ปม ‘ใบ สด.ปลอม’ ให้ดูต้นทาง ใครทำผิด

6 ก.พ. 2567 - 06:40

  • ‘สุทิน’ ชี้ปม ‘ใบ สด.ปลอม’ ให้ดูต้นทางใครทำผิด

  • ลั่นแม้เกษียณยังลากตัวเข้าคุก-ยกเลิกบำเหน็จบำนาญได้ ยันไม่ใช้ ‘ไอโอ’ แกล้งใคร

  • ‘จิรายุ’ เตือนประชาชน หากมีคนขาย ‘ใบ สด.43’ ให้ ถือว่าปลอม

  • ยันไม่ไป ‘เกณฑ์ทหาร’ ต้องเป็นทหารทันที 1 ปี

Sutin-said-did-not-use-IO-to-tease-anyone-SPACEBAR-Hero.jpg

จากปม ‘หนีทหาร’ ของ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.พรรคก้าวไกล กำลังถูกขยายประเด็นไปถึงการตรวจสอบกรณีบุคลากรกองทัพขาย ‘ใบ สด.ปลอม’ 

โดยทาง สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ชี้แจงกรณีการเดินหน้าตรวจสอบทหารขาย ‘ใบ สด.ปลอม’ ของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า อยากให้สังคมพิจารณาด้วยความเป็นธรรม กรณีใบ สด. เกี่ยวข้องกับสองฝ่ายคือ ผู้ที่ไปขอ และผู้ที่ให้ ซึ่งผิดทั้งคู่ แต่ต้องดูว่าฝ่ายใดเริ่มก่อน คงไม่มีใครไปเร่เสนอขายใบ สด.เพื่อกระทำผิด

แต่อยากให้ดูว่าใครเป็นต้นทางทำผิด อย่าเบี่ยงประเด็น หากตรวจสอบว่าใครกระทำผิด ทางกระทรวงกลาโหม ไม่เลี้ยงไว้แน่นอน แม้จะเกิดขึ้นหลายปีหรือบุคคลนั้นเกษียณไปแล้ว สามารถลงโทษย้อนหลัง ยกเลิกบำเหน็จ บำนาญทั้งหมด และนำตัวดำเนินคดีได้

สุทิน คลังแสง

ส่วนจะสั่งการหน่วยรักษาการรักษาดินแดน (นรด.) ไปตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ สุทิน กล่าวว่า นรด. ตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ทุกปี และลงโทษคนทำผิดทุกปี แต่ไม่เป็นข่าว แต่ครั้งนี้ ถ้าใครตรวจพบผู้ทำผิด ให้ส่งข้อมูลมาที่กระทรวงกลาโหม เพื่อจัดการ เพราะมีนโยบายว่า คนที่จะมาเป็นทหารต้องเข้ามาโดยวิธีโปร่งใสและเป็นโดยสมัครใจและมีความสุข

สำหรับกรณีพรรคก้าวไกล อ้างว่า การขุดค้นเรื่องใบ สด.43 ของ สส.พรรคก้าวไกล เป็นฝีมือของกลุ่ม ‘ไอโอ’ นั้น สุทิน ชี้แจงว่า เป็นเรื่องที่มีมูลหรือเหตุที่มา เมื่อพรรคก้าวไกลไปตรวจสอบคนอื่น ก็ถูกคนอื่นตรวจสอบแล้วเจอด้วย  เมื่อเจอ ต้องดำเนินไปตามกระบวนการ เพราะบ้านเรามีนักร้องเรียนเยอะ เมื่อตรวจพบก็ต้องนำไปยื่นให้ตรวจสอบ

เมื่อถามย้ำกรณี เพจ ‘วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร’ นำข้อมูลเรื่องใบ สด.ของ สส.พรรคก้าวไกล มาเปิดได้ เพราะได้ข้อมูลจากคนในกองทัพหรือไม่นั้น สุทิน ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่อง เพราะยังไม่ได้ดู ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่า ห้ามเอาไปกลั่นแกล้งคนอื่น ให้นำไอโอมาใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ประชาสัมพันธ์งานกองทัพเท่านั้น

ย้ำว่าเราไม่มีนโยบายให้คนในกองทัพนำข้อมูลไปให้บุคคลอื่น แต่ถ้าใครนำไปทำส่วนตัว ก็ไม่อาจจะรู้ได้

สุทิน คลังแสง

กระบวนการสามเหลี่ยมอาชญากรรม! ‘จิรายุ’ เตือนประชาชนหากมีคนขาย ‘ใบ สด.43’ ให้ ถือว่าปลอมแน่ ชี้ตรวจสอบต้นขั้วไม่ยาก

ขณะที่ จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ฝ่ายการเมือง ชี้แจงกรณีใบ สด.43 ที่กำลังเป็นประเด็นในขณะนี้ ว่า เมื่อวานนี้ (5 กุมภาพันธ์) สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการห้สืบหาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งมีความคืบหน้าไปพอสมควร จึงอยากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า มีกระบวนการเรียกรับผลประโยชน์ เมื่อมีผู้เสนอ ก็มีผู้ให้ หรือมีผู้ให้ ก็มีผู้เสนอรับ

เปรียบเทียบเป็นกระบวนการ สามเหลี่ยมอาชญากรรม จึงขอเตือนไปยังประชาชน ไม่ว่าใครเป็นหน้าม้า เสนอให้ใบ สด.43 จะต้องดูต้นทางว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งอยู่ๆ เอาใบ สด.43 มาขายให้ท่าน ขอให้ท่านสันนิษฐานไว้ว่า ท่านจะได้ใบ สด.43 ปลอมแน่นอน ก็มีลักษณะคล้ายกับกรมการขนส่งทางบกที่มีหน้าม้าไปเอาใบขับขี่ปลอมมาขาย จนกระทั่งโดนจับ

จิรายุ ห่วงทรัพย์

ประเด็นต่อมา ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานต่างๆ ของกองทัพบก และมีการชี้แจงว่าตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ท่านสามารถตรวจสอบใบ สด.43 ว่าเป็นของจริงหรือของปลอมได้ เนื่องจากมีระบบออนไลน์แล้ว โดยเฉพาะคนที่ต้องการจะใช้ใบเกณฑ์ทหาร ไปสมัครรับราชการ รัฐวิสาหกิจต่างๆ ทั้งนี้ ปกติรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานต่างๆ เขาจะส่งไปที่กองทัพบกเพื่อตรวจสอบ แม้หลังปี 2543 จะถดถอยไปเท่าไหร่ ก็ต้องมีต้นขั้ว

ไม่ไปเกณฑ์ทหารต้องเป็นทหารทันที 1 ปี - สัปดาห์หน้า ‘กองทัพ’ เตรียมแจ้งความหลังพบ ‘ใบ สด.43 ปลอม’

สำหรับกรณีที่เป็นข่าวนั้น ตนไม่อยากระบุ แต่ขอพูดในมุมกว้างๆ ว่า หากไปตรวจสอบ ก็จะพบว่าต้นขั้ว 3 ต้นขั้วอยู่หรือไม่ ซึ่งในกรณีที่เป็นข่าว ในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นชัดเจนว่าต้นขั้วทั้ง 3 ใบยังอยู่ที่กองทัพ ปกติจะต้องหายไป 1 ใบ คือผู้ถูกเกณฑ์ทหาร จะก็ต้องถือไว้ 1 ใบ ฉะนั้น กรณีต้นขั้วตรวจสอบได้ไม่ยาก และสัปดาห์หน้า คาดว่าจะเข้าดำเนินการเรื่องนี้ในส่วนของการแจ้งความดำเนินคดีว่า เป็นของจริงของเท็จอย่างไร อยากเตือนพี่น้องประชาชนว่า  โอกาสเดียวหากท่านไม่เข้าไปเกณฑ์ทหาร ท่านต้องเข้าสู่กระบวนการเป็นทหารทันที หรือ 1 ปีถัดไป ซึ่งกฎหมายเปิดไว้เช่นนั้น ตามมาตรา 33 ฉะนั้น กรณีที่มีใบ สด.43 มาออกทีหลัง จึงเป็นสาระสำคัญที่ต้องตรวจสอบต่อ

ส่วนประเด็นที่มีถามกันว่า ใบ สด.43 มีความจำเป็นต้องลงลายนิ้วมือหรือไม่นั้น คณะกรรมการได้ติดตามตรวจสอบพบว่ามี 2 กรณี คือ 1. กรณีที่ไปจับใบดำใบแดง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจะให้ท่านปั๊มหัวแม่มือ หรือลายเซ็น ส่วนกรณีที่ไปเกณฑ์ทหารในเขตนั้น แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่าเต็มแล้ว บุคคลนั้นก็จะต้องไปรับเอกสารชุดเดียวกัน ซึ่งในกรณีนี้ ส่วนใหญ่จะลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วมือ ฉะนั้น กระบวนการสำคัญไม่ได้อยู่ที่จะพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือลงลายมือชื่อ สาระสำคัญอยู่ที่ต้นขั้วนั้น จริงหรือปลอม ท่านไปเกณฑ์ทหารมาจริงหรือไม่

จิรายุ ห่วงทรัพย์

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์