ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สำหรับโอกาสในการเปิด ‘กาสิโน’ ขึ้นในประเทศไทย โดยล่าสุด มีรายงานผลการศึกษา ของคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ในคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ออกมาเป็นที่เรียบร้อย
โดยทาง นนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ โฆษกคณะอนุ กมธ.พิจารณาศึกษาผลกระทบฯ เผยถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นใน 6 ด้าน คือ
- ด้านการเมือง เช่น ผลกระทบต่อความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปัญหาการฟอกเงิน และปัญหาองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ประโยชน์สาธารณะ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค การส่งเสริมการท่องเที่ยว
- ด้านเศรษฐกิจ เช่น รายได้จากค่าภาษีอากร ค่าใบอนุญาต การจัดตั้งกองทุนเพื่อและการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชน
- ด้านสังคม เช่น แนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่และสังคมชุมชนทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ การป้องกันเด็กเยาวชนเข้าสู่อบายมุข
- ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น แนวทางป้องกันแก้ไขปัญหามลภาวะทางเสียงและระบบนิเวศในพื้นที่ การรับมือปัญหาขยะมูลฝอย การบำบัดมลพิษหรือมลภาวะทางน้ำและทางอากาศ ปัญหาฝุ่นละอองที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อาศัยในบริเวณใกล้กันกับสถานบันเทิงครบวงจร
- ด้านการศึกษา เช่น ผลกระทบต่อเด็กเยาวชนในสถานศึกษา รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อผลิตบุคลากรที่มีทักษะและฝีมือแรงงานเฉพาะด้าน ในธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือในธุรกิจกาสิโน
- ด้านศาสนาและจริยธรรม รวมถึงจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น โดยพิจารณาศึกษาถึงผลกระทบในด้านที่อาจขัดต่อหลักจริยธรรม ศาสนา และจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นนั้นๆ
สำหรับรูปแบบของการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร มีวัตถุประสงค์หลัก คือ
- การส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ การหารายได้เข้ารัฐ
- การส่งเสริมการท่องเที่ยวและการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่น
- แก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมาย
แนะ 3 แนวทาง ‘รัฐลงทุนเอง-ร่วมเอกชน-ให้สัมปทาน’
ซึ่งการลงทุนต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก จึงอาจมีปัญหาด้านงบประมาณที่รัฐจะต้องจัดหามาใช้ในการลงทุนดังกล่าว ดังนั้น แนวทางที่จะช่วยลดปัญหาในการลงทุน จึงอาจมีได้ใน 3 แนวทาง คือ
- รัฐเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด ซึ่งอาจอาจส่งผลกระทบต่อภาระงบประมาณของประเทศได้แต่ข้อดีคือ รัฐสามารถจะควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินงานได้เองทั้งหมด
- รัฐดำเนินงานร่วมกับเอกชนในรูปแบบการลงทุนร่วมกัน กรณีนี้รัฐอาจจะไม่ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงในการลงทุนเองทั้งหมด และยังสามารถจะควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินงานได้เองอีกด้วย
- การให้สัมปทาน หรือให้ใบอนุญาตกับเอกชนตามระยะเวลาที่กำหนด กรณีนี้ รัฐไม่ต้องรับความเสี่ยงในการลงทุนเองทั้งหมด ส่วนการควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินงานอาจต้องกำหนดเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ รวมถึงขั้นตอนการตรวจสอบไว้ในใบอนุญาตให้รัดกุม

เตือนกระทบกลุ่มเปราะบาง-พนันออนไลน์เบ่งบาน ชงตั้งหน่วยงานกำกับดูแล-ดำเนินการในพื้นที่จำกัด-ดูต้นแบบมาเลเซีย ย้ำรัฐต้องควบคุมให้ดี สกัดปัญหาสังคม มีกองทุนดูแลผู้ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้มีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ต่อกรณีการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งการพิจารณาศึกษาดังกล่าว คณะอนุ กมธ. ได้มีข้อเสนอแนะ ดังนี้
1\. การเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หากมองประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ย่อมส่งผลกระทบเชิงบวกที่อาจทำให้ผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง และสมาชิกในครอบครัวมีงานทำมีรายได้ ในทางกลับกัน หากมองในมิติทางสังคม อาจส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เช่น ส่งผลให้เกิดมลภาวะทางเสียง รบกวนการใช้ชีวิต มีการจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งสารเสพติดมากขึ้นและก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม
ดังนั้น ภาครัฐควรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการประเมินผลกระทบทางสังคมเพื่อสะท้อน และเปรียบเทียบผลกระทบเชิงบวก เชิงลบ พร้อมกำหนดมาตรการป้องกันแก้ไขในการลดผลกระทบดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้น ให้เหลือน้อยที่สุด
2\. การเปิดสถานบันเทิงครบวงจร บางส่วนอาจเป็นการส่งเสริมรูปแบบธุรกิจ Gaming ในรูปแบบกาสิโนออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งอาจมีส่วนที่ครอบคลุมถึงการซื้อขายหุ้น สกุลเงิน หรือการเทรดหุ้น ไปจนถึงเกมออนไลน์ อีสปอร์ต (E-Sports) และโดยเฉพาะกรณีการพนันแบบออนไลน์ รัฐบาลต้องเน้นควบคุมการเข้าถึง ทั้งจากภายในและภายนอกราชอาณาจักร
ซึ่งต้องมีความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการป้องกัน ระงับ ยับยั้งการแทรกแซงประเทศที่ไม่ให้ความร่วมมือในการห้ามการเข้าถึงเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่ให้บริการกับบุคคลต้องห้ามในประเทศไทย ดำเนินการควบคุมธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งอาจจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อไม่ให้เกิดการฟอกเงินหรือเป็นช่องทางแหล่งบ่มเพาะปัญหาอาชญากรรม
3\. ควรมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ในการศึกษาผลกระทบของการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร อย่างละเอียดรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลกระทบที่มีต่อชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งภาครัฐจะต้องเข้ามากำกับดูแลอย่างเข้มงวด และทำความเข้าใจกับประชาชนก่อนที่ จะมีการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรในประเทศไทย
4\. ควรมีกระบวนการสร้างความเชื่อมั่น จัดทำเวทีประชาคมในพื้นที่เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมจากประชาชน โดยต้องชี้แจงทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์การดำเนินการของโครงการ
ทั้งนี้ ควรแจ้งถึงผลกระทบ ข้อดีและข้อเสียจากการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรของประเทศต่างๆ ให้ประชาชนรับทราบอย่างชัดเจนและเปิดเผย ตลอดจนรับฟังความคิดเห็น ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่
5\. กลุ่มผู้สูงอายุที่อาศัยในเขตชนบท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรายได้น้อย จะมีความต้องการที่เน้นด้านการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพเป็นหลัก
ดังนั้น การเปิดสถานบันเทิงครบวงจร จึงไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้สูงอายุในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย แต่สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่อาศัยในเขตเมือง ที่เป็นกลุ่มที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ใน กทม.และปริมณฑล หรือต่างจังหวัด
6\. การพิจารณาการพัฒนาปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ รวมถึงการร่างกฎหมายเฉพาะในกิจการสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศให้สอดคล้องกับสภาพสังคมในปัจจุบัน
7\. ควรจัดตั้งหน่วยงานในการกำกับดูแลการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการป้องกันแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในด้านการเมือง สังคม การศึกษา สิ่งแวดล้อม ศาสนาและวัฒนธรรมประเพณี
รวมทั้งแก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ความคุ้มค่าของผลการดำเนินงาน ปัญหาก่อนและหลังการดำเนินงาน โดยเฉพาะปัญหาทางสังคมของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบทางวัฒนธรรม
8\. หากมีการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร รวมถึงการเล่นพนันถูกกฎหมาย ควรมี Complex รวมถึงเพื่อการฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการเล่นพนัน โดยมีคณะกรรมการเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการกองทุน ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วนรวม ที่จะพิจารณาใช้เงินกองทุนเพื่อการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดสถานบันเทิง
9\. การเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ควรเปิดในพื้นที่จำกัด โดยการกำหนดพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรศึกษาตัวอย่างตันแบบธุรกิจกาสิโนในประเทศมาเลเซีย ที่แม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม และเข้มงวดในเรื่องการพนัน แต่ประเทศมาเลเซีย ยังสามารถจัดตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจรและกาสิโนได้
10\. ควรพิจารณาถึงการละเล่นใดที่เป็นกีฬาและการละเล่นทางวัฒนธรรม ที่จะต้องดำเนินการรักษาไว้เพื่อสะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยหรือไม่ เช่น มวยไทย, ปลากัด, ชนไก่, ชนโค ถือเป็นกีฬาทางวัฒนธรรมพื้นบ้าน ที่อาจจะต้องส่งเสริมและรักษาไว้
อย่างไรก็ตาม หากจะมีการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ควรจะมีมาตรการดูแลสภาพปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาทางด้านสังคม เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้