ปีชงพรรคสีน้ำเงิน! วิบากกรรม ‘ภูมิใจไทย’

14 ม.ค. 2567 - 03:14

  • ปีชงภูมิใจไทย @ตัดสิทธิ์การเมือง 3 อดีต สส.ภท.ตลอดชีวิต-คดีเสียบบัตรแทน

  • กกต.แจกใบแดง สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 พรรค ภท.-แจกเงินซื้อเสียง

  • ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินถือหุ้นนอมินี ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ 17 ม.ค.นี้

The-karma-of-the-Bhumjaithai-Party-SPACEBAR-Hero.jpg

เรื่องปีชง ที่ตกเป็นประเด็นวิวาทะทางปัญญาบนหน้าสื่อ ในโลกโซเชียลช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นความเชื่อ เป็นทรรศนะส่วนบุคคล ก็ว่ากันไปตามมุมมองของแต่ละคน

แต่สำหรับพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคสีน้ำเงินของ ‘เสี่ยหนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล ที่เริ่มเปิดศักราชใหม่มา ก็เจอเข้าไปเต็มๆ หลายเรื่อง ถึงขั้นเจ้าตัวต้องออกปากบอกแบบปลงๆ ว่า

“กัมมุนา วัตตตี โลโก: สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม สุดท้ายทำอะไรไว้ก็จบที่ศาล”

เรื่องของเรื่องเพราะมีอดีต สส.ภูมิใจไทย 3 คน ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินความผิดคดีเสียบบัตรแทน โดยทั้งหมดถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต

สองคนแรกเป็นอดีต สส.พัทลุงทั้งคู่ คือ นายฉลอง เทิดวีระพงศ์ และนายภูมิสิษฏ์ คงมี ส่วนอีกคนเป็น สส.บัญชีรายชื่อ นางนาที รัชกิจประการ หรือ ‘เจ๊เปี๊ยะ’ 

กล่าวสำหรับ ‘เจ๊เปี๊ยะ’ ถือเป็นแม่ทัพหญิงพรรคสีน้ำเงินในภาคใต้ เป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ล้มเสาไฟฟ้า โค่นแชมป์เก่าประชาธิปัตย์ ปักธงพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ด้ามขวาน นำ สส.เข้าสภามาได้ถึง 8 ที่นั่ง ในปี 2562 และเพิ่มเป็น 12 ที่นั่ง ในปี 2566

แต่เมื่อมีชนักปักหลัง นางนาทีจึงต้องให้ผู้เป็นสามีคือ ‘พิพัฒน์ รัชกิจประการ’ ออกหน้ารับตำแหน่งเสนาบดีแทน

ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็แทรกตามมาอีก เมื่อนางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 พรรคภูมิใจไทย ถูก **กกต.**แจกใบแดงแรก ในการประชุมเมื่อวันอังคารที่ 26 ธ.ค.66 แต่เพิ่งมาเป็นข่าวในสัปดาห์นี้

โดย กกต.จังหวัดนครศรีธรรมราช มีหนังสือถึงนายสุเทพ บุณยเกียรติ ผู้ร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง เขต 8 นครศรีธรรมราช ไปเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา

และอยู่ระหว่าง กกต.ใหญ่ จัดทำคำร้องส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งในเขต 8 นครศรีธรรมราช แทนนางมุกดาวรรณต่อไป

ทั้งนี้ กรณีของนางมุกดาวรรณ ทันทีที่ กกต.ส่งคำร้องไปยังศาลฎีกา ในวันที่ศาลรับคำร้องไว้พิจารณา จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็น สส.ลง จนกว่าศาลจะมีคำตัดสิน ซึ่งจะทำให้มือในสภาของพรรคภูมิใจไทย จาก 71 เสียง ลดเหลือ 70 เสียง ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

ซึ่งดูจากข้อกล่าวหาและพยานหลักฐานที่ถูก กกต.มีมติเสียงข้างมากให้ใบแดง ในข้อหา “แจกเงิน” ซื้อเสียงจูงใจให้ไปลงคะแนนหัวละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 25,000 บาท กับแจกเงินให้ไปรับฟังการปราศรัยแล้ว

นับว่าเหนื่อยอยู่เอาการถ้าจะต้องดิ้นให้หลุด!!

สุดท้ายในวันพุธที่ 17 ม.ค.นี้ ถึงคิวเบอร์ใหญ่อีกคนของพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กรณีการถือหุ้นนอมินีใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น จำกัด ที่ถูกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไว้ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม ให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว

หลังพิจารณาคดีนานข้ามปี จนรัฐบาลชุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงและมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศแทนแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดฟังคำตัดสินในวันที่ 17 ม.ค.นี้

หากผลออกมาเป็นบวก นายศักดิ์สยาม ก็พ้นบ่วง สามารถกลับเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองได้ แต่หากผลออกมาในทางลบ ก็ต้องติดโทษแบนห้ามเป็นรัฐมนตรีไปอีกสองปี

ชาวพรรคสีน้ำเงิน คงต้องลุ้นกันตัวโก่ง โดยเฉพาะ ‘เสี่ยหนู’ ที่ออกอาการปลงๆ ไปแล้วนั้น หากต้องเจอเข้าอีกดอกใหญ่ รอดูว่าจะปลงได้จริงหรือไม่

ปีชงพรรคภูมิใจไทย จะชงเข้มชงหวานขนาดไหน ให้รอฟังคำตอบในวันพุธนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์