ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางด้วยรถไฟไปอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นวิทยากรในงานสัมมนาโครงการเสริมศักยภาพ สส.และบุคลากรทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย โดยอดีตนายกฯ เล่าว่า “ไม่ได้นั่งรถไฟมานานมากแล้วตั้งแต่ปี 2549 ก็เกือบ 20 ปีแล้ว นั่งครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2548 ไปหาเสียงที่ภาคอีสานด้วยขบวนรถไฟหมายเลข 9 ไปจังหวัดอุบลราชธานีและประชุมบนรถไฟ” ซึ่งเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทักษิณได้หันมาแซวสื่อมวลชนที่เคยทำข่าวในอดีตว่า “สื่อยังไม่แก่” ขณะที่ตัวเองนั้นแก่และโทรม พร้อมระบุว่า การเดินทางด้วยรถไฟไปหัวหินในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรกหลังเดินทางกลับประเทศไทย
เมื่อถามว่าได้มาขึ้นรถไฟครั้งนี้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ทักษิณ กล่าวว่า “ก็เห็นแค่ทาสีใหม่” พร้อมระบุด้วยว่า รถไฟไม่สามารถใช้ความเร็วได้ เนื่องจากสองข้างทางมีชุมชนอยู่ ดังนั้นในอนาคตต้องมีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นตึก ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายไปเมื่อวานนี้
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงบ้านพักตากอากาศปลาโลมาที่หัวหิน ทักษิณ ตอบว่า ยังอยู่ ซึ่งสมัยก่อนนักการเมืองที่ไปหัวหิน มักจะไปแวะที่บ้าน พร้อมกล่าวถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า 3 หลัง ที่เอาไว้รองรับสื่อมวลชน ว่า ยังอยู่ แต่ได้ปิดไปแล้ว เพราะอยากให้สื่อมวลชนไปติดตามทำข่าวนายกรัฐมนตรีมากกว่า
ส่วนจะมีคำแนะนำอะไรให้นายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ทักษิณ กล่าวว่า “DNA เดียวกันอยู่แล้ว” พร้อมกล่าวติดตลกในทำนองว่า “หัวหน้าพรรคไทยรักไทยปี 2544 กับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยปี 2567 เป็นคนเดียวกัน เพียงแต่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยผมยาวกว่า”
รับเล็งส่ง ‘ภรรยา สจ.โต้ง’ ลงชิงนายก อบจ.ปราจีนฯ
ผู้สื่อข่าวยังถามไปถึงการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดปราจีนบุรี ที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้นอีกครั้ง เรื่องนี้ ทักษิณ ให้ความเห็นว่า “ไม่มีอะไร, ที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นเขตอิทธิพลของ สุนทร วิลาวัลย์ มานานแล้ว การเมืองมีทั้งฮั้ว ถ้าฮั้วไม่ลงตัวก็ฆ่ากัน เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ตำรวจก็จัดการได้เร็วมาก ล้อมบ้านและจับกุมได้ทั้งหมด ยอมรับว่าตำรวจจับกุมได้เร็วมาก”
ส่วนที่มีการเปิดแชทของ ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ ‘อดีต สจ.โต้ง’ บุตรบุญธรรมของ สุนทร วิลาวัลย์ หรือ ‘โกทร’ นายก อบจ.ปราจีนบุรี วัย 85 ปี กับคนสนิทของทักษิณนั้น เจ้าตัวยอมรับว่า “ใช่ครับ อยากให้ภรรยาลงในนามพรรคเพื่อไทย” และยืนยันว่า “ได้มีการคุยกับสุนทรแล้ว แต่ถูกเรียกไปอีกครั้งหนึ่ง ก็อาจจะเรียกไปต่อรองกันหรือไม่ก็ไม่รู้ ส่วนตัวไม่รู้ รอผลการสอบสวนก่อน”
โยน ‘เพื่อไทย’ เปลี่ยนตัวหลังเกิดเหตุสลด ลั่น ตร.ต้องกวาดล้างให้เกลี้ยง
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะมีการส่งลงชิงเก้าอี้ นายก อบจ.ปราจีนบุรี หรือไม่ ทักษิณ กล่าวว่า “ตอนนั้นได้มาคุยกันว่า สส.เพื่อไทย ในเขตปราจีนบุรี จะมีการสนับสนุนภรรยาของ สจ.โต้ง ส่วนที่มีการถอนตัวแล้ว เพราะเขาคงไม่กล้าลง เพราะยังมีอิทธิพลที่ยังไม่จบ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ตำรวจต้องมีการกวาดล้างอิทธิพลปราจีนบุรีให้เกลี้ยง”
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะมีการส่งผู้สมัครปราจีนบุรีหรือไม่ ทักษิณ บอกว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบ หรืออาจจะไม่ส่งก็ได้
เมื่อถามว่า ในจังหวัดเชียงใหม่, พรรคเพื่อไทยจะส่ง พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ‘นายกฯ ก๊อง’ ลงหรือไม่ หรือเป็นเพียงพันธมิตรกัน ทักษิณ ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ ต้องถามพรรคเพื่อไทย รวมถึงสนามอื่นๆ ด้วย ต้องถามพรรค
หากพรรคแกนนำรัฐบาลกลัวอิทธิพลก็แย่แล้ว ไม่ต้องไปกลัวหรอก เราต้องปราบอิทธิพลให้เกลี้ยง
ทักษิณ ชินวัตร
ก่อนจะพูดย้ำว่า “ดูปราจีนบุรีสิ เดี๋ยวก็หมด เที่ยวนี้เกลี้ยงแน่ หลายจังหวัดก็เป็นแบบนี้ เดี๋ยวตำรวจก็จัดการ เพราะช่วงนี้ตำรวจฟิต ไม่ต้องห่วง”
ส่วนการเมืองท้องถิ่นมีความรุนแรงขนาดนี้ จะมีความกังวลในการเมืองระดับประเทศหรือไม่ ทักษิณ กล่าวว่า ไม่กังวล วันนี้ต้องทำหน้าที่ เมื่อทำหน้าที่แล้วละทิ้งไม่ได้ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ขณะตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ถูกลอบสังหาร 4 ครั้ง วันนี้เหตุการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ความรุนแรงต่างๆ ในระดับประเทศลดลงไปเยอะ เหลือน้อยลง
ส่วนที่มีภาพทักษิณ ไปที่ จ.นครปฐม ไปคุยกับ ‘บ้านใหญ่’ ทักษิณ ยอมรับว่า “ไปงานเลี้ยงผู้บริหารของโรงแรม ชวนไปทานข้าว มีตำรวจเป็นส่วนใหญ่ เป็นรุ่นน้อง แต่ยังไม่เจอ และยังไม่พูดคุยบ้านใหญ่ของนครปฐม”
ไม่กลัวสนามศรีสะเกษ เจอบ้านใหญ่ ‘ไตรสรณกุล’ ตั้งเป้า ‘สส.อีสาน’ สมัยหน้าเกิน 100 เก้าอี้ บอกไม่ส่งท้องถิ่นภาคใต้ เหตุไร้ฐานเสียง
เมื่อถามต่อไปว่า พรรคเพื่อไทยจะส่ง อบจ.ภาคใต้ หรือไม่ ทักษิณ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีฐานเสียงภาคใต้ เพราะการจะลงจะต้องมีฐานเสียง
ส่วนพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ต้องเจอกับ ‘บ้านใหญ่ไตรสรณกุล’ บิดาของ ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลัวหรือไม่ ทักษิณ กล่าวว่า “ไม่กลัว เป็นคนละฟากกัน” ส่วนการทำพื้นที่ยากหรือไม่นั้น ไม่มีอะไรยาก อยู่ที่ความพยายาม
เมื่อถามต่อไปว่า สส.อีสานในอนาคตจะกลับมาเหมือนเดิม ที่ได้ 125 ที่นั่งหรือไม่ ทักษิณ กล่าวว่า “เราต้องให้เกินร้อย”
ส่วนเมื่อถามว่า ‘20 สส.ก๊วนธรรมนัส’ จะมาซบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ทักษิณ บอกว่า “ก็เหมือนอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว”
ทักษิณ ระบุด้วยว่าจะลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ส่วนนายกรัฐมนตรี จะไปด้วยหรือไม่นั้นไม่ทราบ และจะลงพิ้นที่ จ.ศรีสะเกษ-เชียงรายด้วย ส่วนช่วงปีใหม่จะอยู่กรุงเทพฯ เพราะใม่อยากรบกวนใคร
ส่วนเมื่อถามว่าจะไปดู ‘ลิซ่า’ หรือไม่ ทักษิณ บอกว่า “ไม้รู้เหมือนกัน ต้องแล้วแต่ลูกว่าเขาจะสั่งให้ไปไหน”
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ทักษิณมีลักษณะผ่อนคลาย พูดคุยสารทุกข์สุขดิบกับผู้สื่อข่าว
