ในงานครบรอบวันคล้ายวันเกิด 70 ปี สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา ได้เปิดใจพร้อมส่งสัญญาณห้วนคืนเส้นทางการเมือง โดย สุวัจน์ ระบุ คิดว่าคงมีโอกาสทำงานทางการเมือง เพราะตัวเองมีประสบการณ์ทางการเมืองมา 38 ปี วันนี้บ้านเมืองมีปัญหาเยอะ ทั้งภายในและภายนอก จึงอยากใช้ประสบการณ์ที่มีทำงานให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ
ส่วนบทบาททางการเมืองจะเป็นที่ปรึกษาหรือตำแหน่งใด สุวัจน์ ตอบว่า เป็นมาเยอะแล้ว และคิดว่าอยู่ในสถานภาพอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่ง ในฐานะที่ผ่านเรื่องการทำงานการเมืองและเรื่องเศรษฐกิจมาเยอะ ยินดีที่จะให้คำแนะนำและคำปรึกษาต่างๆ เป็นเวลาที่ต้องรวมพลังระหว่างประสบการณ์ กับความทันสมัยของนักการเมืองรุ่นใหม่ เชื่อว่าหากรวมพลังกันได้จะสามารถทำให้ประเทศฝ่าฟันวิกฤตไปได้
สุวัจน์ ยังมองว่า จุดแข็งของรัฐบาลชุดนี้คือเสถียรภาพ เพราะฝ่ายรัฐบาลมีมากกว่าฝ่ายค้านเกินกึ่งหนึ่ง ถือว่ามีผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นจำนวนคะแนนที่ค่อนข้างปลอดภัย รวมถึงการออกกฏหมายต่างๆ ก็ไม่น่ามีปัญหา ส่วนจุดที่ยังไม่แข็งและเป็นสิ่งที่พวกเราต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา คือเรื่องเศรษฐกิจที่จะต้องเร่งเครื่อง
แต่เชื่อว่า นายกรัฐฐมนตรี เป็นคนรุ่นใหม่ ทันสมัย มีประสบการณ์ทางการเมืองจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างลุล่วง ซึ่งผมในฐานะที่เป็นนักการเมืองก็ขอเป็นกำลังใจให้ และพร้อมที่จะช่วยสนับสนุนภารกิจของนายกรัฐมนตรี
ส่วนมองอย่างไรที่พรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาตบจูบกัน สุวัจน์ มองว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีหลายพรรค ถือว่าเป็นลิ้นกับฟัน และเท่าที่พูดคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ก็ไม่มีอะไรที่เป็นความรุนแรงและไม่เข้าใจกัน มีแค่เพียงเรื่องเล็ก ๆน้อยๆ ที่สามารถเคลียร์กันได้ มองว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรที่ไปกระทบกับเสถียรภาพ และการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ส่วน จุดยืนทางการเมืองพรรคชาติพัฒนาจะไปรวมกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ สุวัจน์ ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอย่างชัดเจน โดยบอกว่า หากมีอะไรที่ต้องตัดสินใจทางการเมือง ต้องคิดให้รอบคอบ และต้องตัดสินใจในแนวทางที่มั่นใจว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุด มีพลังที่จะทำงานให้กับประเทศและประชาชนได้
พร้อมย้ำว่า ผมเป็นนักการเมืองมามากกว่า 30 กว่าปี ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกัน ในการใช้ประสบการณ์ ใช้พลังทางการเมืองในการแก้ไขปัญหาประเทศ และ เมื่อถึงเวลาพวกเราก็คงตัดสินใจร่วมกันให้เป็นไปในแนวทางที่มีพลังทางการเมือง ที่ทำงานเพื่อประเทศชาติได้ ส่วนจะไปอยู่ในจุดไหนรอดูสถานการณ์ทางการเมืองก่อน
ทั้งนี้ สุวัจน์ ยืนยันว่าตัวเองไม่มีทายาททางการเมือง มีเพียง เทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และ นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เท่านั้นที่ช่วยกันดูแลพรรค