‘สุทิน’ พูดแทน ‘นายกฯ’ คุมเสียงรัฐบาลไม่ได้ ไม่ถึงกับต้องยุบสภาฯ

16 ก.พ. 2568 - 08:55

  • ‘สุทิน’ มองเหตุผล ’เท้ง‘ ไล่ ’นายกฯ‘ ยุบสภายังอ่อนไป-เชื่อมโยงได้ไม่เนียน

  • ย้ำจุดยืน ’เพื่อไทย‘ ยื่นศาลตีความแก้รธน. ให้สามารถเดินหน้าได้แบบไม่พะวักพะวง

  • เผย ร่างยื่นญัตติชงศาล ฝ่ายกม.ร่างไว้แล้ว

Sutin-spoke-on-behalf-of-the-Prime-Minister-The-dissolution-of- the-parliament-SPACEBAR-Hero.jpg

‘สุทิน คลังแสง’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแนวทางการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย ภายหลังที่ประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ที่เสนอโดย ‘พริษฐ์ วัชรสินธุ’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ ‘วิสุทธิ์ ไชยณรุณ’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า เมื่อค้างอยู่ในสภาก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราทำสำเร็จ ต่อไปจะต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ได้ โดยอาจจะต้องหาคนยื่นญัตติอีกครั้ง หรือก็มีการพูดคุยกันว่าอาจจะดันญัตติของ ‘เปรมศักดิ์ เพียยุระ’ วุฒิสภามชิก อีกครั้ง เพราะเป้าหมายของพรรค ถ้าไม่ผ่านทางตันก็จะยังคลุมเครืออยู่แบบนี้ต่อไป  

สุทิน กล่าวต่อว่า ต้องดูว่าประธานรัฐสภาจะนัดประชุมอีกครั้งเมื่อไหร่ แต่ญัตติที่จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีความคืบหน้าและฝ่ายกฎหมายก็มีการร่างญัตติไว้แล้ว ส่วนจะยื่นได้นั้นต้องรอให้ประธานนัดประชุมอีกครั้งก่อน เพราะเรื่องนี้ต้องเป็นมติของที่ประชุมร่วมรัฐสภา ซึ่งญัตติของพรรคคงไม่แตกต่างจากญัตติของนพ.เปรมศักดิ์มาก แต่ก็สามารถที่จะยื่นญัตติได้ ถ้ามีน้ำหนัก 

เมื่อถามว่า จะต้องมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะเห็นด้วยกับญัตติของพรรคหรือไม่ สุทิน กล่าวว่า คงจะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง แต่เมื่อคุยกันแล้วเขาจะเป็นอย่างไร ก็เป็นสิทธิ์ของเขา หรือแม้กระทั่ง สว.ก็ต้องมีการทำความเข้าใจกับเขาด้วยเพื่อให้เขาเข้าใจเจตนาของเรา ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผลดี  

เมื่อถามว่า ขณะนี้เสียงของพรรครัฐบาลดูจะเป็นเอกภาพกังวลหรือไม่ว่าอาจจะส่งผลกระทบอะไรในอนาคต สุทิน กล่าวว่า ไม่เป็นเอกภาพจริง เพราะมองและตีความคำวินิจฉัยไปคนละทาง บางคนก็กลัวเขาจึงไม่กล้าที่จะร่วมอภิปรายและลงมติด้วย แต่เมื่อเราคิดว่าจะใช้วิธียื่นตีความ เขาคงจะโล่ง ต่อไปจะได้เดินหน้าแบบไม่พะวักพะวง ซึ่งการใช้วิธียื่นตีความนั้น เชื่อว่าทุกพรรคไม่มีอะไรเสียหาย มีแต่ประโยชน์ ผู้คนจะสามารถเข้าประชุมได้โดยไม่พะวง 

เมื่อถามถึง กรณีที่ ‘ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ’ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา เนื่องจากไม่สามารถคุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้ นายสุทิน กล่าวว่า มองว่าเหตุผลยังไม่ถึงระดับนั้น จริงๆ แล้วการยุบสภาตามหลักรัฐศาสตร์และการเมืองทั่วไป เขาจะยุบก็ต่อเมื่อรัฐบาลกับสภามีความขัดแย้งจนไม่สามารถเดินหน้าได้ การบริหารบ้านเมืองเดินหน้าไปลำบาก สภาแอนตี้รัฐบาล แต่นี่เรื่องอื่นเขาก็ร่วมมือกันเต็มที่ ฉะนั้นตนคิดว่าการจะนำเหตุผลนี้มาเรียกร้องให้ยุบสภายังเป็นเหตุผลที่อ่อนไป ยังเชื่อมโยงได้ไม่เนียนพอ 

เมื่อถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้มองว่าจะกระทบอะไรกับพรรคเพื่อไทย ในมุมมองของประชาชนหรือไม่ สุทิน กล่าวว่า คิดว่าไม่มี แม้ตอนเกิดเหตุการณ์ใหม่แล้วประชาชนจะสับสน ไล่เรียงเหตุผลไม่ทัน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะประชาชนแต่ สส.ในสภารวมถึง สว.ก็ยังงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านมาทุกคนมาครุ่นคิดก็จะเข้าใจ

“เรื่องนี้คงไม่มีอะไรกระทบเป็นวงกว้างถึงเสถียรภาพของรัฐบาล จนทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงรัฐบาลนั้น มันไม่ใช่ ยุบสภาก็ไม่มีเหตุผลเพียงพอ ย้ำว่าเรื่องอื่นๆ รัฐบาลก็ร่วมกันทำงานได้ปกติ เพียงเรื่องรัฐธรรมนูญที่เขาไม่ร่วมมือ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะความคลุมเครือของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแค่นั้นเอง แต่หากตีความชัดแล้วผมคิดว่าเขาก็ให้ความร่วมมือ“

สุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า หมายความว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาชัดเจนแล้ว เราจะสามารถคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นให้เห็นด้วยได้ใช่หรือไม่ สุทิน กล่าวว่า ใช่ ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่ารัฐสภาสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องทำประชามติก่อน ซึ่งสิ่งที่ไม่ชัดเจนคือต้องทำประชามติกี่ครั้ง บางพรรคจึงมองว่าสิ่งที่เรากำลังพิจารณาอาจจะผิดหรือขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่เราเห็นว่าทำประชามติ 2 ครั้งจึงจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ชัดเจน เพื่อทำให้พรรคอื่นเห็นว่าทำประชามติ 2 ครั้งเพียงพอแล้วมาร่วมกับเรา 

สุทิน กล่าวต่อว่า แต่หากศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าต้องทำประชามติ 3 ครั้ง เราก็จะได้ถอยกลับมาเริ่มต้นใหม่ โดยไปทำประชามติก่อน พรรคร่วมรัฐบาลก็จะได้เห็นว่าทำประชามติก่อนแล้ว หากเป็นเช่นนี้เขาร่วมด้วย นี่เป็นสิ่งที่เราคาดหวัง 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หมายความว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาชัดเจนแล้ว ก็มั่นใจว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านได้ใช่หรือไม่ สุทิน กล่าวว่า ใช่ เพราะเมื่อมีความชัดเจนเราก็จะได้ปฏิบัติถูก คือการปฏิบัติที่ไม่เสี่ยงต่อข้อกฎหมาย พรรคอื่นเขาก็จะร่วมด้วย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์