‘วันนอร์’ ประณามคนร้ายก่อเหตุไม่สงบใต้ ดักยิง ‘สามเณร’

23 เม.ย. 2568 - 05:59

  • ‘วันนอร์’ ประณามคนร้ายก่อเหตุไม่สงบใต้ ดักยิง ‘สามเณร’ มรณภาพอุกอาจ

  • บี้รัฐบาลเร่งลากคอมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เหน็บถ้าแก้ไขถูกทาง คงไม่เกิดเหตุแบบนี้

  • - ยังทำธุรกรรมได้เหมือนเดิม ! ‘ปธ.สภาฯ’ เฟิร์ม ‘ทุจริตสหกรณ์รัฐสภา14ล้าน’ ไร้กระทบสมาชิก

  • ลั่นโชคดีที่จับได้เร็วเตรียมไล่บี้สาวถึงคนเกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

The-Speaker-of-the-National-Assembly-spoke-about-the- unrest-on-the-southern-border-SPACEBAR-Hero.jpg

‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขอประณามคนร้ายก่อเหตุความไม่สงบใช้อาวุธปืนลอบยิงรถกระบะ ขณะพระสงฆ์ และสามเณร วัดกุหร่า อ.สะบ้าย้อยจ.สงขลา ออกบิณฑบาต ส่งผลให้มีสามเณร มรณภาพ 1 รูป และบาดเจ็บ 1 รูป เพราะผู้ที่กระทำการที่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่นับถือศาสนาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพุทธ อิสลามหรือคริสต์ ก็ล้วนแต่เป็นการกระทบจิตใจต่อผู้ที่นับถือศาสนาทั้งนั้น และเป็นเรื่องที่รัฐบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องจัดการอย่างรวดเร็ว ต้องจับกุมผู้ที่กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้เพราะเรื่องศาสนาเป็นเรื่องที่กระทบต่อจิตใจของประชาชน ทั้งที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร จึงอยากให้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว ประชาชนจะได้คลายความกังวลและความเข้าใจผิดต่างๆ จะได้ลดลง

การแก้ไขปัญหาไฟใต้ ขณะนี้การแก้ไขปัญหาอาจจะยังไม่ถูกจุดซะทีเดียว ต้องพยายามหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ต้องทำอย่างครบวงจรให้ได้ ทั้งการศึกษา เศรษฐกิจ ความเป็นธรรมสังคม ต้องทำไปพร้อมกัน แม้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนใต้ แต่ผลกระทบเกิดกับประเทศไทยทั้งประเทศ ทั้ง 77 จังหวัด ทั้งการท่องเที่ยว การลงทุนก็ล้วนได้รับผลกระทบทั้งหมด จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญแก้ไขให้ลุล่วงสำเร็จ ให้ดีกว่านี้ 

เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ขณะนี้ถือว่ามาถูกทางแล้วหรือไม่ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ถ้าถูกทางสถานการณ์คงไม่เกิดขึ้นแบบนี้ ฉะนั้นคงยังไม่ถูกทางทั้งหมด ต้องหาทางแก้ไข ส่วนตัวเพิ่งได้เจอกับ ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งดูแลด้านความมั่นคง และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทราบว่าในวันที่ 26-27 เม.ย.นี้ จะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อรับฟังปัญหาและประเมินสถานการณ์เพื่อหาแนวทางแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น  

เฟิร์ม ‘ทุจริตสหกรณ์รัฐสภา14ล้าน’ ไร้กระทบสมาชิก 

ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐสภา 14 ล้านบาทว่า ได้พูดคุยกับเลขาธิการสภาฯ และรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยที่ผ่านมาสหกรณ์ ดำเนินการด้วยความเรียบร้อยมาโดยตลอด ซึ่งกรณีการทุจริตที่เกิดขึ้นสภาต้องติดตามโดยการบริหารจัดการทั้งหมดเป็นเรื่องของคณะกรรมการ บริหารสหกรณ์ ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน และทราบแล้วใครกระทำความผิด เพื่อนำตัวมาลงโทษอย่างเด็ดขาดตามกฎหมาย แต่วงเงินที่กระทบประมาณ 14 ล้านบาท  

ประธานสภาฯ กล่าวต่อว่า ขอให้ความมั่นใจกับสมาชิกและผู้เกี่ยวข้องได้ว่า สหกรณ์ไม่มีผลกระทบอะไรมากมาย ยังดำเนินการอย่างเข้มแข็งเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาชิก และ เมื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษต้องไล่เบี้ยไปว่า 14 ล้านบาท ว่าใครต้องรับผิดชอบอย่างไร แต่เงินที่เหลืออยู่ในสหกรณ์ไม่มีผลกระทบอะไรถือเป็นบทเรียนที่ สำคัญ ที่ต้องตรวจสอบดูแลอย่างรัดกุม

“ยืนยันไม่มีปัญหาต่อผู้ฝากเงินกับสหกรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างไร ถือว่าโชคดี ที่รู้ตัวผู้กระทำผิดก่อน แล้วคนที่ทำก็รับสารภาพ ว่าได้ทำจริง แต่ต้องสอบต่อไปว่ามีอีกกี่คน ที่เกี่ยวข้องต้องไล่เบี้ยไป แต่วงเงินที่ถูกทุจริตไป 14 ล้านบาทจากยอดทั้งหมดหลาย 100 ล้านบาท สมาชิกต้องมีขวัญกำลังใจไม่สงสัยต่อกิจการสหกรณ์ ขอให้ฝากและและกู้ ถอนไปตามปกติ“

วันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า สถาบันการเงินก็เป็นเช่นนี้ ตราบใดที่สมาชิกยังมีความมั่นใจ ก็ไม่มีปัญหาแต่ถ้าสมาชิกไม่มั่นใจเมื่อไหร่ ก็จะมีผล ในฐานะที่ตนเป็นประธานสภาฯ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้อง สหกรณ์เพราะส่วนนตัวก็ไม่ได้เงินฝากแต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นในสภาฯ ประธาน รองประธาน เลขาและรองเลขาธิการสภาฯ ต้องดูแลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกสหกรณ์ซึ่งทั้งหมดก็เป็นบุคลากรของสภา บางคนเกษียณไปแล้วแต่ยังมีเงินฝากอยู่

“ดังนั้นขอให้ความมั่นใจว่าคนที่ฝากเงิน รวมถึงทำธุรกรรมทำธุรกรรมกับสหกรณ์ก็ขอให้ทำต่อไป ไม่มีปัญหาเพราะกรรมการจะดูแลเป็นอย่างดี แม้ผลกระทบที่เกิดขึ้น จะเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็น แต่ถ้าไม่ติดติดตามไม่ดูแลให้ดูแลให้ดีก็จะกระทบได้”

ประธานสภาฯ กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์