



ภายหลังการประชุม สส. พรรครวมไทยสร้างชาติ กว่า 2 ชั่วโมง อัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรคไทยสร้างชาติ ในฐานะโฆษกพรรค รทสช. กล่าวถึงความคืบหน้า การจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเพื่อไทย ว่า พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ได้มีการพูดถึงการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ รอพรรคเพื่อไทยติดต่อมาเพื่อพูดคุยอย่างเป็นทางการ แต่ปัจจุบันยังไม่ได้มีการประสานงานมา ซึ่งรวมไทยสร้างชาติมีจุดยืนพร้อมทำงานร่วมกับพรรคที่ไม่มีพรรคก้าวไกล มีวัตถุประสงค์แก้ไขมาตรา 112
ส่วนการร่วมรัฐบาลขณะนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติได้มีการแจ้ง สส. ให้เตรียมพร้อม เพื่อพิจารณาประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 18 หรือ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าประธานรัฐสภาจะนัดเมื่อใด
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยติดต่อมาเพื่อขอให้ยกมือโหวตนายกฯ ก่อนร่วมรัฐบาลจะให้ยกมือสนับสนุนหรือไม่ อัครเดช กล่าวว่า พีระพันธุ์ ชี้แจงชัดเจนว่า หากจะให้พรรครวมไทยสร้างชาติไปสนับสนุน จะต้องมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดเผยว่าขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติได้รับสัญญาณบวกจากพรรคเพื่อไทย ที่คณะผู้แทนเจรจา ได้มีการส่งสัญญาณมาว่า พร้อมจะมาเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาล โดยทางพรรครวมไทยสร้างชาติก็พร้อมที่จะพูดคุยเจรจาร่วมรัฐบาลให้ประเทศเดิยหน้าได้ และสร้างความมั่นคงให้กับรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อถามย้ำว่าสามารถระบุวันหารือร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้แล้วหรือไม่ อัครเดช กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ติดต่อมา เพียงแต่ได้รับสัญญาณจากพรรคเพื่อไทยว่าจะมีการเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติเท่านั้น พร้อมกับกล่าวย้ำว่า หากต้องการให้รวมไทยสร้างชาติไปร่วมรัฐบาลจะต้องมีการเชิญอย่างเป็นทางการ โดยให้แกนนำพรรคเพื่อไทยมาพูดคุยกับหัวหน้าและเลขาธิการพรรค
ส่วนเงื่อนไขการพูดคุยได้มีการกำหนดแบ่งสัดส่วนกระทรวงแล้วหรือไม่ อัครเดช กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุย ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมทำงานในทุกด้าน ไม่ว่ากระทรวงใดก็แล้วแต่ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน รวมถึงพร้อมทำหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล
เมื่อถามว่า 36 เสียง ของพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้กี่เก้าอี้รัฐมนตรี อัครเดช กล่าวว่าในที่ประชุมไม่มีการหารือถึงประเด็นดังกล่าว ส่วนหลักเกณฑ์การการแบ่งกระทรวงก็เป็นไปอย่างที่พรรคเพื่อไทยชี้แจง ว่าหากหารกันแล้วตามคณิตศาสตร์การเมือง สส. คือ 9 คน ต่อ 1 ตำแหน่งรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยแต่อย่างใด
เมื่อถามต่อว่า 36 สส. ก็จะได้ 4 เก้าอี้รัฐมนตรี อัครเดช กล่าวย้ำคำเดิมว่า ตามคณิตศาสตร์ทางการเมืองก็ว่าเช่นนั้น พร้อมยอมรับว่า ก็เป็นไปตามคณิตศาสตร์การเมือง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและบ้าน ไม่ได้อยู่ที่เก้าอี้รัฐมนตรี
เมื่อถามว่าได้มีการวางตัวรัฐมนตรี 4 เก้าอี้แล้วหรือไม่ และจะเป็นรัฐมนตรีคนเดิมหรือไม่ อัครเดช กล่าวว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยเพราะการเจรจากัน ยังไม่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้รับเพียงสัญญาณบวกจากพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ส่วนการตัดสินใจเลือกผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ของกรรมการบริหาร ในการเคาะบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรค
อย่างไรก็ตาม อัครเดช กล่าวว่า จะแถลงเปิดตัวการร่วมรัฐบาลเมื่อใด ขึ้นอยู่กับท่าทีของศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยมติการเลือกนายกรัฐมนตรีตาม มาตรา 151 สามารถยื่นญัตติซ้ำได้หรือไม่ตามข้อบังคับที่ 41 วันพรุ่งนี้ (16สิงหาคม) ซึ่ง สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาจะนัดเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อใด หากนัดเร็วการเลือกนายกรัฐมนตรีก็จะเกิดขึ้นได้เร็ว หากนัดเช้าออกไป การเจรจาระหว่างระหว่างพรรคก็จะมีระยะเวลามากขึ้น
ส่วนการร่วมรัฐบาลขณะนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติได้มีการแจ้ง สส. ให้เตรียมพร้อม เพื่อพิจารณาประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นวันที่ 18 หรือ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าประธานรัฐสภาจะนัดเมื่อใด
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยติดต่อมาเพื่อขอให้ยกมือโหวตนายกฯ ก่อนร่วมรัฐบาลจะให้ยกมือสนับสนุนหรือไม่ อัครเดช กล่าวว่า พีระพันธุ์ ชี้แจงชัดเจนว่า หากจะให้พรรครวมไทยสร้างชาติไปสนับสนุน จะต้องมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดเผยว่าขณะนี้พรรครวมไทยสร้างชาติได้รับสัญญาณบวกจากพรรคเพื่อไทย ที่คณะผู้แทนเจรจา ได้มีการส่งสัญญาณมาว่า พร้อมจะมาเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาล โดยทางพรรครวมไทยสร้างชาติก็พร้อมที่จะพูดคุยเจรจาร่วมรัฐบาลให้ประเทศเดิยหน้าได้ และสร้างความมั่นคงให้กับรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อถามย้ำว่าสามารถระบุวันหารือร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้แล้วหรือไม่ อัครเดช กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ติดต่อมา เพียงแต่ได้รับสัญญาณจากพรรคเพื่อไทยว่าจะมีการเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติเท่านั้น พร้อมกับกล่าวย้ำว่า หากต้องการให้รวมไทยสร้างชาติไปร่วมรัฐบาลจะต้องมีการเชิญอย่างเป็นทางการ โดยให้แกนนำพรรคเพื่อไทยมาพูดคุยกับหัวหน้าและเลขาธิการพรรค
ส่วนเงื่อนไขการพูดคุยได้มีการกำหนดแบ่งสัดส่วนกระทรวงแล้วหรือไม่ อัครเดช กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุย ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมทำงานในทุกด้าน ไม่ว่ากระทรวงใดก็แล้วแต่ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน รวมถึงพร้อมทำหน้าที่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล
เมื่อถามว่า 36 เสียง ของพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้กี่เก้าอี้รัฐมนตรี อัครเดช กล่าวว่าในที่ประชุมไม่มีการหารือถึงประเด็นดังกล่าว ส่วนหลักเกณฑ์การการแบ่งกระทรวงก็เป็นไปอย่างที่พรรคเพื่อไทยชี้แจง ว่าหากหารกันแล้วตามคณิตศาสตร์การเมือง สส. คือ 9 คน ต่อ 1 ตำแหน่งรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยแต่อย่างใด
เมื่อถามต่อว่า 36 สส. ก็จะได้ 4 เก้าอี้รัฐมนตรี อัครเดช กล่าวย้ำคำเดิมว่า ตามคณิตศาสตร์ทางการเมืองก็ว่าเช่นนั้น พร้อมยอมรับว่า ก็เป็นไปตามคณิตศาสตร์การเมือง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและบ้าน ไม่ได้อยู่ที่เก้าอี้รัฐมนตรี
เมื่อถามว่าได้มีการวางตัวรัฐมนตรี 4 เก้าอี้แล้วหรือไม่ และจะเป็นรัฐมนตรีคนเดิมหรือไม่ อัครเดช กล่าวว่าเรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยเพราะการเจรจากัน ยังไม่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้รับเพียงสัญญาณบวกจากพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ส่วนการตัดสินใจเลือกผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นหน้าที่ของกรรมการบริหาร ในการเคาะบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรค
อย่างไรก็ตาม อัครเดช กล่าวว่า จะแถลงเปิดตัวการร่วมรัฐบาลเมื่อใด ขึ้นอยู่กับท่าทีของศาลรัฐธรรมนูญในการวินิจฉัยมติการเลือกนายกรัฐมนตรีตาม มาตรา 151 สามารถยื่นญัตติซ้ำได้หรือไม่ตามข้อบังคับที่ 41 วันพรุ่งนี้ (16สิงหาคม) ซึ่ง สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาจะนัดเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อใด หากนัดเร็วการเลือกนายกรัฐมนตรีก็จะเกิดขึ้นได้เร็ว หากนัดเช้าออกไป การเจรจาระหว่างระหว่างพรรคก็จะมีระยะเวลามากขึ้น