ขอกำลังดูแล ‘อธิบดีกรมการข้าว’ ผวา ‘ชายนิรนาม-โดรนปริศนา’ ป้วนเปี้ยนหน้าบ้าน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เปิดเผยว่า อธิบดีกรมการข้าว กังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากมีชายนิรนามป้วนเปี้ยนหน้าบ้านและมีโดรนปริศนาตกในบ้าน ว่า อธิบดีกรมการข้าวได้รายงานเรื่องนี้ให้ทราบแล้ว พร้อมปรึกษาว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากบุคคลดังกล่าวมาป้วนเปี้ยนหลายครั้ง และมีการใช้โดรนบินรอบบ้านตลอดเวลา ทำให้รู้สึกเป็นห่วงทั้งอธิบดีฯ และครอบครัว จึงได้นัดให้อธิบดีมาพบ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม

จะได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูแลในเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่า จะส่งผลกระทบในทางคดี

เมื่อถามว่า พฤติกรรมของบุคคลปริศนาถือเป็นการข่มขู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปตั้งสมมติฐาน ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากเป็นเรื่องจริง ก็คงมีมาตรการออกมาแก้ไข ซึ่งคดีนี้หลักฐานไปไกลแล้ว คดีจะปิดแล้ว อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดของชายปริศนาที่มาเฝ้าหน้าบ้านของอธิบดีฯ ว่าจะเกี่ยวข้องกับคู่กรณีในคดีหรือไม่ เนื่องจากเป็นเพียงการรับฟังรายงานทางโทรศัพท์เท่านั้น

อยากให้แยกเรื่องคดีความ ที่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กับการทุจริตในกระทรวงเกษตรฯ ที่เป็นหน้าที่ของผมที่จะกำกับดูแลตรวจสอบ ซึ่งจะไม่ละเว้น หากพบข้อเท็จจริงว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริต

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในแต่ละเรื่อง เหตุใดจึงไม่ใช้บุคคลภายนอก ร.อ.ธรรมนัส อ้างว่า หัวหน้าส่วนราชการทั้งหมด อยู่ภายใต้การดูแลของปลัดกระทรวง ตนเองในฐานะรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้ปลัดฯ เป็นผู้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน จึงไม่สามารถนำบุคคลภายนอกมาเป็นคณะกรรมการได้

ด้านไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เผยถึงการส่งรายงานการตรวจสอบกรณีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรนั้น ร.อ.ธรรมนัส ยอมรับว่า ได้รับรายงานแล้ว และได้เซ็นอนุมัติให้ปลัดฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตั้งแต่ปีที่แล้ว

ขอยืนยันว่า ทุกเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ ได้ทำไปหมดแล้ว แต่เมื่อเป็นประเด็นในสังคม กระทรวงเกษตรฯ ก็ต้องเน้นให้ละเอียดมากขึ้น ไม่ให้เสียภาพลักษณ์ของกระทรวงเกษตรฯ เชื่อว่าน่าจะใกล้เสร็จแล้ว

ลั่น ‘พลังประชารัฐ’ ไม่มีนโยบายให้ใครซื้อเสียง หลังผู้สมัคร สส.นครสวรรค์ เจอ ‘ใบดำ-ใบแดงซื้อเสียง’ เตรียมหารือกรรมการบริหารพรรคถึงมาตรการแก้ไขปัญหา

พร้อมกันนี้ ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงประเด็นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบดำใบแดงกับผู้สมัคร สส.พรรคพลังประชารัฐ จังหวัดนครสวรรค์ กรณีพบการซื้อเสียงเลือกตั้ง ว่า เพิ่งได้รับข้อมูลจากสื่อมวลชน ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่สามารถจะเอ่ยได้ แต่ไม่ใช่นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ เป็นความผิดส่วนบุคคล

เมื่อเป็นความผิดส่วนบุคคล อดีตผู้สมัครก็ต้องไปแก้ต่างด้วยตัวเอง นโยบายพรรคพลังประชารัฐเราไม่มีนโยบายที่จะไปให้สนับสนุนผู้สมัครในการกระทำละเมิดกฎหมาย กกต.อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบควบคู่ไปกับ กกต.หรือไม่ เนื่องจากอดีตผู้สมัครดังกล่าวยังเป็นสมาชิกของพรรคอยู่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้จะนำไปหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรค ว่าจะมีมาตรการและการแก้ไขปัญหาอย่างไร

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า จะปรับภาพลักษณ์ของพรรคใหม่เป็น ‘อนุรักษ์นิยมที่ทันสมัย’ ได้มีดำริอย่างไรบ้างหรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การประชุมพรรคเมื่อวันอังคาร (6 ก.พ.) ที่ผ่านมา ตนติดภารกิจประชุม ครม.และการประชุมกับกลุ่มพีมูฟ จึงไม่ได้เข้าร่วมด้วย แต่ทราบจากสื่อฯ ว่าจะมียุทธศาสตร์ใหม่ ทำพรรคให้เป็นอนุรักษ์นิยมที่ทันสมัย ซึ่งเรื่องนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคจะมีการประชุม กันอีกครั้ง ซึ่งเป็นแนวทางที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ได้นำเสนอ

เมื่อถามต่อไปว่า ดำริของ พล.อ.ประวิตร ที่ต้องการปรับภาพลักษณ์ของพรรค เตรียมพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า หรือต้องการให้ประชาชนจดจำพรรคพลังประชารัฐได้ ร.อ.ธรรมนัส อธิบายว่า เป็นเรื่องปกติของพรรคการเมืองที่จะต้องรักษาสถานะ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ ก็ถือว่าเป็นพรรคที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากพอสมควร 40 ท่าน และ 39 ท่านก็เป็นผู้แทนแบบเขต

ผมกล้าการันตีว่า แต่ละท่านมีคุณภาพ มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน การตั้งกระทู้ถามในสภาฯ เป็นเรื่องสำคัญสำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ว่ายุทธศาสตร์ของพรรคในภาพรวม เราก็ต้องทำด้วย พร้อมๆ กันก็เป็นเรื่องปกติ ทุกพรรคก็ทำเหมือนกันหมด

จี้ทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาลักลอบสินค้าประมงเข้าไทย เผยเตรียมขยับค่าธรรมเนียมนำเข้าสินค้าประมงใหม่

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงปัญหาการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำเถื่อน ว่า สินค้าประมงมีการสำแดงเอกสารเท็จ มากกว่าร้อยละ 99 การลักลอบสินค้าประมง เป็นการทำมาหากินบนความเดือดร้อนของประชาชน เป็นเหตุให้ราคาประมงตกต่ำ ตนได้สร้างมาตรการควบคุมและตรวจสอบสินค้าประมง จะมีข้อสรุปวันจันทร์ ในการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการประมง ต้องมีค่าธรรมเนียมการนำเข้าที่วางมาตรฐานใหม่ เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบสินค้าตามหลักสากล

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องประสานกับฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญสินค้าเถื่อนทุกประเภท ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องทำงานร่วมกัน