ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง สำหรับการเลือกประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) ที่มีชื่อ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ด้วย ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ กว่า 200 คน
เรื่องนี้ อุตตม สาวนายน ประธานคณะกรรมการนโยบายเเละรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้ความเห็นว่า การเมืองไม่ควรที่จะเข้าไปก้าวก่าย แต่ไม่ได้หมายความว่า แบงก์ชาติทำงานด้วยตัวเอง เพราะรัฐบาลต้องทำงานกับแบงก์ชาติอยู่แล้ว
จากประสบการณ์ ผมคิดว่าต้องประสานงานกัน โดยเฉพาะในภาวะที่ประเทศไทยอยู่ในจุดพลิกผัน จะฟื้นได้จริงหรือไม่ ต้องอาศัยทุกหน่วยงาน และไม่ไปเสียเวลากับเรื่องอื่น ที่จะไปหักล้างความร่วมมือกัน
อุตตม สาวนายน
ส่วนหากมีฝ่ายการเมืองเข้าไปจริง จะทำให้ระบบในแบงก์ชาติ “รวน” หรือไม่? อุตตม มองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มีระบบการทำงานของเขา มีประเพณีของเขา ที่ต่อเนื่องมาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ายุคนี้ก็เข้าใจได้ว่า สังคมมีความเห็นที่แตกต่างกันได้
แต่คิดว่าทุกฝ่ายก็อยากเห็นเราเดินไปข้างหน้า ใครจะอยากเห็นคนทะเลาะกัน ในเมื่อการเดิมพันคือปากท้องของประชาชน
ก็อยากเห็นเหมือนกันว่า ผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร หลังจากเลือกประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย และในฐานะพรรคพลังประชารัฐ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราอยากเห็นรัฐบาลเดินต่อในนโยบายต่างๆ โดยมีแบงก์ชาติ ทำงานร่วมกับรัฐบาล
อุตตม สาวนายน
สำหรับชื่อของ กิตติรัตน์ ที่ออกมานั้น อุตตม ไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่ระบุทราบข่าวว่า มีแคนดิเดตหลายคน
ส่วนหากเป็น กิตติรัตน์ จริงๆ จะเป็นอย่างไร? อุตตม บอกว่า เราก็ต้องเชื่อมั่นในคณะกรรมการสรรหา เพราะแต่ละคนก็มีคุณวุฒิ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นอดีตของผู้บริหารระดับสูง ของสถาบันการเงิน ของกระทรวง และของธนาคารแห่งประเทศไทย
เราก็ต้องให้ความเชื่อมั่นว่า คณะกรรมการเหล่านั้นจะกลั่นกรองให้ดีที่สุด อย่างรอบคอบ
อุตตม สาวนายน
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาเคยมีหรือไม่กับการมีคนของการเมืองเข้าไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว อุตตม กล่าวว่า จำไม่ได้ แต่ที่ระบุว่าคนของพรรค มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญก็คือตัวบุคคลนั้นที่เข้ามา ทำหน้าที่แล้วเป็นอย่างไร แน่นอนว่าจะต้องอยู่ในสายตาของสังคม และวันนี้ สังคมก็สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นได้
ไม่ว่าใครจะมา ก็ต้องทำหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง แต่สุดท้ายแล้ว ก็หนีการทำงานร่วมกันไม่พ้น
อุตตม สาวนายน