พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ สว.จะแจ้งข้อหากลับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จากการทำคดีฮั้วเลือก สว. ว่า ส่วนนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีข้าราชการของดีเอสไปเป็นอนุกรรมการด้วย ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนตามปกติของ กกต. ซึ่งระเบียบการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ อาจจะต่างกับวิธีพิจารณาความอาญาของ กกต. เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า มี สว.บางคนจะไม่ไปให้ปากคำกับดีเอสไอ จะมีผลอะไรหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องดูวิธีการสอบสวนของ กกต. ดีเอสไปจะไม่เกี่ยวข้อง เพราะเราเป็นเพียงหน่วยงานที่ กกต.ตั้งให้ไปร่วมสอบสวน ถือว่าเป็นอนุฯ ของ กกต.
เมื่อถามว่า เป็นอนุฯ ของ กกต. แต่ ส.ว.บอกว่ามีฐานะที่ตํ่ากว่าจึงไม่ไปตามหมายเรียก พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เชื่อว่า
สว.มีวุฒิภาวะ คงไม่พูดลักษณะนั้น เพราะว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสิทธิเสรีภาพ รัฐธรรมนูญคุ้มครองอยู่แล้ว ปกติคนที่มีเกียรติ จะต้องให้เกียรติคนอื่นก่อน
ส่วนการพูดของ สว.เป็นการพูดผ่านสื่อ ไม่ได้พูดส่วนตัว พ.ต.อ.กล่าวว่า ไม่ได้ยินกับตัวเอง ต้องขอโทษด้วย เมื่อถามว่า เรื่องนี้เป็นเกมการเมืองหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐมนตรีและกระทรวงยุติธรรม ทำแค่ตามกฏหมาย เราไม่มีมีอำนาจหน้าที่อื่น แม้แต่การกำหนดนโยบาย ยังกำหนดทิศทางของกฎหมายไม่ได้ โดยเฉพาะเรามีกรอบที่กำหนดไว้ เช่นการสอบสวนต้องเป็นเป็นไปตามพยานหลักฐาน และยึดหลักนิติธรรม บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันทุกคน อิทธิพลจะยิ่งใหญ่เหนือกว่ากฎหมายไม่ได้ กฎหมายจะไปละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือละเมิดสิทธิต่างๆ ในกฎหมายไม่ได้
ทั้งนี้ นอกจากการดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ในการสอบสวนต้องยึดหลักวิชาการ ที่เรียกว่าการพิสูจน์หลักฐาน หรือนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะการสอบสวนในปัจจุบัน เราจะแค่ไปยืมหูยืมตาพยานบุคคลไม่ได้ เราสามารถใช้เทคโนโลยีได้ ซึ่งในคดีนี้อาจนำมาใช้มากที่สุด
เมื่อถามว่า มีการวิจารณ์การทำงานของดีเอสไอ โดยเฉพาะการนำหมายไปติดที่บ้าน สว. และมีการนำสื่อมวลชนไปด้วย เหมือนเป็นการประจาน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องถาม กกต. เพราะดีเอสไปทำภายใต้ กกต. เราถูกเรียกให้ไปช่วยเท่านั้น แล้ว กกต.ไปดำเนินการ
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะทำให้รัฐบาลล้มหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า คงไม่หรอก เพราะรัฐมนตรีมีความสัมพันธ์อันดี และรัฐบาลประกาศว่าจะสร้างหลักนิติธรรมให้เกิดขึ้นและเข้มแข็ง จึงคิดว่าสิ่งที่ทำไปไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ยืนยันว่าทำตามกฎหมาย ทุกอย่างอยู่ที่พยานหลักฐาน กรณีอนุกรรมการที่เป็นดีเอสไอได้มีการรายงานผลมาบ้างหรือยัง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เดี๋ยวนี้จะมีกฎหมายกำหนดการทำงานว่าจะต้องไม่ล่าช้า
ส่วนหลังจากนี้จะมีการเรียก สว. มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในส่วน กกต. จะมีกฎหมายของเขา แต่ในส่วนของดีเอสไป ต้องไปถามอธิบดีดีเอสไป เพราะทราบว่า ดีเอสไออาจจะทำคดีอีกข้อหาหนึ่ง เมื่อถามยํ้าว่า หมายความว่า สว.ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาทั้งกับ กกต.และดีเอสไอใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ดีเอสไอทำในลักษณะการสอบสวน เพราะเป็นคดีพิเศษ เราต้องทำให้เสร็จสิ้น ผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่พยานหลักฐาน