The-Democratic-Party-celebrates-its-79th-anniversary-SPACEBAR-Hero.jpg
The-Democratic-Party-celebrates-its-79th-anniversary-SPACEBAR-Photo01.jpg
The-Democratic-Party-celebrates-its-79th-anniversary-SPACEBAR-Photo02.jpg
The-Democratic-Party-celebrates-its-79th-anniversary-SPACEBAR-Photo03.jpg

Photo Story : ‘ประชาธิปัตย์’ จัดทำบุญใหญ่ครบรอบ 79 ปี

6 เม.ย. 2568 - 04:58

  • ‘ปชป.’ ฉลองครบ 79 ปี ! ก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8 จัดพิธี 3 ศาสนา

The-Democratic-Party-celebrates-its-79th-anniversary-SPACEBAR-Hero.jpg
The-Democratic-Party-celebrates-its-79th-anniversary-SPACEBAR-Photo01.jpg
The-Democratic-Party-celebrates-its-79th-anniversary-SPACEBAR-Photo02.jpg
The-Democratic-Party-celebrates-its-79th-anniversary-SPACEBAR-Photo03.jpg

‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ‘เดชอิศม์ ขาวทอง’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการพรรค ร่วมเป็นประธานจัดงานฉลองครบรอบ 79 ปี ภายใต้แนวคิด ‘ก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8’

ภายในงานมีการจัดพิธี 3 ศาสนา เริ่มจากพิธีอิสลาม  ต่อมาพิธีพราหมณ์ เพื่อบวงสรวงพระแม่ธรณีบีบมวยผม องค์สัญลักษณ์สำคัญของพรรค และพิธีทางศาสนาพุทธมีการนิมนต์ ‘สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช)’ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์จากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร รวม 9 รูป ร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ภัตตราหารเพล เพื่อความเป็นสิริมงคล และอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก  

อย่างไรก็ตาม ในช่วงพิธีทางศาลนาอิสลามเฉลิมชัยได้กล่าวตอนหนึ่งว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 ได้มีการรวมตัวกลุ่มบุคคลจัดตั้งพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเพื่อเป็นตัวแทน เป็นปากเสียงของพี่น้องประชาชน ด้วยหลักการและอุดมการณ์ของพรรคตั้งแต่วันนั้นในเรื่องประชาธิปไตย ในเรื่องการต่อต้านเผด็จการ จนถึงปัจจุบันพรรคของเรายังมีอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง หากจะมองย้อนไป 40 ปีที่แล้ว ในวันนั้นเราเองก็คงคาดคิดไม่ถึงว่า วันนี้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าเทคโนโลยีสิ่งต่างๆ จะรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงคาดการณ์ไม่ได้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า อะไรจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ประชาธิปัตย์มี ไม่ว่าจะกาลเวลาเปลี่ยนไปอย่างไร ก็คือหลักการและอุดมการณ์

“นี่คือสิ่งที่ผมถือว่าเป็นหัวใจของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคนเรารักกันก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคนเราไม่รักกันการจะทำลาย ทำร้ายกัน ก็จะทำที่หัวใจ เพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์วันนี้เมื่อถูกกล่าวหาว่าไม่มีหลักการไม่มีอุดมการณ์ ผมขอเรียนว่า ผมเข้ามาเป็น สส. ตั้งแต่ปี 44 ยังไม่เคยคิดย้ายพรรค แต่ผมอาจจะไม่ได้ประกาศว่าจะอยู่ประชาธิปัตย์จนตาย เพราะเห็นหลายคนประกาศอย่างนั้นแต่ก็ไปแล้ว แต่ผมไม่ทำเพราะผมรู้ว่าใจผมคืออะไร ผมรู้ตัวเองว่าชีวิตผมมีได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้นหลักการที่เป็นหัวใจของประชาธิปัตย์ต้องมีอยู่ ผมรู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระผู้เป็นเจ้ากำหนดเพื่อทำภารกิจอะไร นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจ”

เฉลิมชัย กล่าว 

เฉลิมชัย กล่าวว่า เมื่ออาสามาเป็นหัวหน้าพรรค สิ่งที่จะต้องทำคือ ก็ต้องพาประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าให้ได้ และมีความตั้งใจให้เป็นพรรคการเมืองที่ต้องรวมทุกกลุ่มชนทุกหมู่เหล่าทุกศาสนาเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน และเพื่อความสันติสุข อันเป็นสิ่งที่เป็นเป้าหมายสูงสุดซึ่งเป็นภาระที่หนักหน่วง แต่วันนี้จะเป็นอีกวันที่เป็นการเริ่มต้นของความเป็นสิริมงคล โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ทำกิจกรรมให้เป็นประโยชน์กับสังคมและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนในส่วนของศาสนาต่อไป

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์