การประกาศตัวลงแข่งของ ‘มาดามเดียร์’ หนนี้ ถูกจับตามองทั้งจากคนในพรรคและนอกพรรค เพราะเป็นตัวละครใหม่บนความขัดแย้งของสองขั้วใน ปชป.ที่เดิมมีเพียงชื่อ ‘นราพัฒน์ – อภิสิทธิ์’ เท่านั้นที่เป็นคู่ชิง
แต่เมื่อมีชื่อของ ‘มาดามเดียร์’ ปรากฏขึ้นมาแทนชื่อ ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ แถมยังมีชื่อ ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ สส.นครศรีธรรมราช ถูกวางประกบคู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค จึงสร้างความฮือฮาให้กับคนใน ปชป.ไม่น้อย
เพราะนั่นเท่ากับเป็นการพลิกเกมจากกลุ่มผู้อาวุโส ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ที่เพลี่ยงพล้ำมาตลอดสองครั้ง จนนำไปสู่ปัญหาองค์ประชุมล่ม หรือล่มองค์ประชุมเกิดขึ้น
การประกาศตัวชิงเก้าอี้**หัวหน้า ปชป.**ของ ‘มาดามเดียร์’ จึงไม่ใช่แค่สู้เพราะไม่กลัวแพ้หรือไม่มีอะไรจะเสียเท่านั้น แต่มาพร้อมกับโอกาสและความหวัง เพราะงานนี้คนที่ไปทาบทามเป็นระดับสองทหารเสือ ‘นิพนธ์-จุรินทร์’ ซึ่งคนใน ปชป.ย่อมรู้ดีว่าแนบแน่นอยู่กับใคร
ในขณะที่หลังการแถลงเปิดตัวของมาดามเดียร์ เป็นเวลาเดียวกับที่ ‘ชวน หลีกภัย’ ผู้อาวุโสของ ปชป.ได้เวลาเข้าที่ทำการพรรคมาพอดี จึงได้มีการถามไถ่ ไต่ถาม พร้อมกล่าวให้กำลังใจอย่างมีนัยยะเล็กๆ
ยิ่งได้ 5 สส.นครศรีธรรมราช กลุ่ม ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ มาเติมจำนวนเสียง สส.ที่กลุ่มผู้อาวุโสมีอยู่ 4 เสียง รวมเป็น 9 เสียงแล้ว หากไปออกแรงเพิ่มหามาเติมอีกไม่กี่เสียง ก็จะทำให้มีจำนวนเสียง สส.มากกว่าอีกฝ่ายทันที
เมื่อพลิกสถานการณ์ได้แบบนี้ สัดส่วน 70:30 ที่เคยเป็นปัญหาให้กับกลุ่มผู้อาวุโส ก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปในการประชุมใหญ่ที่จะมีขึ้น
เกมชิงเก้าอี้หัวหน้า ปชป.ต่อจากนี้ จึงอยู่ที่ฝั่ง ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ ที่มาดามเดียร์ ขานชื่อเป็นหนึ่งในผู้ใหญ่ที่ไปพบเป็นคนแรกๆ ในวันนี้ ว่าจะพลิกเกม กอบกู้สถานการณ์ให้ฝ่ายตัวเองอย่างไร หลังถูก “ตีท้ายครัว” สอย สส.นครศรีธรรมราช ไป 5 คน
ซึ่งโอกาสที่จะดึงกลับมาก็คงไม่ง่าย แถมต้องเฝ้าระวัง สส.ที่เหลืออยู่อีก 16 เสียง ไม่ให้แตกแถว หรือนาทีนี้อาจมีบางส่วนปันใจไปอยู่กับอีกฝั่งแล้วก็ได้
ศึกชิงหัวหน้า ปชป.ยกที่ 3 ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ เบื้องต้นจึงน่าจะยังแข่งขันกันระหว่าง ‘นราพัฒน์-วทันยา’ โดยมีสองกลุ่มใหญในพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุน
โดยฝ่ายแรก วางตัวนายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ เป็นหัวหน้าพรรคในฐานะ ‘สิงห์เหนือ’ คู่กับนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ในตำแหน่งเลขาธิการพรรค ในฐานะ ‘เสือใต้’
หากไม่มีอะไรพลิกผันศึกชิงหัวหน้า ปชป.คำรบสาม คู่ชิงจะเป็น ‘นราพัฒน์-เดชอิศม์’ แข่งกับคู่ของ ‘วทันยา-เดชอิศม์’
ยกเว้น ‘นราพัฒน์’ จะถอดใจขอถอนตัว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หรือ ‘เสี่ยต่อ-เฉลิมชัย’ จะเห็นว่างานนี้ต้องลงแข่งขันเองถึงจะสมราคา เพื่อรักษาศักดิ์ศรีคนเมืองเกาะ การสัปยุทธ์กันเที่ยวนี้ของคนใน ปชป.ก็จะออกรสชาดจี๊ดจ๊าดเพิ่มมากขึ้น
ส่วนจบเกมแล้วฝ่ายที่แพ้ชนะจะยังอยู่กันครบหรือไม่ ต้องย้อนไปอ่านที่ ‘นราพัฒน์ แก้วทอง’ ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ใครจะลาออกจากพรรคไปหลังได้หัวหน้าพรรคคนใหม่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าพรรคยังคงอยู่และเดินหน้าต่อไป
ดูจากฉากการแถลงเปิดตัวชิงหัวหน้าพรรค ปชป.วันนี้แล้ว หาก ‘เสี่ยต่อ’ ไม่ออกฤทธิ์ออกเดชเสียก่อน ก็มีโอกาสสูงที่ ปชป.จะมีหัวหน้าคนที่ 9 เป็นผู้หญิงคนแรกของพรรคในรอบ 77 ปี
