สถานการณ์การเมือง ‘อึมครึม’ ท่ามกลางความ ‘ไม่ชัดเจน’ เดือน มิ.ย.67 ที่มี 3 คดีใหญ่อยู่ ที่เป็น ‘ตัวละครสำคัญ’ บนกระดานอำนาจ เริ่มจากคดี ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ภายหลัง ‘อัยการสูงสุด’ สั่งฟ้อง ม.112 โดย อสส. นัดหมายให้มารับทราบคำสั่งและส่งตัวฟ้องศาลอาญา 18 มิ.ย.นี้
ต่อมา ‘ทักษิณ’ ได้ยื่น ‘ขอความเป็นธรรม’ อีกรอบ โดยชี้ว่า ‘กรรมการสอบสวน’ ที่ตั้งเมื่อปี 2558 โดนรัฐบาล คสช. ข่มขู่ ทำให้ไร้อิสระและไม่เป็นธรรม ซึ่งทาง อสส. จะต้องพิจารณา ‘คำร้อง’ ดังกล่าว ว่ามีน้ำหนักเพียงพอหรือไม่
คดีใหญ่ที่ศาล รธน. ได้นัดพิจารณาคดียุบ ‘พรรคก้าวไกล’ นัดแรก 12 มิ.ย.นี้ ซึ่งต้องจับตาว่า ศาล รธน. จะดำเนินการต่ออย่างไร จะเปิดไต่สวนหรือไม่ หรือเรียกพยานเพิ่มเติมหรือไม่-กี่คน หลังพรรคก้าวไกลมีข้อโต้แย้ง 3 หมวดหมู่ 9 ประเด็น ที่ชี้แจงศาล รธน. พร้อมกับยื่น ‘การไต่สวน-บัญชีพยาน’ เพิ่มเติม หรือสุดท้ายศาล รธน. จะวินิจฉัยเมื่อใด
ทั้งนี้ยังไม่นับรวมกรณี 44 สส.ก้าวไกล สภาฯชุดที่ผ่านมา ที่ลงชื่อแก้ ม.112 ที่อยู่ในชั้น ป.ป.ช. ซึ่งทางเลขาธิการ ป.ป.ช. ก็ออกมา ‘ส่งสัญญาณ’ ในลักษณะ ‘ไม่เหมาเข่ง’ โดยจะเรียกสอบรายบุคคลในเรื่องเจตนา ทำให้มีการมองว่าสุดท้ายทั้ง 44 คน อาจไม่โดนสอยทั้งหมด แต่จะโดนรายบุคคล ซึ่งมีการชี้เป้าไปที่ ‘กรรมการบริหารพรรค’ เป็นหลัก
สำหรับอีกคดีใหญ่คือศาล รธน. อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี 40 สว. ยื่นถอดถอน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ พ้นจากความเป็น ‘รัฐมนตรี’ เซ่นพิษตั้ง ‘พิชิต ชื่นบาน’ เป็น รมต.สำนักนายกฯ ขาดคุณสมบัติขัด รธน. หรือไม่
แม้ ‘เศรษฐา’ จะได้ ‘เนติบริกร’ ชื่อ ‘วิษณุ เครืองาม’ มาฝ่าทางตัน แต่ท่าที ‘เศรษฐา’ ก็ยังมีความกังวล ถึงขั้นทำให้ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ทิ้งบอมบ์ซัด ‘คนในป่า’ ที่ทำการเมืองวุ่นวาย ก็เป็นที่ชัดเจนว่าพุ่งเป้าไปที่ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แห่งบ้านป่ารอยต่อ เพราะเมื่อไปดูร่องรอย 40 สว. ก็พบว่าเป็น สว. สายบ้านป่าฯ เป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวตีคู่ ที่เป็น ‘แผนเผด็จศึกสุดท้าย’ ของขั้วอนุรักษนิยม ในการแก้เกมการเมือง ถึงขั้นจะให้ ‘เศรษฐา’ ทำการ ‘ยุบสภาฯ’ จากนั้น ‘เศรษฐา’ ก็จะ ‘ลาออก’ จากตำแหน่งนายกฯ โดยใช้สูตร ‘พิชิตโมเดล’ เพื่อให้พ้นสุด ‘ความเป็นรัฐมนตรี’ ก่อนที่ศาล รธน. จะวินิจฉัย ก็จะทำให้ ‘เศรษฐา’ ไม่โดนตัดสิทธิการเมือง
แต่ก็เกิดคำถามขึ้นทำว่า เหตุใดถึงต้อง ‘ยุบสภาฯ’ เพื่อให้อำนาจหลุดมือไป หากเป็นเช่นนี้ก็จะเข้าทาง ‘ก้าวไกล’ ที่จะชนะเลือกตั้ง ในจุดนี้อย่าลืมว่าหาก ‘ก้าวไกล’ ถูกยุบพรรค ก็จะทำให้ สส.ก้าวไกล หาพรรคใหม่สังกัดไม่ทัน และไม่สามารถลงรับเลือกตั้งได้ เท่ากับเป็นการ ‘ปิดประตู’ ไปทันที เท่ากับเป็นการ ‘ล้างกระดานอำนาจ’ ใหม่อีกครั้ง
แต่อย่าลืมว่า ‘ไทยรักไทย-เพื่อไทย’ เคยมีประสบการณ์ในอดีต ที่ประกาศ ‘ยุบสภา’ ทำให้ ‘อำนาจหลุดมือ’ สุดท้ายการเลือกตั้ง แม้เกิดขึ้น ก็กลายเป็น ‘โมฆะ’ จึงมีเสียงเตือน ‘เพื่อไทย’ อย่ายุบสภา มิเช่นนั้น ‘ประวัติศาสตร์’ จะซ้ำรอย และอาจไม่ได้ ‘เลือกตั้ง’ ตามที่ตั้งใจไว้ โดน ‘ขั้วอนุรักษนิยม’ ตลบหลัง
ทว่าสถานการณ์ยังไม่ไปถึงจุดนั้น ที่จะใช้ ‘แผนเผด็จศึก’ สุดท้าย เพราะยังไม่มี ‘เงื่อนไข’ เพียงพอ และยังไม่ถึง ‘ทางตัน’ ดังนั้น ‘เพื่อไทย’ อย่าได้สร้าง ‘ทางตัน’ ขึ้นมาเอง เฉกเช่นเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ประกาศ ‘ยุบสภา’
ทั้งหมดเป็น ‘มูลเหตุ’ ทำให้ ‘กระดานหุ้นแดง’ ทั้ง 3 คดีใหญ่ บ่วงรัด ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ และคลื่นใต้น้ำ ‘ขั้วอนุรักษนิยม’ กินรวบอำนาจ แทงหลัง ‘เพื่อไทย’