การเมืองใหม่ ‘ฉบับก้าวไกล’ กล้าพูดทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่อง ‘ทักษิณ’

28 กุมภาพันธ์ 2567 - 10:25

Thaksin-Thanatorn-Super-Deak-Hongkong-SPACEBAR-Hero.jpg
  • อย่าล้อเล่นกับ ‘ดีลลับฮ่องกง’ เริ่มแผลงฤทธิ์ คำสารภาพ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ยังคงสถานะ ‘เพื่อไทย’ เป็นมิตร แม้ ‘ก้าวไกล’ จะต้องเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ แลกกับ ‘เพื่อไทย’ ไปตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว

  • การเมืองยุค 3 ก๊ก ถ่วงดุลกันเอง ‘เพื่อไทย – ก้าวไกล - ขั้วอนุรักษนิยม’ เริ่มชัดเจน ท่าที ‘ก้าวไกล’ ที่ได้ชื่อว่าทำ ‘การเมืองใหม่’ เริ่มมีชั้นเชิง จากบทบู้วิพากษ์ ‘โครงสร้างการเมือง - สังคมจารีต’ เริ่มลดระดับ

  • สัญญาณทอดไมตรี ‘ธนาธร-ทักษิณ’ หลังขั้ว ‘ก้าวไกล’ ขึ้นสังเวียนแบบ ‘ยั้งมือ’ ทำหน้าที่เพียง ‘เสือกระดาษ’ เข้าช่วงรายการ ‘ถามมา-ตอบไป’ กับกรณี ‘ทักษิณ’ ได้รับสิทธิ ‘นอนโรงพยาบาล-พักโทษ’

ความเคลื่อนไหวของ ‘ก้าวไกล’ ถูกจับตานับตั้งแต่ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ บินไปพบ  ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ที่ฮ่องกง ช่วงปลาย ก.ค.67 ที่เป็นห้วง ‘วันเกิดทักษิณ’ ก่อนที่ ‘ทักษิณ’ จะกลับไทย 22 ส.ค.66 ในช่วงที่ ‘เพื่อไทย’ กำลังชิงธงนำจัดตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ ผ่านมาถึง พ.ย.66 ‘ธนาธร’ ออกมาสารภาพไปพบ ‘ทักษิณ’ จริง พร้อมคีย์เวิร์ดคำสำคัญมอง ‘เพื่อไทย’ เป็น “มิตร” 

จุดนี้อาจทำให้ ‘ขั้วอนุรักษนิยม’ เกิดความหวาดระแวง ‘ทักษิณ’ ขึ้นมาด้วย ในแง่หนึ่ง ‘ขั้วอนุรักษนิยม’ ก็ทำให้เกิดการเมืองแบบ 3 ก๊กขึ้นมา ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล-ขั้วอนุรักษนิยม’ เพื่อให้มีการ ‘ถ่วงดุลกันเอง’ โดยเฉพาะ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ไม่ให้ใครโตไปกว่าใคร โดยเฉพาะการที่ ‘ขั้วอนุรักษนิยม’ ที่เลือกใช้งาน ‘เพื่อไทย’ ในการเป็น ‘กันชนการเมือง’ กับขั้วก้าวไกล ทำให้ ‘เพื่อไทย’ ถูกตีตราเป็น ‘Neo-Conservative’  

ก้าวย่างของ ‘ทักษิณ’ ก็ยังขยับตัวเองได้ไม่มาก เพราะยังมีสถานะเป็น ‘นักโทษคุมประพฤติ’ ยังมีคดี ม.112 ที่ล็อกคออยู่ ซึ่ง ‘อัยการสูงสุด’ นัดฟังคำสั่ง 10 เม.ย.67 รวมทั้ง ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ ที่ยังไม่ได้กลับไทย  

แต่ก็มี ‘สัญญาณ’ ไปในทางบวก เพราะคดีของ ‘ยิ่งลักษณ์’ เหลืออยู่ 2 คดีเท่านั้น ได้แก่ คดีจำนำข้าวที่ศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุก 5 ปีไปแล้ว และ คดีโรดโชว์ ที่ศาลฎีกาฯ จะพิจารณาคดี 4 มี.ค.นี้ หลังศาลสั่งออกหมายจับไปแล้ว ส่วนคดีในชั้น ป.ป.ช. ไม่มีคดีตกค้าง เพราะได้ ‘ตีตก-ยกคำร้อง’ ไปหมดแล้ว 

ในสถานการณ์ที่ ‘ทักษิณ’ เดินเรื่อง ‘พักโทษ’ ท่าทีของ ‘ขั้วก้าวไกล’ ไม่หนักแน่น หากเทียบจาก ‘มาตรฐาน-น้ำหนักมือ’ กับกรณีอื่นๆ ที่เคยเคลื่อนไหว จนเมื่อ 18 ก.พ.67 ที่ ‘ทักษิณ’ ได้รับสิทธิพักโทษ เดินทางกลับ ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ ความเคลื่อนไหวของ ‘พรรคก้าวไกล’ ก็มีเพียงการออก ‘แถลงการณ์’ 180 วันที่ ‘ทักษิณ’ พักอยู่ที่ รพ.ตำรวจ จนถึงวันพักโทษ ที่ในแถลงการณ์ เป็นคำพูดโดยหลักการเท่านั้น เช่น ระบบสองมาตรฐาน, อภิสิทธิ์เหนือคนอื่น, ความเท่าเทียมต่อการอำนวยความยุติธรรม เป็นต้น  

แถลงการณ์ดังกล่าวจึงถูกมองเป็น ‘เสือกระดาษ’ เท่านั้น 

แม้ว่า ‘ณัฐชา บุญไชยอินทสวัสดิ์’ สส.ก้าวไกล จะตั้ง ‘กระทู้ถามสด’ ด้วยวาจากลางสภาฯ ที่ถามกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เรื่องหลักเกณฑ์พักโทษของ ‘ทักษิณ’ ที่สุดท้ายก็เป็นเพียงช่วง ‘ถามมา-ตอบไป’ เท่านั้น 

สุดท้ายมาถึง ‘ชัยธวัช ตุลาธน’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถูกสื่อซักท่าที ‘ก้าวไกล’ ในการตรวจสอบ ‘ทักษิณ’ หากเทียบกับเรื่องอื่นๆ 

โดย ‘ชัยธวัช’ ชี้แจงว่า “เดี๋ยวรอดู ผมบอกแล้วว่าเรื่องนี้ยังไงก็ต้องทำ ในฐานะที่เป็นฝ่ายตรวจสอบ พร้อมกับการผลักดันการนิรโทษกรรมคดีการเมือง เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง” 

ส่วนประเด็นนี้เพียงพอจะนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น ‘ชัยธวัช’ กล่าวว่า “ก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง” 

ล่าสุด ‘ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล’ สส.ก้าวไกล ในฐานะ ‘ประธานวิปฝ่ายค้าน’ ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายรัฐบาล ว่า “ต้องบอกตามตรงว่าซักฟอกที่เป็น อภิปรายไม่ไว้วางใจ โอกาสมีน้อยมากจริงๆ เพราะว่าต้องยอมรับว่ารัฐบาลก็เพิ่งมา ยังไม่ได้ใช้งบประมาณ ที่ตนเองเป็นคนจะทำเลย แม้แต่บาทเดียว ก็ต้องพูดตามตรงว่ามีงบประมาณจริงๆ ก็หลังจากเดือน พ.ค.นี้ ถึงจะใช้งบประมาณที่รัฐบาลจัดทำขึ้นมาเป็นครั้งแรก” 

ส่วนการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ‘ปกรณ์วุฒิ’ ชี้แจงว่า เราก็ยังพูดคุยกันอยู่ว่าถ้ายังไม่มีเรื่องงบประมาณด้วย ช่วงเวลาที่รัฐบาลทำงานอาจจะยังไม่ได้เยอะมากพอหรือยังไม่มีประเด็นที่ใหญ่มากที่จะเปิดอภิปราย แต่หากมีประเด็น เราก็พร้อม สมมติเปิดวันเดียว เปิด 2 วันก็เปิดได้ 

‘ปกรณ์วุฒิ’ ชี้แจงอีกว่า ข้อมูลที่จะเปิดอภิปรายพอมีอยู่บ้าง แต่ต้องพูดคุยกับพรรคร่วมอื่นๆ ด้วยว่า เป็นประเด็นที่ใกล้เคียงกัน และเหมาะสมที่จะเปิดอภิปรายหรือไม่ มองว่าบางประเด็นก็สามารถใช้วิธี ‘กระทู้สดถาม’ ในสภาฯ ได้ 

จึงทำให้เกิดคำถามว่าจำเป็นต้องเป็นเรื่อง ‘งบประมาณ’ หรือไม่ ? เพราะยังมีประเด็นอื่นๆ ในการอภิปรายฯ เช่นกัน ซึ่ง ‘ปกรณ์วุฒิ’ ได้ชี้แจงว่า ตนเองคิดว่างบประมาณเป็นเรื่องใหญ่ เราไม่อยากเป็นฝ่ายค้านหยิบยกประเด็นที่ไม่ได้สำคัญกับความเป็นอยู่ประชาชนมาพูดให้เป็นเรื่องใหญ่เกินไป และคิดว่าเรื่องงบประมาณ การทุจริตเป็นหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากที่เราจะต้องตรวจสอบ ถ้าเป็น ‘ประเด็นการเมือง’ แล้วเราใช้ ‘โควตา’ โดยที่อาจจะต้องเว้นว่างไปอีก ก็ต้องคำนึงให้ดี 

หากพิจารณาจะพบว่า คำพูดของ ‘ปกรณ์วุฒิ’ ย้อนแย้งกับ ‘แถลงการณ์ก้าวไกล’ ในเรื่อง ‘ทักษิณ’ ได้รับ ‘พักโทษ’ ที่ในแถลงย้ำถึงปัญหาและคำถามของสังคมเรื่อง ‘กระบวนการยุติธรรม’ ต่างๆ ที่พรรคก้าวไกลมองว่าเป็นเรื่องสำคัญ จึงยิ่งตอกย้ำว่าแถลงการณ์ของพรรคก้าวไกล เป็นเพียง ‘เสือกระดาษ’ เท่านั้น  

ท่าทีการทำหน้าที่ ‘ฝ่ายค้าน’ ของ ‘ก้าวไกล’ เรียกว่า ‘ยั้งมือ’ ไม่สมราคา ‘ก้าวไกล’ ที่เคยบู้หนักในยุค ‘รบ.ประยุทธ์’ ที่อภิปรายสะท้าน ‘โครงสร้างการเมือง-วัฒนธรรมจารีต’ 

ดังนั้นคีย์เวิร์ด ‘เพื่อไทยเป็นมิตร’ ที่ ‘ธนาธร’ เคยสารภาพ จึงเป็นสิ่งที่ตอกย้ำ ‘การกระทำ’ ของ ‘ขั้วก้าวไกล’ ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ถูกมองยาวถึงฉากทัศน์การเมืองในอนาคต ‘ขั้วเพื่อไทย-ก้าวไกล’ ที่เป็น ‘หน่อเนื้อเชื้อไข’ เดียวกัน มาตั้งแต่ต้น ในการ ‘ต่อรอง-วัดพลัง’ กับขั้ว ‘อนุรักษนิยม’  

อย่าล้อเล่นกับ ‘ดีลลับฮ่องกง’ !!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์