืนยันว่า ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนั้น
การที่ต้องมีบัตร ป.ป.ส. เนื่องจากทหารไม่ได้มีหน้าที่ในการตรวจค้นจับกุม แต่ถ้าหากมีบัตรผู้ช่วย ป.ป.ส. ก็สามารถช่วยในการตรวจค้นจับกุมได้ ไม่ใช่อยู่ๆ จับตรวจฉี่ แต่มีขั้นตอน และยืนยันว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร เพราะประชาชนอยากเห็น อยากให้แก้ อยากให้ทำ ซึ่งตอนนี้ติดเรื่องอำนาจดำเนินการเล็ก ๆ แต่เมื่อมีดาบก็มีอำนาจขึ้น ทำงานได้
เมื่อถามว่า ได้มีการเน้นย้ำหรือไม่เพราะอาจจะมีเรื่องของผลประโยชน์ สุทิน กล่าวว่า ไม่น่าจะกังวลเรื่องนั้น เพราะทำกันหลายฝ่าย ไม่ใช่เพียงแค่ทหาร เพียงแต่ในรอบสอง ทหารอาจจะนำ โดยมีตำรวจ ฝ่ายปกครอง และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งไม่ได้ทำงานฝ่ายเดียว จึงไม่มีเรื่องผลประโยชน์