เปิดปฏิบัติการ 40 สว. ยื่นชื่อต่อศาล รธน. ให้ถอดถอน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ พ้นนายกฯ เหตุแต่งตั้ง ‘พิชิต ชื่นบาน’ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี ตาม รธน.60 ชนวนเหตุคดีดัง ‘ถึงขนม 2 ล้านบาท’ ที่สำคัญกลายเป็นว่า ‘ผิดแผน’ จากที่ ‘พรรคเพื่อไทย’ วางไว้ หลังให้ ‘พิชิต’ ลาออก รมต.สำนักนายกฯ เพื่อให้ความเป็น รมต. สิ้นสุดลง และหวังว่าศาล รธน. จะได้ไม่รับคำร้อง เพราะไม่มี ‘หัวเชื้อ’ ที่จะลามมาถึง ‘เศรษฐา’
แต่งานนี้ ‘คดีพลิก’ เพราะศาล รธน. กลับมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 รับคำร้อง สว. ที่จะพิจารณาความเป็น ‘รัฐมนตรี’ ของ ‘เศรษฐา’ ต้องสิ้นสุดหรือไม่ ? และมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ไม่สั่งให้ ‘เศรษฐา’ หยุดปฏิบัติหน้าที่ แม้ ‘เศรษฐา’ จะไม่โดนหนุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ ‘ตัวเลขมติ’ ถือว่าน่าหวาดเสียวอย่างมาก
ปฏิบัติการลับ 3 วัน เริ่มจาก 40 สว. รวมรายชื่อ ส่ง ‘พรเพชร วิชิตชลชัย’ประธาน สว. จากนั้นนำส่งสำนักงานศาล รธน. เรียกว่า ‘เงียบ-เฉียบ’ เพราะไม่มีข่าวหลุด หลังรายชื่อ 40 สว. ไร้ ‘สว.ตัวจี๊ด-สายล่อฟ้า’ ที่อาจทำ ‘แผนแตก-แผนรั่ว’ ได้ ในอีกแง่ ‘หัวโจก’ 40 สว. ก็หวั่น สว. ที่จะลงชื่อโดน ‘ล็อบบี้’ ไม่ให้ลงชื่อจากฝั่งรัฐบาล
ผ่านมา 1 สัปดาห์ หลังยื่นศาล รธน. รายชื่อถึงปรากฎออกมา เรียกว่าพบ ‘ร่องรอย’ เพียบ หนีไม่พ้น ‘ปฏิบัติการป่ารอยต่อ’ งัดข้อ ‘ระบอบจันทร์ส่องหล้า’ เพราะ สว. ที่ลงชื่อส่วนใหญ่ อยู่ในปีกสาย ‘บ้านป่ารอยต่อ’ ทั้งสิ้น ที่ไปผสมโรงกับ ‘สว.อนุรักษ์นิยม-อดีตข้าราชการ’ ที่มีแนวคิดไม่เอา ‘ระบอบทักษิณ’ ด้วย
แต่ที่เป็นนัยยะสำคัญคือรายชื่อ ‘อดีตทหาร’ มีไม่ถึงสิบคน และอดีตตำรวจก็มีเพียงไม่กี่ราย ในมิตินี้ถูกมองว่าเป็นการ ‘ยืมมือ’ สว.สายพลเรือน เป็นหลัก ทำให้ภาพไม่ ‘เด่นชัด’ ว่าเป็นคนของ ‘อดีตบิ๊ก คสช.’ เดิม แม้ว่าจะมี สว. ที่เป็น ‘เพื่อน ตท.12’ กับ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แก่ ‘บิ๊กเยิ้ม’พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร และ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ แต่ทั้งคู่ก็มี ‘ความเป็นตัวเอง’ จึงไม่ได้เป็น ‘สายเพื่อนตู่’ แบบเบ็ดเสร็จ
ส่วน ‘บิ๊กเข้’พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ รุ่นน้องสายทหารเสือฯ ตท.18 ของ ‘บิ๊กตู่’ ก็เป็นการใช้สิทธิส่วนตัว แต่ในอีกมิติ พล.อ.เทพพงศ์ ก็เป็นน้องรักของ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วย สำหรับ ‘บิ๊กสร้าง’พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ที่เป็น ‘เพื่อน ตท.6’ กับ ‘บิ๊กป้อม’ ก็เป็นการลงชื่อแบบ ‘สิทธิส่วนตัว’ มากกว่า
ทว่าโฟกัสจึงไปตกที่ สว. ที่อยู่ใน กมธ.ปราบโกงฯ วุฒิสภา ที่มี ‘บิ๊กปุ้ม’ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ น้องชาย ‘บิ๊กป้อม’ เป็น ประธาน กมธ. ที่ลงชื่อ 6 คน หรือเกือบ 1 ใน 4 ได้แก่ มล.สกุล มาลากุล , พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย , วิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร , พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์, วรารัตน์ อติแพทย์ , ธานี อ่อนละเอียด
นอกจากนี้ยังมี สว. ที่อยู่ใน กมธ.การศาสนาฯ วุฒิสภา ลงชื่อ 3 ได้แก่ มหรรณพ เดชวิทักษ์ ประธาน กมธ. ,ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร , พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร
ชื่อที่ถูกโฟกัสหนัก คือ ‘มหรรณพ เดชวิทักษ์’ เพราะมีลูกชายชื่อ ‘ชาญกฤช เดชวิทักษ์’ ทำงานเป็นคีย์แมนใน ‘คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พปชร.’ ว่ากันว่า ‘มหรรณพ’ จับมือกับอดีต สว. ที่ผันตัวมาเป็น สส. สมัยที่แล้ว ยกร่าง ‘คำร้อง’ ขึ้นมา เพื่อล่ารายชื่อ 40 สว. เพราะมีความชำนาญในการทำ ‘เอกสารทางกฎหมาย’ เป็นทุนเดิม
คำถามสำคัญ คือ ‘ขั้วบ้านป่ารอยต่อ’ เดินเกมนี้ไปเพื่ออะไร? หากมองเพียงผิวเพิน ก็เป็นการ ‘ต่อรองอำนาจ’ ในทางการเมือง ระหว่าง ‘ขั้วบ้านป่ารอยต่อ’ กับ ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ เพราะช่วงจัดตั้ง ‘รบ.เศรษฐา’ เมื่อปีที่แล้ว พปชร. กับ เพื่อไทย เคยต่อรองจำนวนเก้าอี้ รมต. มาแล้ว ที่ พปชร. ได้เก้าอี้ สส. มากกว่า ‘รวมไทยสร้างชาติ’ แต่กลับได้โควต้า รมต. 4 ที่นั่ง เท่ากัน
หากมองให้ลึก ‘ขุมกำลังบ้านป่าฯ’ ไม่เคยลดละความพยายามดัน ‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นเป็น นายกฯ หากย้อนไปเมื่อ 22 ส.ค.66 ในบรรดารายชื่อ สว. ที่ไม่โหวต-งดออกเสียง ในการโหวต ‘เศรษฐา’ ขึ้นเป็น นายกฯ ซึ่งในขณะนั้น ‘สว.สายบิ๊กตู่’ ไม่แตกแถวโหวตให้ ‘เศรษฐา’ เป็นนายกฯ
หากชำแหละรายชื่อ 40 สว. พบกว่า 21 คนโหวตให้ ‘เศรษฐา’ เป็นนายกฯ ส่วนอีก 10 คน ‘งดออกเสียง’ สำหรับที่ ‘ไม่เห็นชอบ’ มี 5 คน
21 สว. ที่โหวตให้ ‘เศรษฐา’ เป็นายกรัฐมนตรี ได้แก่ ขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ , จิรชัย มูลทองโร่ย , ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร , พล.อ.ชูศักดิ์ เมฆสุวรรณ์, ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ , เชิดศักดิ์ สันติวรวุฒิ , ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม , พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย , พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ , พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร , ธานี อ่อนละเอียด , พล.อ.นิวัตร มีนะโยธิน , ประยูร เหล่าสายเชื้อ , พลเดช ปิ่นประทีป , ว่าที่ ร.ต.วงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี , วรารัตน์ อติแพทย์ , ศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล , พล.ต.ท. สมบัติ มิลินทจินดา , สวัสดิ์ สมัครพงศ์ , สังศิต พิริยะรังสรรค์ และ พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์
ขณะที่ สว. ที่โหวตไม่เห็นชอบ ‘เศรษฐา’ 5 คน ได้แก่ จเด็จ อินสว่าง , ถวิล เปลี่ยนศรี , พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป , ฝสมชาย แสวงการ และ ประพันธุ์ คูณมี
สว. ที่งดออกเสียงมี 10 คน ได้แก่ จัตุรงค์ เสริมสุข , พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ , ถนัด มานะพันธุ์นิยม , ทวีวงษ์ จุลกมนตรี , พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ , ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม , พิทักษ์ ไชยเจริญ , วิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร , พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร และ มล.สกุล มาลากุล
สำหรับ สว. ที่ไม่แสดงตนมี 2 คน คือ มหรรณพ เดชวิทักษ์ และ พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ ส่วนมี สว. ที่ขณะโหวตนายกรัฐมนตรี ยังไม่ดำรงตำแหน่ง ได้แก่ เพิ่มพงษ์ เชาวลิต และ พล.อ.สุนทร ขำคมกุล
ที่สำคัญว่ากันว่า ‘ขั้วบ้านป่ารอยต่อ’ แอบเลี้ยง สส.ฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล ไว้ราว 20 คน หลังเคยมีข่าวว่า สส.ก้าวไกล ถึงบ้านพักด้วย
ดังนั้นความพยายามของ ‘บ้านป่ารอยต่อ’ ที่จะดัน ‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นเป็นนายกฯ ยังคงมีอยู่ แม้จะมีอุปสรรคใหญ่ คือ ‘สุขภาพ’ ของ พล.อ.ประวิตร ที่ไม่ฟิตเหมือนแต่ก่อน
เพราะ ‘ขั้วบ้านป่ารอยต่อ’ ไม่ได้อยู่ใน ‘ดีลลับลังกาวี’ ตั้งแต่แรก ที่แลกกับการนำ ‘ทักษิณ’ กลับไทย แต่ผ่านมา 7 เดือน ‘ขั้วอนุรักษนิยม’ ก็เริ่มขยับ เพราะ ‘ดีลเคลื่อน’ โดยเฉพาะตำแหน่งใน ‘รัฐมนตรี’ ในรัฐบาล ที่ ‘เพื่อไทย’ รุกคืบ ‘ก.คลัง’ ทำให้ ‘กฤษฎา จีนะวิจารณะ’ ประกาศลาออก รมช.คลัง หลังโดน ‘พิชัย ชุณหวชิร’ รมว.คลัง สายตรงชินวัตร ริบอำนาจในการคุมหน่วยงานต่างๆ
อีกทั้งเก้าอี้ รมว.กลาโหม ที่ ‘เพื่อไทย’ ยังรั้งเก้าอี้ตัวนี้ไว้ให้ ‘สุทิน คลังแสง’ เพื่อรักษาภาพ ‘รัฐบาลพลเรือน’ ที่ให้พลเรือนคุม ‘กลาโหม’ ซึ่งขั้ว ‘อนุรักษนิยม’ ก็ต้องการให้ ‘ทหาร’ คุม ‘กองทัพ’ มากกว่าพลเรือน โดยมีชื่อ ‘บิ๊กเล็ก’พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ในขณะนี้เป็น เลขานุการ รมว.กลาโหม อดีตที่ปรึกษานายกฯ ยุค รบ.ประยุทธ์ และเป็นเพื่อน ตท.20 กับ ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.
ดังนั้นการวัดพลังระหว่าง ‘บ้านป่ารอยต่อ’ กับ ‘ระบอบทักษิณ’ ที่เกิดขึ้น แม้จะไม่เกี่ยวกับ ‘ดีลลับ’ โดยตรง แต่ก็เป็นเกมที่ ‘ขั้วอนุรักษนิยม’ ได้ทำการ ‘สั่งสอนทักษิณ’ ว่าอย่าได้คิด ‘กำเริบเสิบสาน’ !!