‘ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ’ หัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยถึงวงดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้านเมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นไปได้ด้วยดี เพราะการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะแตกต่างจากพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะต้องมาหารือถึงอุดมการณ์ในการดำเนินนโยบายว่าตรงกันหรือไม่ตรงกันอย่างไร แต่การทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน หากพูดง่ายๆ ก็คือผู้ที่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ หรือผู้ที่ถูกนำออกจากรัฐบาล ก็จะมารวมกันที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้น กลไกในการทำงานจะใช้กลไกของวิป ในการจัดสรรเวลาเป็นหลัก ซึ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบร้อยราบรื่นดี
เมื่อถามถึงการที่พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความแตกต่างกัน ได้มีการพูดคุยเพื่อแสวงหาจุดร่วมกันในการตรวจสอบรัฐบาลอย่างไร ณัฐพงษ์ ระบุว่า ส่วนตัวคิดว่าจุดร่วมของพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือการดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปตามกลไกวิป เช่น การยื่นญัติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะต้องมีการหารือถึงกรอบญัตติ เนื่องจากแต่ละพรรคก็จะมีแต่ละประเด็นที่ต้องการนำเสนอ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการจัดสรรเวลา ซึ่งได้มีการพูดคุยถึงกรอบระยะเวลาไปแล้ว จึงเชื่อว่า จะไม่มีปัญหาอะไร
ณัฐพงษ์ กล่าวว่า ส่วนเนื้อหาที่จะใช้อภิปราย ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่จะต้องดำเนินการเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การหารือกันถึงเรื่องกรอบเนื้อหาก่อนหน้านานๆ บางครั้งก็อาจจะทำให้เหมือนแจกการบ้านล่วงหน้าให้กับฝั่งรัฐบาล ซึ่งก็คิดว่าแต่ละพรรคก็คงมีรู้กระบวนการเหล่านี้ดีอยู่แล้ว และส่วนตัวก็เชื่อมั่นพรรคประชาชนว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจนี้ จะตรวจสอบเข้มข้นแน่นอน
ส่วนโครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน จะเริ่มดำเนินการได้เมื่อไหร่ ณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่สามารถดำเนินการได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว และวงดินเนอร์เมื่อวานนี้ ก็มีการหารือเรื่องนี้เช่นกัน และตัวแทนของแต่ละพรรคก็แสดงท่าทีให้ความสนใจ เพราะเป็นเวทีที่มีการไปรับฟังปัญหาของประชาชน ก็พร้อมจะดำเนินการด้วยกันได้ ไม่น่าจะมีปัญหา
พร้อมกล่าวถึงกรณีล่าสุดที่พรรคประชาชนได้เปิดรายชื่อว่าที่ผู้สมัครนายก ‘อบจ.ปราจีนบุรี’ โดยระบุถึงความกังวลเรื่องอิทธิพลในพื้นที่ว่า พรรคประชาชนส่งผู้สมัคร ‘จำรูญ สวยดี’ พร้อมแข่งในเวทีสนามท้องถิ่น พรรคประชาชนยืนยันในการทำท้องถิ่นอย่างตรงไปตรงมาให้อบจ. รับใช้ประชาชน การทำงานการเมืองแบบเดิมๆไม่ใช่แนวทางของพรรคเราอยู่แล้ว จึงไม่ได้มีความกังวลในส่วนนี้
ส่วนกังวลกับคดีความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดปราจีนบุรีหรือไม่นั้น ณัฐพงษ์ กล่าวยืนยันว่า ผู้สมัครของพรรค และทีมงานของพรรคประชาชน มีกำลังใจดี เราเชื่อในการหาเสียงอย่างตรงไปตรงมา ไม่พาดพิง นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่เรื่องของการมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับกลุ่มอำนาจเดิม หรือกลุ่มการเมืองเดิมๆ ในพื้นที่ เราไม่มีประเด็นเหล่านี้แน่นอน จะไม่มีข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับคดีของอิทธิพลที่เกิดขึ้นในพื้นที่
"ผมไม่ได้มองว่าพื้นที่ปราจีนบุรีจะน่ากลัวกว่าที่อื่น และคงจะดำเนินการหาเสียงตามแนวทางของพรรคประชาชนต่อไป"
ณัฐพงษ์กล่าว
ส่วนแคมเปญแตกต่างของพรรคประชาชนในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งนั้น ณัฐพงษ์ กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่ช่วงเลือกตั้ง พรรคก็จะมีการตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ มีแกนนำของพรรคลงพื้นที่พบปะประชนชนมากขึ้น ตนเองก็มีแคมเปญเท้งทั่วไทยอยู่ ก็จะใช้พื้นที่เหล่านี้ในการหาเสียงกับพี่น้องประชาชน