วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับการเดินทางเข้าเยี่ยมในวันนี้ของสมาชิกครอบครัวคุณทักษิณ ส่วนตัวยังไม่ได้รับรายงานว่าท่านใดจะเดินทางเข้ามาบ้างหรือไม่ แต่ในช่วงบ่ายวันนี้ตนจะเข้าไปพบทักษิณ เพื่อพูดคุยเรื่องคดีความคงค้างและเรื่องอื่นๆ
ส่วนการเยี่ยมผ่านรูปแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ของญาติท่านอื่นๆ ยังไม่ได้รับแจ้งเช่นกัน อีกทั้งตลอดการเข้าพบพูดคุยกับคุณทักษิณ ยังคงมีอาการอ่อนเพลียบ้าง แต่ยังพูดคุยตอบโต้ได้ ไม่ถึงขนาดมีอาการเหนื่อยหอบ
ส่วนเรื่องอาการของโรคหัวใจหรือโรคอื่นๆ รวมถึงการรักษาพยาบาลยังคงอยู่ในการประเมินวินิจฉัยของทีมแพทย์ รพ.ตำรวจ และทางเรือนจำฯ แบบวันต่อวัน ณ เวลานี้จึงยังไม่มีแนวโน้มว่าอาการเจ็บป่วยของคุณทักษิณทุเลาดีขึ้นหรืออย่างไร ถึงจะได้รับการพิจารณาจากแพทย์เพื่อส่งกลับไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตนไม่สามารถยืนยันในส่วนนี้ได้
เมื่อถามถึงเรื่องความเป็นไปได้ของ ทักษิณ กรณีอาจได้รับการพิจารณาพักการลงโทษ เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังสูงวัยและมีอาการเจ็บป่วยนั้น วิญญัติ ระบุว่า ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา พบว่ามีความคิดเห็นหลากหลายของบุคคลในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพูดถึงประเด็นนี้
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ก็จะต้องมีการพิจารณาว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และเข้าเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 หรือกฎกระทรวงของราชทัณฑ์หรือไม่ และหากเข้าเกณฑ์ ก็ต้องดูอีกว่ามีแนวทางปฏิบัติอย่างไร เพื่อไม่ให้ผิดหรือขัดต่อระเบียบที่มีการกำหนดไว้ ถ้าทางกรมราชทัณฑ์พิจารณาจากหลักเกณฑ์แล้วเห็นว่าทักษิณเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ก็จะมีการแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องขังรับทราบ ส่วนการจะใช้สิทธิดังกล่าวนี้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับทักษิณเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดในเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติใดๆ เป็นเพียงการคาดการณ์และความคิดเห็นของคนในสังคมเท่านั้น อีกทั้งทางเรือนจำฯ ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งเรื่องการพักการลงโทษมายังตนหรือคุณทักษิณ แต่เราทราบว่ามีเกณฑ์นี้อยู่ ท้ายสุดเรื่องนี้ก็เป็นอำนาจของทางกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ที่จะดำเนินการ
วิญญัติ ระบุอีกว่า ยอมรับว่ากรณีของคุณทักษิณมีหลายช่องทางที่เป็นไปได้ ทั้งเรื่องอาจเข้าเกณฑ์ได้รับการพักการลงโทษ หรือเรื่องคุมประพฤติโดยการติดกำไล EM แต่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ใดก็ขึ้นอยู่กับกรมราชทัณฑ์ที่จะพิจารณาความเป็นไปได้ เพราะหน่วยงานก็ดำเนินไปตามระเบียบกฎหมายกำหนดไว้ แต่เราในฐานะทนายความก็ต้องไปศึกษาทั้งหมด ทั้งกฎระเบียบเก่า กฎกระทรวงที่ได้รับการแก้ไขเพิ่มเติม หรือกฎกระทรวงเดิม
นอกจากนี้ ในเรื่องการติดหรือไม่ติดกำไล EM มันมีโอกาสได้ทั้งหมด เนื่องจากจะมีหลักเกณฑ์ รวมถึงข้อยกเว้นอยู่ อยู่ที่ว่าจะเข้าหลักเกณฑ์หรือข้อยกเว้นหรือไม่ หากมีข้อยกเว้นให้สามารถดำเนินการได้ ตนในฐานะทนายความก็ต้องดำเนินการเพื่อลูกความ ถือเป็นสิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขัง
เมื่อถามว่า ในส่วนของบ้านพักผู้มีอุปการะคุณ หากทักษิณเข้าเกณฑ์ได้รับการพักการลงโทษ จะเป็นสถานที่ใด สามารถเป็นบ้านพัก ที่อยู่ปัจจุบันหรือไม่ วิญญัติ ระบุว่า หากคุณทักษิณได้รับการพักการลงโทษจริง ตนไม่สามารถให้ข้อมูลในส่วนนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องที่คุณทักษิณจะต้องมีการพูดคุยกับทางครอบครัว และร่วมกันพิจารณาตัดสินใจถึงความเหมาะสม แต่อยากให้รออีกสักระยะหนึ่งคงจะได้ทราบความชัดเจนกัน
ต่อข้อถามว่า นายทักษิณหรือครอบครัวจะมีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษสำหรับวาระโอกาสสำคัญหลังจากนี้หรือไม่ เช่น วันที่ 13 ต.ค. หรือ 5 ธ.ค. หรือว่าการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษรายบุคคลครั้งที่ผ่านมา และมีการอภัยลดโทษ ถือเป็นพระราชอำนาจเด็ดขาดแล้ว วิญญัติ กล่าวว่า ต้องเรียนว่าการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษที่ผ่านมา และทักษิณได้รับการอภัยลดโทษ ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดแล้วในครั้งนั้น ซึ่งตนมองว่าเป็นรายครั้งมากกว่า
ส่วนในครั้งถัดไป หากมีวาระโอกาสสำคัญหรือวันสำคัญ ทักษิณก็มีสิทธิได้รับประโยชน์หรือมีผลเป็นคุณต่อตัวเองได้ในฐานะที่เป็นผู้ต้องขังทั่วไป แต่ก็ต้องดูว่าขณะนี้คุณทักษิณจัดว่าเป็นผู้ต้องขังชั้นใดหรืออยู่ในหลักเกณฑ์ใด อีกทั้งยังต้องไปดูในส่วนของพระราชกฤษฎีกา ที่ถ้าหากมีการประกาศออกมานั้น จะมีการระบุหมายเหตุ ข้อยกเว้นหรือสาระเนื้อหาแนบท้ายส่วนได้หรือไม่
“การพระราชทานอภัยโทษในครั้งถัดไปนั้น ต้องมองว่าเป็นการไม่เลือกปฏิบัติของทางราชทัณฑ์ หากผู้ต้องขังรายใดที่เข้าเกณฑ์ ทางราชทัณฑ์ก็จะมีการแจ้งหรือดำเนินการไว้อยู่แล้ว เพราะว่าทางเรือนจำ/ทัณฑสถาน จะต้องมีการสำรวจจำนวนผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์หรือว่ามีผู้ต้องขังรายใดเหลือวันต้องโทษจำคุกกี่วัน เพื่อดูว่าใครจะได้รับประโยชน์ตรงนี้บ้าง ไม่ใช่แค่ในกรณีของคุณทักษิณอย่างเดียว ทั้งนี้ ณ เวลานี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องใดๆ ทุกอย่างเป็นไปตามวาระการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น” วิญญัติ กล่าว
นอกจากนี้ วิญญัติ ระบุด้วยว่า สำหรับการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษครั้งถัดไป คาดว่าจะมีการพูดคุยกันภายในครอบครัวของทักษิณเอง ซึ่งตนจะไม่ได้รับทราบข้อมูลในส่วนนี้ หรือทางครอบครัวอาจจะเป็นผู้ดำเนินการประสานกับทางเรือนจำ/ทัณฑสถานได้เลย เพราะว่าหน้าที่หลักของตนคือการรับผิดชอบในส่วนของคดีความที่เหลือตามที่ได้รับมอบหมาย จึงไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้
ส่วนเรื่อง 10 รายชื่อใหม่ที่คุณทักษิณจะต้องมีการระบุว่า อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมบ้างนั้น ขณะนี้ยังไม่ครบกรอบกำหนดเวลา 30 วัน เพราะใกล้ๆ วัน ทางเรือนจำฯ จะมีการสำรวจแจ้งมา คาดว่าจะมีการดำเนินการเรื่อง 10 รายชื่อชุดใหม่ประมาณวันที่ 29 ก.ย.นี้ ส่วนถ้าคุณทักษิณจะมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขรายชื่อทั้งหมด หรือปรับเปลี่ยนรายชื่อเพียงบางส่วนนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทักษิณเอง
ส่วนการเยี่ยมผ่านรูปแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ของญาติท่านอื่นๆ ยังไม่ได้รับแจ้งเช่นกัน อีกทั้งตลอดการเข้าพบพูดคุยกับคุณทักษิณ ยังคงมีอาการอ่อนเพลียบ้าง แต่ยังพูดคุยตอบโต้ได้ ไม่ถึงขนาดมีอาการเหนื่อยหอบ
ส่วนเรื่องอาการของโรคหัวใจหรือโรคอื่นๆ รวมถึงการรักษาพยาบาลยังคงอยู่ในการประเมินวินิจฉัยของทีมแพทย์ รพ.ตำรวจ และทางเรือนจำฯ แบบวันต่อวัน ณ เวลานี้จึงยังไม่มีแนวโน้มว่าอาการเจ็บป่วยของคุณทักษิณทุเลาดีขึ้นหรืออย่างไร ถึงจะได้รับการพิจารณาจากแพทย์เพื่อส่งกลับไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตนไม่สามารถยืนยันในส่วนนี้ได้
เมื่อถามถึงเรื่องความเป็นไปได้ของ ทักษิณ กรณีอาจได้รับการพิจารณาพักการลงโทษ เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังสูงวัยและมีอาการเจ็บป่วยนั้น วิญญัติ ระบุว่า ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา พบว่ามีความคิดเห็นหลากหลายของบุคคลในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพูดถึงประเด็นนี้
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ก็จะต้องมีการพิจารณาว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และเข้าเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 หรือกฎกระทรวงของราชทัณฑ์หรือไม่ และหากเข้าเกณฑ์ ก็ต้องดูอีกว่ามีแนวทางปฏิบัติอย่างไร เพื่อไม่ให้ผิดหรือขัดต่อระเบียบที่มีการกำหนดไว้ ถ้าทางกรมราชทัณฑ์พิจารณาจากหลักเกณฑ์แล้วเห็นว่าทักษิณเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ก็จะมีการแจ้งสิทธิให้ผู้ต้องขังรับทราบ ส่วนการจะใช้สิทธิดังกล่าวนี้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับทักษิณเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดในเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติใดๆ เป็นเพียงการคาดการณ์และความคิดเห็นของคนในสังคมเท่านั้น อีกทั้งทางเรือนจำฯ ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งเรื่องการพักการลงโทษมายังตนหรือคุณทักษิณ แต่เราทราบว่ามีเกณฑ์นี้อยู่ ท้ายสุดเรื่องนี้ก็เป็นอำนาจของทางกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ที่จะดำเนินการ
วิญญัติ ระบุอีกว่า ยอมรับว่ากรณีของคุณทักษิณมีหลายช่องทางที่เป็นไปได้ ทั้งเรื่องอาจเข้าเกณฑ์ได้รับการพักการลงโทษ หรือเรื่องคุมประพฤติโดยการติดกำไล EM แต่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ใดก็ขึ้นอยู่กับกรมราชทัณฑ์ที่จะพิจารณาความเป็นไปได้ เพราะหน่วยงานก็ดำเนินไปตามระเบียบกฎหมายกำหนดไว้ แต่เราในฐานะทนายความก็ต้องไปศึกษาทั้งหมด ทั้งกฎระเบียบเก่า กฎกระทรวงที่ได้รับการแก้ไขเพิ่มเติม หรือกฎกระทรวงเดิม
นอกจากนี้ ในเรื่องการติดหรือไม่ติดกำไล EM มันมีโอกาสได้ทั้งหมด เนื่องจากจะมีหลักเกณฑ์ รวมถึงข้อยกเว้นอยู่ อยู่ที่ว่าจะเข้าหลักเกณฑ์หรือข้อยกเว้นหรือไม่ หากมีข้อยกเว้นให้สามารถดำเนินการได้ ตนในฐานะทนายความก็ต้องดำเนินการเพื่อลูกความ ถือเป็นสิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขัง
เมื่อถามว่า ในส่วนของบ้านพักผู้มีอุปการะคุณ หากทักษิณเข้าเกณฑ์ได้รับการพักการลงโทษ จะเป็นสถานที่ใด สามารถเป็นบ้านพัก ที่อยู่ปัจจุบันหรือไม่ วิญญัติ ระบุว่า หากคุณทักษิณได้รับการพักการลงโทษจริง ตนไม่สามารถให้ข้อมูลในส่วนนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องที่คุณทักษิณจะต้องมีการพูดคุยกับทางครอบครัว และร่วมกันพิจารณาตัดสินใจถึงความเหมาะสม แต่อยากให้รออีกสักระยะหนึ่งคงจะได้ทราบความชัดเจนกัน
ต่อข้อถามว่า นายทักษิณหรือครอบครัวจะมีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษสำหรับวาระโอกาสสำคัญหลังจากนี้หรือไม่ เช่น วันที่ 13 ต.ค. หรือ 5 ธ.ค. หรือว่าการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษรายบุคคลครั้งที่ผ่านมา และมีการอภัยลดโทษ ถือเป็นพระราชอำนาจเด็ดขาดแล้ว วิญญัติ กล่าวว่า ต้องเรียนว่าการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษที่ผ่านมา และทักษิณได้รับการอภัยลดโทษ ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดแล้วในครั้งนั้น ซึ่งตนมองว่าเป็นรายครั้งมากกว่า
ส่วนในครั้งถัดไป หากมีวาระโอกาสสำคัญหรือวันสำคัญ ทักษิณก็มีสิทธิได้รับประโยชน์หรือมีผลเป็นคุณต่อตัวเองได้ในฐานะที่เป็นผู้ต้องขังทั่วไป แต่ก็ต้องดูว่าขณะนี้คุณทักษิณจัดว่าเป็นผู้ต้องขังชั้นใดหรืออยู่ในหลักเกณฑ์ใด อีกทั้งยังต้องไปดูในส่วนของพระราชกฤษฎีกา ที่ถ้าหากมีการประกาศออกมานั้น จะมีการระบุหมายเหตุ ข้อยกเว้นหรือสาระเนื้อหาแนบท้ายส่วนได้หรือไม่
“การพระราชทานอภัยโทษในครั้งถัดไปนั้น ต้องมองว่าเป็นการไม่เลือกปฏิบัติของทางราชทัณฑ์ หากผู้ต้องขังรายใดที่เข้าเกณฑ์ ทางราชทัณฑ์ก็จะมีการแจ้งหรือดำเนินการไว้อยู่แล้ว เพราะว่าทางเรือนจำ/ทัณฑสถาน จะต้องมีการสำรวจจำนวนผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์หรือว่ามีผู้ต้องขังรายใดเหลือวันต้องโทษจำคุกกี่วัน เพื่อดูว่าใครจะได้รับประโยชน์ตรงนี้บ้าง ไม่ใช่แค่ในกรณีของคุณทักษิณอย่างเดียว ทั้งนี้ ณ เวลานี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องใดๆ ทุกอย่างเป็นไปตามวาระการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น” วิญญัติ กล่าว
นอกจากนี้ วิญญัติ ระบุด้วยว่า สำหรับการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษครั้งถัดไป คาดว่าจะมีการพูดคุยกันภายในครอบครัวของทักษิณเอง ซึ่งตนจะไม่ได้รับทราบข้อมูลในส่วนนี้ หรือทางครอบครัวอาจจะเป็นผู้ดำเนินการประสานกับทางเรือนจำ/ทัณฑสถานได้เลย เพราะว่าหน้าที่หลักของตนคือการรับผิดชอบในส่วนของคดีความที่เหลือตามที่ได้รับมอบหมาย จึงไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้
ส่วนเรื่อง 10 รายชื่อใหม่ที่คุณทักษิณจะต้องมีการระบุว่า อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมบ้างนั้น ขณะนี้ยังไม่ครบกรอบกำหนดเวลา 30 วัน เพราะใกล้ๆ วัน ทางเรือนจำฯ จะมีการสำรวจแจ้งมา คาดว่าจะมีการดำเนินการเรื่อง 10 รายชื่อชุดใหม่ประมาณวันที่ 29 ก.ย.นี้ ส่วนถ้าคุณทักษิณจะมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขรายชื่อทั้งหมด หรือปรับเปลี่ยนรายชื่อเพียงบางส่วนนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทักษิณเอง