‘ทสท.’ ถล่ม ‘ภูมิธรรม’ เรียกถกด่วนพรรคร่วมฯ ดันกฎหมายคาสิโน ไม่เห็นหัวประชาชน

11 ส.ค. 2567 - 08:05

  • ‘โฆษก ทสท.’ ออกโรง ซัด ‘ภูมิธรรม’ เรียกพรรคร่วมถกด่วนดันกฎหมายคาสิโน ในขณะที่ประชาชนเจอปัญหาสินค้าราคาแพง

  • ชี้เกิดข้อสงสัยเป็นผลประโยชน์แอบแฝง “โจราธิปไตย”

Thai Sang Thai-Party-attacks-Phumtham-calls-for-urgent-discussion-party-joins-forces-to-push-casino-law-SPACEBAR-Hero.jpg

ปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เปิดเผยถึงกรณี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (รมว.พาณิชย์) ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) หลังเรียกประชุมด่วนพรรคร่วมรัฐบาลผลักดันกฎหมายคาสิโนทั้งที่เป็นวันหยุด (12 ส.ค.) ว่า แม้รัฐมนตรีจะกล่าวว่าเป็นการประชุมที่วางไว้ เพราะเจ้าตัวติดภารกิจไปต่างประเทศในวันที่ 13 สิงหาคม และเป็นการประชุมในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่การใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่ประชุมอย่างรีบเร่ง ถือว่าเป็นการประชุมในฐานะคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งหากดูสถานการณ์ในเวลานี้ ไม่เข้าใจว่า ตอนนี้ชาวบ้านเผชิญปัญหาสินค้าราคาแพงทั้งแผ่นดิน แถมยังเจอปัญหาด้านการทำมาหากินที่ต่างประเทศเข้ามาแย่งตลาดในเมืองไทยทั้งออฟไลน์ ออนไลน์

“ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนได้ผลกระทบโดยตรง แต่รัฐมนตรีดันเปิดทำเนียบผลักดันคาสิโน ที่ประเทศได้ค่าใบอนุญาตแค่ปีละพันล้าน แถมประชาชนคนไทยก็ยังไม่มั่นใจด้วยว่าจะเจอปัญหาอื่นๆ ตามมา ทั้งปัญหาสังคม รวมถึงมาเฟียที่แทรกซึมอยู่ในประเทศเต็มไปหมดหรือไม่ในเวลานี้ ผมจึงไม่เข้าใจว่ารัฐบาลเพื่อไทยใช้อะไรคิด หรือเป็นความคิดของรองนายกฯเพียงคนเดียว” โฆษก ทสท.กล่าว

โฆษก ทสท. กล่าวต่อว่า เนื่องจากภาคสังคมและการบังคับใช้กฎหมายของประเทศไทยยังมีปัญหาอย่างมาก รวมทั้งยังมีความเสี่ยงด้านทุนสีเทาอย่างหนักและยังไม่สามารถควบคุมได้ในขณะนี้ อีกทั้งรัฐกำลังจะใช้ระบบการให้สัมปทานแบบเป็นรายๆ ยาวนานถึง 30 ปี ซึ่งประเทศอาจได้ประโยชน์น้อยมาก ราวปีละพันล้านจากใบอนุญาต ถึงแม้จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น สถานที่รองรับการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่เห็นความแน่ชัดว่าจะบริหารจัดการอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ดังนั้นไม่แปลกที่ภาคประชาชนเตรียมขับเคลื่อน แถมยังใช้คำกับการทำงานครั้งนี้ของรัฐบาลว่า “อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่” เพราะเขามีความเชื่อว่า อาจมีผลประโยชน์หลายอย่างที่อาจจะแอบแฝงซ่อนอยู่หรือไม่ และเงื่อนไขของสถานบันเทิงใน 30 ปีตามกฎหมายนี้ อาจจะถูกตั้งข้อสงสัยว่า กลายเป็นผลประโยชน์คอมเพลกซ์ในสังคม “โจราธิปไตย” ก็เป็นได้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์