ส่อง ‘เทวดา’ ชั้น 14 ใครได้เยี่ยม ‘ทักษิณ’ ที่ รพ.ตำรวจ บ้าง?

9 พ.ย. 2566 - 06:57

  • กว่า 2 เดือนแล้ว ที่ ‘ทักษิณ’ พักรักษาตัว ‘นอกเรือนจำ’ ที่ รพ.ตำรวจ มีกลุ่มการเมืองขยับไปประชิด เพื่อตอกย้ำภาพความเป็น ‘อภิสิทธิ์ชน-เทวดา’ ของ ‘ทักษิณ’ ที่เข้าเรือนจำเพื่อรับโทษเพียง 1 วัน ที่แทบไม่มี ‘ข่าว-ภาพหลุด’ ออกมา สุดท้ายแล้วใครได้เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ บ้าง? เป็นบุคคลระดับใดบ้าง?

Thaksin-Deity-Prisoner-Police-Hospital-SPACEBAR-Hero.jpg

ผ่านมา 2 เดือนแล้ว ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อยู่ในการควบคุมตัวของ ‘กรมราชทัณฑ์’ และได้ใช้สิทธิผู้ต้องขังมารักษาตัวนอกเรือนจำที่ รพ.ตำรวจ ที่สำคัญแทบไม่มี ‘รายงานข่าว’ ว่ามีใครไปพบ ‘ทักษิณ’ บ้าง หรือมี ‘ภาพถ่าย’ หลุดออกมา มีเพียงภาพเดียวที่เผยแพร่ในโซเชียลฯ เป็นภาพ ‘ทักษิณ’ นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เข็นบริเวณทางเดินใน รพ.ตำรวจ ซึ่งในภาพถ่ายมี ‘เอม’พินทองทา ลูกสาวคนกลาง และ ‘อุ๊ง’แพทองธาร ลูกสาวคนเล็ก ขนาบข้าง 

ต่อมา ‘กรมราชทัณฑ์’ ได้ชี้แจงว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ทีมแพทย์รักษาและประเมินสุขภาพของ ‘ทักษิณ’ นำอดีตนายกรัฐมนตรีไปทำการ CT Scan และ MRI ที่ตึก ภปร. และดำเนินการเสร็จสิ้นในเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน จากนั้นได้นำ ‘ทักษิณ’ กลับไปพักรักษาตัว ที่อาคารอาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ชั้น 14 เช่นเดิม 

ย้อนกลับไป 28 ส.ค.ที่ผ่านมา หลัง ‘ทักษิณ’ กักตัวควบคุมโรคครบ 7 วัน กรมราชทัณฑ์ได้อนุญาตเปิดให้เข้าเยี่ยมได้ โดยตามระเบียบ ญาติต้องแจ้งรายชื่อลงทะเบียนผ่านระบบของเรือนจำฯ ไม่เกิน 10 รายชื่อต่อวัน ครั้งละไม่เกิน 40 นาที แต่รายชื่อไม่สามารถเปิดเผยได้  

ซึ่งคนกลุ่มแรกที่ได้เข้าเยี่ยม คือ ‘โอ๊ค’พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายคนโต ‘เอม’พินทองทา ‘อิ๊ง’แพทองธาร พร้อมลูกเขย-สะใภ้-หลาน 1 คน และทนายประจำตัวของ ‘ทักษิณ’ 

ทั้งนี้มีรายงานว่าช่วงที่ ‘ทักษิณ’ พักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ 2-3 วันแรก ที่ในขณะนั้นอยู่ระหว่างการ ‘จัดตั้งรัฐบาล’ ได้มี ‘แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล-คนนอกครอบครัว’ ได้เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ โดยมีจำนวนไม่กี่คนเท่านั้น แม้แต่ ‘คนสนิท’ ก็ไม่ได้เข้าเยี่ยมกัน เพราะสถานะของ ‘ทักษิณ’ ยังเป็น ‘ผู้ต้องขัง’ และยังอยู่ระหว่าง ‘ควบคุมตัว’ ซึ่งมีกฎของกรมราชทัณฑ์ควบคุมอยู่ 

ดังนั้นคนที่เข้าไปเยี่ยมจะเป็นระดับ ‘วีวีไอพี’ เท่านั้น ในส่วนแกนนำ ‘พรรคเพื่อไทย’ ไม่มีใครได้ไปเยี่ยม เพราะที่ผ่านมามี ‘แพทองธาร’ ที่เข้าเยี่ยม และนำสารมาสื่อสารกับ ‘แกนนำ-ลูกพรรคเพื่อไทย’ อยู่แล้ว 

อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ ‘ทักษิณ’ พักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ มีความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มองว่า ‘ทักษิณ’ เป็น ‘อภิสิทธิ์ชน’ เพราะอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่ถึง 1 วัน โดยเฉพาะกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้จัดกิจกรรมหน้า รพ.ตำรวจ มาตลอด เพื่อทำการขอ ‘เยี่ยมไข้’ หลายครั้ง และ เพื่อสอบถามอาการของ ‘ทักษิณ’ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะ ‘ทักษิณ’ จะพักรักษาตัวนอกเรือนจำครบ 60 วัน ในวันที่ 23ต.ค.  

ซึ่งตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ระบุว่า การพักรักษาตัวเกินกว่า 60 วัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นแพทย์ผู้รักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ 

นอกจากนี้เมื่อ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา คปท. ได้ทำกิจกรรม “ใส่รองเท้าผ้าใบถุงเท้าหลากสี ไปทำเนียบฯ เศรษฐาอย่าลอยตัว นำทักษิณกลับเรือนจำ” บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้นำตัว ‘ทักษิณ’ กลับไปควบคุมตัวที่เรือนจำ 

ล่าสุดเมื่อ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ‘เต้-มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์’ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไล พร้อมภรรยา ได้เดินทางมาหน้า รพ.ตำรวจ เพื่อนำอาหารอาหารมาเข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ ในฐานะของการเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาทั่วไป  

ทั้งนี้ ‘มงคลกิตติ์’ ระบุว่า ไม่รู้ว่าสรุปแล้ว ‘ทักษิณ’ ป่วยเป็นอะไรกันแน่ เพราะตามปกติ ถ้านักโทษมีชื่อเสียง คณะแพทย์ต้องแถลงอาการทุกสัปดาห์ว่ าเจ็บป่วยอะไรบ้าง ขั้นตอนรักษาเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อให้ประชาชนทราบ เชื่อว่าคนอายุ 74 ย่าง 75 ปี มีโรคภัยไข้เจ็บอยู่แล้ว  

ทั้งนี้ทาง ‘กรมราชทัณฑ์’ ไม่อนุญาตให้ ‘มงคลกิตติ์’ เข้าเยี่ยม โดย จนท.กรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงระเบียบของกรมราชทัณฑ์ต่อ ‘มงคลกิตติ์’ ว่า หากไม่ใช่ญาติของ ‘ทักษิณ’ ที่ลงทะเบียนไว้นั้น ไม่สามารถเยี่ยมได้ ส่วนอาหารที่ ‘มงคลกิตติ์’ นำมานั้น ทาง รพ.ตำรวจ ก็ไม่สามารถรับไว้ได้ ซึ่งแบบฟอร์มในการอนุญาติในการเข้าเยี่ยม ต้องไปติดต่อกับทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 

ดังนั้นจึงต้องจับตาท่าทีของ ‘ทักษิณ’ ที่สามารถยื่นขอ ‘พักโทษ’ ได้ ในช่วงเดือน ก.พ.2567 เพราะจะเข้าเกณฑ์รับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน และอีกไม่ถึง 1 ปี ที่ ‘ทักษิณ’ จะ ‘พ้นโทษ’ ในเดือน ก.ย.2567 จะออกมามีบทบาท ‘ทางการเมือง’ อย่างไร และสะเทือนเก้าอี้ ‘นายกฯ เศรษฐา’ หรือไม่

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์