ภายหลังเปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อทำบุญและฉลองวันคล้ายวันเกิด 75 ปี กับสมาชิกครอบครัวและบรรดานักการเมืองคนสนิทเรียบร้อยแล้ว
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อมวลชน โดยเน้นย้ำถึงสโลกแกนที่ว่า อยู่ที่ไหนก็ไม่มีความสุขเท่าอยู่ที่บ้าน เนื่องจากมีครอบครัว มีเพื่อนฝูง มีอาหาร มีวัฒนธรรม มีสิ่งแวดล้อมที่เราเติบโตและชินมา และปีนี้เป็นปีแรก ถือว่ามีความหมายและมีความสุขมาก
อีก 2 วัน (28 กรกฎาคม 2567) ก็เป็นวันสำคัญของคนไทย พวกเราก็มีความสุข เรามาอยู่เมืองไทย ได้มีโอกาสร่วมเฉลิมฉลอง 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับคนไทย ถือว่ามีความสุขอย่างมาก
เมื่อถามว่าขอพรอะไรในวันเกิดปีนี้บ้าง ทักษิณ ก็ขอใช้คำว่า สุขภาพมีค่าที่สุด เนื่องจากอายุเกิน 55 ปีขึ้นไป ต้องเริ่มดูแลเรื่องสุขภาพ เพราะมีความสำคัญที่สุดกับชีวิต หากเรามีพลัง เราก็สามารถทำงานให้บ้านเมืองได้มากขึ้น หากเรายังรักษาร่างกายและสมองให้แจ่มใส ทำอะไรที่ช่วยบ้านเมืองได้ก็จะเป็นประโยชน์
ส่วนวันนี้ได้ทำบุญ ได้นิมนต์พระที่เคารพนับถือมาสวดให้พร ได้ถวายเพลพระ และได้กินข้าวง่าย ๆ กับคนใกล้ชิด ทั้งนักการเมือง-นักธุรกิจและญาติพี่น้องก็มีความสุข
ไม่ต้องตีตั๋วเครื่องบินไป ไม่อย่างนั้นทุกปี คุณอิ๊ง (บุตรสาว) ขาประจำต้องตีตั๋วเครื่องบินไป
ส่วนที่มีการเลี้ยงวันเกิด 3 วันก่อนหน้านั้น ทักษิณ บอกว่า คนอื่นเลี้ยงให้ โดยเมื่อคืนก่อนได้สังสรรค์กับ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ผู้บริหารบริษัท คิง เพาเวอร์ฯ และยังมีที่เพื่อนฝูงเลี้ยงด้วย ส่วนที่กล่าวบางช่วงบางในงานเลี้ยง ซึ่งระบุว่า จะอยู่อีก 40 ปีนั้น ถือเป็นการให้กำลังใจตัวเองไว้ก่อน
หลัง ‘พ้นโทษ’ ไม่รับตำแหน่งทางการเมือง ขอให้คำปรึกษา ‘แพทองธาร’ ในฐานะพ่อลูก
ส่วนบทบาทหลังจากวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะพ้นโทษนั้น ทักษิณ ระบุว่า ไม่มีอะไร และห่วงบ้านเมืองเป็นเรื่องธรรมดา ในฐานะที่เคยเป็นอดีตนายกฯ หากมีอะไรที่แนะนำติติงได้ ก็จะทำผ่านช่องทางการเมืองที่ทำได้ เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างจริงจัง
พร้อมปฏิเสธถึงโอกาสรับตำแหน่งทางการเมือง โดยพูดติดตลกในทำนองว่า “ได้เงินเดือน 700 บาท จะไปรับตำแหน่งอะไรได้” ส่วนจะเข้ามามีบทบาทในพรรคเพื่อไทย เพื่อช่วยบุตรสาวหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องพ่อให้คำปรึกษาลูก ก่อนย้ำว่า ยังเป็นห่วงบ้านเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งวันนี้ชาวบ้านลำบาก ก็ต้องช่วยกันคิดจะพลิกฟื้นให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
วันนี้ ต้องเรียกความเชื่อมั่น ระบบเศรษฐกิจทุนนิยม ความเชื่อมั่นและความเชื่อถือ ความไว้วางใจ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นต้องเรียกกลับคืนให้ได้ เพราะถ้ากลับมาได้ เงินก็จะไหลมาเอง แต่ถ้าไม่มีความเชื่อมั่น-น่าเชื่อถือ เงินก็หายหมด แล้ววันนี้ชาวบ้านเป็นหนี้เยอะ เราจำเป็นต้องเสกคาถาเรียกเงินกลับเข้ามาให้ได้
ไม่มี ‘ปฏิญญาเขาใหญ่’ ชี้เพราะคำว่า ‘ปฏิญญา’ พาวุ่นวายมาแล้วรอบหนึ่ง
ทักษิณ ยังชี้แจงกรณีพาครอบครัวไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นการเมือง มีเพียงการคุยล้อเล่นกันสนุกสนาน เพราะสนิทสนมกันมานาน ซึ่งตั้งแต่สมัยเป็นนักธุรกิจ เวลาไปกินข้าวจะพูดคุยเรื่องมโนสาเร่ ดินฟ้าอากาศ และเรื่องครอบครัว
หากจะคุยงานจริง ๆ คือตอนมีของหวาน แป๊บเดียว สั้น ๆ แต่เที่ยวนี้ไม่มีของหวาน เลยไม่ได้คุย
ผู้สื่อข่าวจึงแซวว่า เป็นเพราะไม่ได้เสิร์ฟใช่หรือไม่? ทักษิณ ก็ตอบว่า เพราะอิ่มก่อน ไม่มีของหวาน เลยลืมพูดเรื่องการงาน ส่วนที่ถูกตั้งข้อสังเกตถึงการฮั้วกับเจ้าสัวพลังงานนั้น ทักษิณ ยืนยันว่า ไม่มี เพราะทุกอย่างในบ้านเรามีกฎมีเกณฑ์ ความเป็นคนรู้จักเพื่อนฝูงต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ ไม่สามารถทำอะไรที่ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ได้
สำหรับกรณีที่มีภาพนักธุรกิจด้านพลังงานด้วยนั้น ทักษิณ ชี้แจงว่า อีกฝ่ายและ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นเพื่อนกันมาเก่าแก่มาก ซึ่งทริปนี้บุตรสาววางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อ อนุทิน รู้ว่าเดินทางไป จึงเชิญไปรีสอร์ทส่วนตัวเพื่อขอเลี้ยงข้าว ปรากฏว่า สส.ในพื้นที่ทราบข่าวกัน ก็เลยมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ พร้อมยืนยันไม่มีเรื่อง ‘ปฏิญญาเขาใหญ่’ ตามที่ถูกตั้งข้อสังเกต
‘ปฏิญญา’ นี่ทำให้ผมวุ่นวายมารอบหนึ่งแล้ว ‘ปฏิญญา’ จริงๆ แล้วไม่มีอะไรเลย ผมถึงแม้เป็นนักการเมืองเก่า แต่หน้าที่ของผมคือสร้างความปรองดอง เพื่อให้การเมืองแข็งแรงและบ้านเมืองไปได้ มากกว่าที่จะทำหน้าที่อื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่หลายคนก็เคยทำงานร่วมกันมา การที่ผมเข้าไปกินข้าวเฮฮาด้วย ก็จะเกิดความสามัคคีกันมากขึ้น จะได้ไม่มีเรื่องที่เข้าใจผิดกัน เวลามีเรื่องอะไรจับมานั่งคุยกันมันก็จบ วันนี้ความสามัคคีบ้านเราสำคัญ
คดีถอดถอน ‘เศรษฐา’ ไม่มีอะไรต้องกังวล ลั่นไม่ต้องมีแผนสำรอง ออกตัวเป็น ‘นายกฯ’ ไม่ได้แล้ว
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีที่ 40 สว. ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ก.ค.นี้ มองว่าไม่น่าจะมีอะไรที่เป็นข้อกังวล เพราะนายกฯ ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน จึงเชื่อว่าน่าจะชี้แจงได้หมด ก่อนย้ำว่า ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะมองว่านายกฯ ทำไปด้วยความตรงไปตรงมา และไม่จำเป็นต้องมีแผนสำรองด้วย
ผมก็เป็นนายกฯ ไม่ได้แล้ว แก่แล้ว หมดเวลาทำงาน นอกเหนือจากคุณสมบัติ ก็หมดเวลาทำงาน มีหน้าที่ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ
ออกตัวไม่รู้กระเแสเพลง “คิดถึงลุงตู่” กระหึ่มโซเชียลฯ เชื่อหากรัฐบาลปิดงานได้จะช่วยหนุน ‘เพื่อไทย’ กลับมาเป็นอันดับหนึ่งไม่ยาก
ขณะเดียวกัน ทักษิณ ยังออกตัวว่า ไม่ทราบถึงกระเแสเพลง “คิดถึงลุงตู่” ที่กระหึ่มอยู่ในโซเชียลฯ พร้อมระบุว่า ‘ลุงตู่’ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้ขึ้นเป็นองคมนตรี และไม่กลับมาการเมืองเเล้ว ขออย่าไปทำให้ท่านเสียหาย
ส่วนที่เกิดการเปรียบเทียบเรื่องเศรษฐกิจ ระหว่างรัฐบาลก่อนกับปัจจุบัน จึงจำเป็นต้อง ‘เร่งเครื่อง’ ให้หนักกว่าเดิมหรือไม่นั้น ทักษิณ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วไม่มีอะไร น่าจะทำได้อยู่
ทั้งนี้ ตนเองอาจพูดเปิดทาง ในแนวทางเศรษฐกิจ ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองไว้ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้หันมาดูว่า ประเทศไทยควรจะไปในทิศทางไหน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศและคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ ที่มองได้รอบด้านว่าเกิดอะไรเกิดขึ้นในประเทศ ยกตัวอย่างเช่น เห็นคนเรียนจบมาไม่มีงานทำก็ท้อถอย เรื่องนี้เราจะต้องหันมาให้กำลังใจพวกเขา และให้พวกเขาเป็นพลัง เพราะหากหมดใจ ก็ไม่เป็นพลังให้กับประเทศ ดังนั้น ทุกคนต้องเป็นพลังให้กับประเทศ
ขณะเดียวกัน เชื่อว่าหลังรัฐบาลสร้างผลงาน ก็จะช่วยหนุนพรรคเพื่อไทย ให้กลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง
เชื่อว่าหลังจากนี้แล้ว รัฐบาลทำไปเยอะแล้ว แต่ทำไปแล้วยังปิดไม่ได้ ปิดไม่ลงตัว หลังจากนี้ไปก็ทยอยปิดงาน เมื่อปิดงาน ผลงานก็จะชัดเจนขึ้น การแก้ไขปัญหาก็จะดีขึ้น ก็น่าขึ้นมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งโดยไม่ยากนัก ผมใช้คำว่าไม่ยากนัก และไม่อยากให้กองเชียร์ต้องกังวล
ไม่ขอพูดถึง ‘เฉลิม’ ลั่น ‘สงสารเขา อายุเยอะแล้ว’
ทักษิณ ยังปฏิเสธที่จะพูดถึงกรณีที่ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง ออกมาแถลงข่าวเปิดหน้าชนกับพรรคเพื่อไทย โดยกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า “อย่าไปพูดถึงเขาเลย สงสารเขา” ส่วนกรณีที่ถูกอีกฝ่ายท้าดีเบตนั้น ทักษิณ กล่าวว่า “ไม่ต้องหรอกครับ ผมสงสารเขา เขาอายุเยอะแล้ว ผมก็อายุเยอะแล้ว เขาอายุเยอะกว่า”
ภายหลังเสร็จสิ้นการให้สัมภาษณ์ แพทองธาร ได้แซวสื่อมวลชนว่า ไม่ร้องเพลง Happy Birthday ให้คุณพ่อหรือ? สื่อมวลชนที่ล้อมวงสัมภาษณ์จึงได้ร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้กับทักษิณ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้อวยพรให้ ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชาย เนื่องในคล้ายวันเกิด 75 ปี ผ่านโซเชียลมีเดีย
