เมื่อถูกถามถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และอนุสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จ่อทยอยออกหมายเรียก 10 สส.พรรคภูมิใจไทย เข้าให้ข้อมูลกรณี ‘ฮั้วเลือก สว.’ นั้น, ทางดีเอสไอได้มีการรายงานมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือไม่?
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ภายหลังมีคำสั่งศาลให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ผมก็ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล
ก็เชื่อว่าทางดีเอสไอ น่าจะมีการรายงานให้กับทางปลัดกระทรวง ซึ่งหน้าที่ของรัฐมนตรีไม่มีส่วนที่จะเข้าไปในคดีแล้ว ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้ตนเข้าไปกำกับ โดยระหว่างรอคำวินิจฉัยของศาลก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ตอนนี้รู้สึกสบายใจขึ้นหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเคยถูกตั้งข้อหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ‘ฮั้วเลือก สว.’? พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ก็ทำให้ทุกคนสบายใจ เมื่อเราไม่เข้าไปยุ่ง เพราะทุกหน่วยงานต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนตัวไม่มีผลกระทบอะไร เพราะหน้าที่หลักของกระทรวงยุติธรรมคือการปฏิบัติและบังคับตามกฎหมาย นโยบายที่รัฐบาลแถลงก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรมมาก ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ได้ยกระดับ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในด้านอื่นๆ
เมื่อถามว่า มีสัญญาณจากศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่าใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ในการพิจารณาคดี? พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่เคยไปประสานกับทางศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเรามั่นใจในความบริสุทธิ์ใจ
ในภาวะที่บ้านเมืองมีคนหวาดระแวง การใช้กฎหมายสำคัญของราชการ บ้านเมืองจะเจริญได้ คืออำนาจหรืออิทธิพลความไม่ดีหรือความชั่วร้ายต่างๆ จะแข็งแกร่งกว่ากฎหมายไม่ได้ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ราชการที่อยู่ในตำแหน่งถือเป็นผู้นำอยู่แล้ว เพราะกฎหมายให้อำนาจ คุณควรใช้กฎหมายให้ตรงไปตรงมา ปราศจากอคติ เรื่องของความยุติธรรมต้องกล้าหาญ ยืนยันว่า ผมไม่มีความรู้สึกยังงั้น เมื่อวานยังนั่งคุยกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ท่านยังชื่นชมโรงพยาบาลที่ท่านไปรักษาตาเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีปัญหาเรื่องการประสานงานหรือไม่ หากมีคนใหม่เข้ามาดูแลแทนในส่วนของคดีนี้? พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่มีปัญหา และบรรยากาศของ ครม. ทุกฝ่ายก็ยังดีกัน ไม่มีการแบ่งฝ่ายว่าเป็นพรรคโน้นพรรคนี้