ทันทีที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงเชียงใหม่ด้วยเครื่องบินส่วนตัว พร้อมบุตรสาว ‘แพทองธาร ชินวัตร’ และลูกเขย คณะของทักษิณก็ได้เดินทางต่อด้วยรถยนต์เลกซัสสีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร มายังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
โดย ‘ทักษิณ’ ปรากฏตัวด้วยเสื้อเหมือนกับเมื่อช่วงเช้าที่ไปไหว้ศาลหลักเมือง กทม. และยังคงสวมเฝือกอ่อนที่คอ และสวมหน้ากากอนามัยอยู่เหมือนเดิม พร้อมกับมีพยาบาลประจำตัวคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ซึ่งการปรากฎตัวของ ‘ทักษิณ’ ครั้งนี้ พบว่านอกจากลูกสาว, ลูกเขย และหลานสาวแล้ว ยังมี เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นน้องสาว และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นน้องเขย เดินทางมาพร้อมกันด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ ยังพบว่ามี ‘บิ๊กการเมือง และ บิ๊กตำรวจ’ อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาร่วมติดตามขบวนเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมี นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พิชัย เลิศพงษ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมฝ่ายปกครอง มารอต้อนรับด้วย
และยังมี ภูดิท อินสุวรรณ อดีต สส.พิจิตร เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ นำพระพุทธรูปปางสมาธิมามอบให้ โดยระบุว่า นำพระพุทธบารมีจากวัดทับคล้อมามอบให้ทักษิณ หวังช่วยให้ทักษิณมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ทั้งนี้ ภูดิษเคยเป็นสส.พรรคไทยรักไทย และพรรคเพื่อไทย ก่อนย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และได้ลาออกในเวลาต่อมา
อีกกลุ่มที่มารอต้อนรับ คือกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง ที่นำโดย สำเนียง คงพลปาน แกนนำนปช. จ.สุรินทร์ มารอต้อนรับ โดยสำเนียง ได้แนะนำตัวเองระหว่างที่ทักษิณเดินผ่านว่าเธอชื่อสำเนียง โดยทักษิณได้ตอบกลับว่า สำเนียงหรอ มาไกลจัง พร้อมบอกว่าตอนนี้เขาอาการดีขึ้นแล้วก่อนเดินจับมือลูกสาว เข้าไปในอุทยานฯ
จากการสังเกตลักษณะการเดินของทักษิณด้วยสายตา พบว่า ทักษิณเดินได้ปกติ ไม่มีอาการป่วยที่จำเป็นต้องนั่งรถวีลแชร์เหมือนก่อนหน้านี้ ที่เคยปรากฏต่อสื่อมวลชน
อีกจุดที่น่าสนใจ คือระหว่างที่ทักษิณนั่งรถรางชมอุทยาน เพื่อมุ่งหน้าไปหอคำหลวง พบว่านอกจากครอบครัวแล้วที่นั่งรถตามขบวนไป ยังมีผู้ติดตามทั้งข้าราชการหลายสิบคน นั่งรถตามไปด้วย จำนวน 3 คัน
แต่ทีมงานของทักษิณ ขอไม่ให้สื่อมวลชนติดตามเข้าไปด้านใน และจากข้อมูลพบว่า มีการซื้อบัตรเข้าอุทยานฯ จำนวน 50 ใบ
สำหรับ หอคำหลวง เป็นอาคารหลักตั้งอยู่ภายในแนวแกนหลักของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมท้องถิ่นล้านนา ภายใต้แนวคิดว่า ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ ศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย’ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ หอคำหลวง ที่มีหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นประธานคณะอนุกรรมการ
และอาคารแห่งนี้ ยังเป็นการจำลองมาจากภาพหอคำหลวง ของเจ้าเมืองเชียงใหม่ในอดีต
