หากอ้างอิงข้อมูลตามประวัติศาสตร์แล้ว ความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์นับเป็นสิ่งที่ยึดโยงกับคนไทยมาอย่างยาวนาน และหยั่งรากลึกแทรกซึมอยู่ตามวิถีชีวิตและจารีตประเพณีต่างๆ โดยเฉพาะบทบาทของโหราศาสตร์ในทางการเมืองไทย บทความชิ้นนี้จึงขอหยิบปรากฎการณ์ ‘ดาวราหู’ ที่กำลังจะเคลื่อนออกจากราศีเมษอันเป็นดวงเมือง มาอยู่ในราศีมีน ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ มาพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ เพื่อตรวจดวงชะตาบ้านเมืองว่า ต่อจากนี้จะประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง? เพราะการย้ายของ ‘ดาวราหู’ ครั้งนี้ ถือเป็นการย้ายครั้งใหญ่ในรอบ 18 ปี
‘โหรวันชัย’ : การเมืองไทยเข้าสู่ยุคลาเวนเดอร์?
หนึ่งในผู้ร่วมไขปริศนาความลับของดวงดาว คือ ‘สว.วันชัย สอนศิริ’ ผู้ที่ติดตามและศึกษาเรื่องโหราศาสตร์มาอย่างยาวนาน อธิบายสถานการณ์ประเทศไทยในห้วงที่ถูก ‘ดาวราหู’ หรือ ‘ดาวมฤตยู’ ย้ายมาทับดวงเมืองในช่วงที่ผ่านมาว่า เห มือนมีหมอกดำทะมึนปกคลุมบ้านเมืองอยู่ จึงทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง
แต่หลังจากวันที่ 17 ต.ค.นี้เป็นต้นไป เมื่อดาวราหูย้ายออกจากดวงเมืองจะทำให้เกิดความโล่งโปร่งใส เกิดความสว่างไสวกับบ้านเมือง โดย ‘สว.วันชัย’ ใช้คำพูดว่า “อะไรที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น สิ่งที่ไม่เคยได้เป็นก็จะได้เป็น สิ่งที่ไม่เคยมีก็จะได้มี ปรากฏขึ้นในประเทศไทย นับแต่ 17 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ความศิวิไลซ์จะบังเกิด” ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยก็จะดีขึ้นด้วย ความขัดแย้งทางการเมือง ที่เกิดขึ้นมานานเกือบ 20 ปี จะลดลงจนแทบจะไม่มี เหลือเพียงการต่อสู้ในสภาฯ ตามกลไกของระบอบประชาธิปไตย
อีกทั้ง ในทางการเมืองจะเริ่มเข้าที่เข้าทางมาขึ้น เลือกตั้งครั้งถัดไปจะเหลือพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งไม่กี่พรรค เกิดความรัก ความปรองดองสมานฉันท์กันมากขึ้น และโดยรวมแล้วถือว่าประเทศไทยต่อจากนี้จะมีแต่ความสุขสดใส เจริญรุ่งเรือง และ ประเทศไทยจะกลับมายิ่งใหญ่ในภูมิภาคนี้อีกครั้ง เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา พร้อมมองว่า ‘รัฐบาลของเศรษฐา’ นับต่อจากนี้จะถือว่าเป็นปฐมบทของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ และเป็นประเทศจะมีแต่เเข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมมองว่าต่อจากนี้จะไม่มีอะไรให้ต้องกังวลอีก
“ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลย ปีแรกเราอาจเห็นอะไรที่ยังไม่ลงตัวนัก แต่ปีนี้หลัง 17 ต.ค. เป็นต้นไป เป็นปฐมบทของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ และมีแนวโน้มดีขึ้น พอปีที่ 2-3 พอตั้งตัวได้ บ้านเมืองจะแข็งแรงมากขึ้น อย่างที่อาจารย์ใช้คำว่าไม่เคยเห็น ก็จะได้เห็น ในระยะเวลากว่า 20 ปี ถือว่าเป็นเรื่องของความโชคดีของประเทศและประชาชน”
ทุ่งลาเวนเดอร์ที่หายไป พร้อมกับการย้ายออกของ ‘ราหู’ ?
ขณะที่ ‘ซินแสเข่ง’ หรือ ‘อ.ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง’ ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์และนักพยากรณ์แห่งประเทศไทย วิเคราะห์ดวงเมืองในมุมที่ต่างออกไปจาก ‘สว.วันชัย’ อย่างสิ้นเชิง จนชวนให้นึกถึงคำคมในโซเซียลที่ว่า ‘ธรรมะแท้ไม่มีคำปลอบใจ’ ต่างแค่ไหนมาดูกัน
‘ซินแสเข่ง’ อธิบายว่าวิธีที่เขาใช้วิเคราะห์ครั้งนี้ เป็นการตั้งดวงโลก ดวงเมือง ดวงรัฐบาล และดวงของมนุษย์ ประกอบกับการดูฤกษ์ยามการเคลื่อนย้ายของดาวราหู ที่คาดการณ์กันว่าจะย้ายออกจากดวงเมืองในช่วงประมาณวันที่ 17 ต.ค.นี้
เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วพบว่า ‘วันที่ 17’ เป็นฤกษ์ยามที่ส่งผลกระทบต่อตัว ‘เดือนตุลาคม’ และ ‘พ.ศ. 2566’ ซึ่งเป็นดวงแตกแยก พลัดพรากตายจาก และก่อให้เกิดความขัดแย้ง อีกทั้งหากว่ากันตามความจริงแล้ว ‘ดาวราหู’ ถือว่าเป็นดาวมงคล ดังนั้นเมื่อดาวราหู ย้ายออกไปจากดวงเมือง เสมือนเป็นการทำให้ขาดตัวควบคุมปัญหา เหลือแต่ดาวที่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต
เศรษฐกิจส่อล่มสลาย-การเมืองร้ายส่อปะทะ รัฐนาวา ‘เศรษฐา’ จะโต้คลื่น-ฝ่ามรสุมไปได้เพียงใด?
‘ซินแสเข่ง’ อธิบายเพิ่มเติมว่า การเคลื่อนย้ายของดาวราหู ในวันที่ 17 ต.ค.นี้ เป็นการตกราศีแตกแยก อาจทำให้ ‘ดาวอุบาทว์’ และ ‘ดาวแห่งอุปสรรค’ เข้าทำลาย ก่อกวน ดวงโลกและดวงเมืองได้ เพราะการย้ายของดาวราหูครั้งนี้ เป็นการย้ายครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อดวงทุกประเทศซึ่งจะก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น ดวงโลกจะเกิดสงครามต่อเนื่องไปจนถึงประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 และหากเกิดสงครามโลกในปี 2567 ก็จะย่อมส่งผลกระทบหลายๆ อย่างตามมา
ขณะที่ประเทศไทยซึ่งอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คำถามคือรัฐบาลของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ จะประคองสถานการณ์ไปได้นานแค่ไหน เพราะต้องเจอทั้งปัญหาที่รุนแรง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและภัยพิบัติที่กระจายตัวอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ และในมุมมองของ ‘ซินแสเข่ง’ ยอมรับไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะประคองเหตุการณ์ให้พ้นช่วง ปี 2566 - 2567 ได้หรือไม่ หากประคองสถานการณ์ไม่ได้ มีโอกาสที่จะเกิดการปะทะกันทางการเมืองในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งอาจมีความรุนแรงมากกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา ถึง 3 เท่า
“ มรสุมที่จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงยังรออยู่ข้างหน้า เมื่อเป็นอย่างนี้ต้องถามว่ารัฐบาลของคุณเศรษฐาจะสามารถประคองตัวเองไปได้นานอีกเท่าไหร่ ธันวาคมถือเป็นจังหวะที่มีผลกระทบต่อรับบาลอย่างรุนแรง นอกจากผลกระทบจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นแล้ว เรื่องเศรษฐกิจ การเงินและรายได้ ก็จะมีปัญหาในประเทศก่อให้เกิดความซบเซา”
การเคลื่อนย้ายของดาวราหู นอกจากทำให้ประเทศไทยช่วงปี 2567 ส่อแววเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ที่รอวันถาโถมใส่แล้ว อีกสาเหตุที่ทำให้ปี 2567 ดูวุ่นวายมากขึ้นไปอีก เป็นเพราะปี 2567 เป็นปีมังกร ธาตุไม้ ซึ่งมีผลกระทบกับดวงเมืองซึ่งเป็นปีขาล เมื่อมีผลกระทบกัน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันและกัน ความรุนแรงก็จะเกิดขึ้น อีกทั้งปัญหาเศรษฐกิจยังมีโอกาสเกิดการล้มสลายเช่นกัน
อีกนานไหม ที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์อย่างแท้จริง?
คำถามนี้ ‘ซินแสเข่ง’ บอกว่าเขาเคยทำนายไว้หลายปีแล้วว่า ปี 2569 จะเป็นปีแห่งการแปรเปลี่ยนของดวงเมืองประเทศไทย ที่จะก่อให้เกิดแต่สิ่งที่ดีงามเกิดขึ้น และจะทำให้ผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาดีขึ้นทุกอย่าง
‘ราหู’ ย้ายออกนอกจากดวงเมือง ใครบ้างที่ได้รับผลกระทบ-ต้องทำอย่างไรให้ดวงดีขึ้น?
แม้ ‘ดวงโลก-ดวงเมือง’ จะแก้ไม่ได้ แต่ ‘ดวงมนุษย์’ ยังมีทางแก้ ‘ซินแสเข่ง’ แนะนำในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นเดือนมงคล เป็นเดือนที่เหล่าเทวดาลงมาชุมนุม เพื่อให้มนุษย์ได้ขอพร เมื่อขอพรแล้วจะได้คุ้มครอง ไม่ว่าจะศาสนาใด หากปฎิบัติตามหลักของศาสนาตัวเองแล้ว ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนแล้ว จะประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดี หรืออาจจะไปขอพรจาก ‘พระราหู’ ก็จะเป็นผลดีเช่นกัน
ส่วนราศีใดบ้างที่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้ มีหมอดูชื่อดังหลายคนได้ออกมาผ่าดวงผ่านช่องทางออนไลน์ของตัวเอง หนึ่งในนั้น คือ ‘หมอช้าง - ทศพร ศรีตุลา’ ที่พยากรณ์ว่า 2 ราศีที่จะหลุดพ้นจากดาวราหุและจะประสบพบเจอกับสิ่งที่ดีมาก มี 2 ราศี คือ ‘ราศีเมษ’ และ ‘ราศีตุลย์’
- ราศีเมษ (14 เม.ย.-14 พ.ค.) ถือว่าเป็นราศีที่จะดวงรุ่งมากๆ อะไรที่คิดว่าจะเริ่มและไม่ได้เริ่มมันติดขัดมีอุปสรรคขัดขวาง หลังจาก 17 ตุลาคมไปแล้วจะค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลง และมีข่าวดีเข้ามา
- ราศีตุลย์ (18 ต.ค.-16 พ.ย.) มีสิ่งดีๆ เข้ามาในเรื่องของคู่ครอง หรือหุ้นส่วน คู่สัญญา ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกเรื่องไหน ใครที่ยังโสดอยู่ความรักคุณจะมีความชัดเจนลงตัวมากขึ้น อาจมีคนเข้ามา เจอคนที่ใช่ หรือบางคนเดิมราหูครอบงำในเรื่องของความรัก คบกันแบบเปิดเผยไม่ได้ก็จะมีเส้นทางที่ชัดเจนมากขึ้น บางคนอาจจะถึงขั้นวางแผนเรื่องแต่งงาน หรือหมั้นหมายได้เลย
ส่วนราศีที่จะได้รับผลกระทบจากการย้ายของดาวราหูจากราศีเมษ ไปอยู่ในราศีมีน ‘หมอช้าง’ พยากรณ์ว่ามี 2 ราศี คือ ราศีมีนและราศีกันย์
- ราศีมีน (15 มี.ค.-13 เม.ย.) ถือเป็นเจ้าภาพดาวราหู โดยดาวราหู จะย้ายเข้าสู่เรือนชะตาราศีมีน เป็นระยะเวลาประมาณ 18 เดือน หรือ 1 ปีครึ่ง แต่ดาวราหู ไม่ได้มีผลกระทบในด้านที่เป็นลบอย่างเดียว ยังมีด้านบวกด้วย โดยจะส่งผลในเรื่องของการค้าขายออนไลน์ หรือการเดินทาง
ข้อควรระวัง : ระวังเรื่องความกล้าได้กล้าเสีย , ปัญหาสุขภาพ ,การเข้าสู่สิ่งอบายมุขจะยิ่งทำให้เจอเรื่องไม่ดี
- ราศีกันย์ (17 ก.ย. - 17 ต.ค.) อาจไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ผลอาจไปลงกับคนรอบตัว เช่น เรื่องของความรัก หุ้นส่วน คู่ สัญญา หากมีแฟนช่วงที่ราหูเข้า บางทีความรักมีแล้วอาจเปิดเผยไม่ได้ ความรักที่เกิดขึ้นจะมีความต่างกัน เช่น ได้คู่ที่อายุต่างกัน คนละเชื้อชาติ ศาสนา ต้องใช้เวลาศึกษาดูใจกันก่อน
ข้อควรระวัง : ระวังเรื่องคดีความ-การฟ้องร้อง
