วราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการเลือกตั้ง นายก อบจ. สุพรรณบุรี ว่า “ใครอยู่พรรคชาติไทยพัฒนาเราก็เชียร์ การเลือกตั้งก็ให้เป็นตามครรลอง”
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ส่งผู้สมัครลงนายก อบจ. จะกระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น การไปพูดคุยหรือมีพรรคพวกไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันผมไม่ได้มีปัญหาอะไร ผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย และผู้ใหญ่ของพรรคชาติไทยพัฒนา เราคุยกันแล้ว แต่ท้ายที่สุดแล้ววันที่ 1 ก.พ.68 พี่น้องประชาชนจะเป็นคนตัดสิน
เมื่อถามถึงกรณี พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างในทำนองว่า “พรรคชาติไทยพัฒนาทอดทิ้งคนเก่าแล้วไปแอบช่วยคนใหม่” นั้น วราวุธ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่ พร้อมพงศ์จะพูด แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรคนสุพรรณบุรีรู้กันดี ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไร ต่างคนต่างหาเสียงกันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะลงไปช่วย อุดม โปร่งฟ้า ผู้สมัครนายก อบจ.สุพรรณบุรีหาเสียงหรือไม่? วราวุธ กล่าวว่า พรรคได้อนุญาตให้ อุดมใช้โลโก้พรรคชาติไทยพัฒนา แต่ไม่ได้เป็นมติว่าจะส่งใครลงสมัครนายก อบจ.
เนื่องจากนายอุดม ทำงานให้พวกเรามานาน เป็นสมาชิกพรรค และเป็นอดีตคณะที่ปรึกษา รมว.พม. ฉะนั้น เมื่อขอใช้โลโก้พรรคเราจึงไม่ขัดข้อง และหากใครมาขอและเป็นสมาชิกพรรคก็ไม่มีเหตุใดที่เราจะไม่ให้ ส่วนจะลงไปช่วยหรือไม่ ต้องขอดูตารางงาน แต่ส่วนใหญ่เราไม่ได้ลงไปหาเสียงในระดับท้องถิ่น เราจะอยู่ที่สนามใหญ่
— วราวุธ ศิลปอาชา
เมื่อถามว่า กลัวกระแส ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจาก บุญชู จันทร์สุวรรณ อดีตนายก อบจ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นคู่แข่งของ อุดมลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย? วราวุธ กล่าวว่า ผมก็พูดคุยกับทีมงานพรรคเพื่อไทยประจำ และใน ครม.ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน มีอะไรในท้องถิ่นก็ให้เขาว่ากันไป เพราะเป็นระดับท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนาหวั่นไหวกับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่? วราวุธ กล่าวว่า ไม่หวั่นไหวกับกระแสข่าวดังกล่าว ถึงเวลาการปรับ ครม.คงมีการต่อสายคุยกันเอง
ย้ำจุดยืน ‘แก้ รธน.’ ต้องไม่แตะหมวด 1-หมวด 2
หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ยังเผยถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พรรคยังยืนยันจุดเดิม คือ การได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยเฉพาะหมวด 1, หมวด 2 ที่จะไม่แตะต้องหรือทำอะไรเด็ดขาด ถ้าเป็นตามนี้ยินดีสนับสนุน แต่หากแตกต่างไปคงต้องสงวนความเห็นไว้
เพราะสิ่งที่เราพูดมาตั้งแต่แรกจนถึงวันนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง พรรคชาติไทยพัฒนาทำงานโดยคงไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ จะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไรก็แล้วแต่ หมวด 1, หมวด 2 เราไม่เข้าไปยุ่งด้วย
— วราวุธ ศิลปอาชา
แนะใช้ ‘ส.ส.ร.’ ที่มาจากหลากหลายสาขา
เมื่อถามถึงความเห็นในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะที่มาของ ส.ส.ร. ดูแล้วเป็นอย่างไร? วราวุธ กล่าวว่า ต้องหารือกัน เพราะบางส่วนเป็นการคัดเลือกมาเหมือนสมัยรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา ที่ทำไว้ ซึ่งมาจากหลากหลายวงการ ทั้งการเลือกตั้งและการเลือกมาจากสาขาอาชีพ แต่ปี 2540 ขั้นตอนและสาขาอาชีพวันนั้นกับวันนี้แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เมื่อเวลาเปลี่ยน ส.ส.ร.ควรต้องสะท้อนถึงองค์ประกอบของประชาชน ที่สะท้อนถึงสังคมในปัจจุบัน
เมื่อถามถึงกรณีที่มีคนขู่เรื่องทำประชามติ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง ซีเรียสหรือไม่? วราวุธ กล่าวว่า ขอให้ดูแนวทางคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญก่อน
ไม่ว่า 2 หรือ 3 ครั้ง อยากทำให้ถูกต้อง เพราะกลัวว่าถ้าทำ 2 ครั้ง มันอาจจะเร็ว แต่ถ้าถูกตีตกหรือมีอะไรขึ้นมา ก็ต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่ ที่สำคัญการแก้รัฐธรรมนูญ อย่างไรเสียคงไม่ทันในรัฐบาลนี้ ก็เหมือนสมัยนายบรรหาร เป็นนายกฯ ช่วงรัฐบาลปี 2538 ได้ริเริ่มการแก้รัฐธรรมนูญ แต่มาคลอดในปี 2540 ซึ่งไม่ใช่รัฐบาลบรรหาร แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของ ส.ส.ร. เพราะฉะนั้น รัฐบาลนี้ก็เช่นกัน รัฐธรรมนูญจะไปเสร็จในรัฐบาลใดก็แล้วแต่ แต่หากเลือกตั้งเสร็จแล้ว ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง ก็อาจจะมาตั้งรัฐบาลกันใหม่ ถือว่าเป็นคนเริ่มต้นและรัฐธรรมนูญมาคลอดในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเช่นกัน
— วราวุธ ศิลปอาชา
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เห็นด้วย? วราวุธ กล่าวว่า ต้องมาเจรจาพูดคุยกันถึงแนวทางว่ามีความเห็นอย่างไร หาจุดลงตัวอย่างไร
ไม่ว่า รธน.ฉบับใดก็มีข้อด้อย-ข้อดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวมีปัญหากับรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่? วราวุธ กล่าวว่า ทุกรัฐธรรมนูญมีข้อด้วยและข้อดี อย่างฉบับปี 2540 ที่บอกว่าดีที่สุด ยังมีข้อด้อย เราต้องหาวิธีปรับแก้ในปี 2560 ต้องดูว่าจะแก้อย่างไร แต่ยังเชื่อในรัฐธรรมนูญที่มีที่มามาจาก ส.ส.ร. จะได้แก้ข้อครหาจากหลายฝ่ายได้
แนะปิดช่องโหว่ให้ดี หากนำ ‘พนันออนไลน์’ ขึ้นบนดิน
ส่วนถึงแนวคิด “นำการพนันออนไลน์ ขึ้นมาไว้บนดินให้ถูกกฎหมาย” วราวุธ ในฐานะ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เผยว่า “คงต้องดูถึงองค์ประกอบหลายๆ เรื่อง เพราะพอขึ้นมาแล้ว ซึ่งคนไทยจะเก่งที่หาทางลูบคมได้ตลอด ฉะนั้น คงต้องหาทางที่จะปิดช่องโหว่กันให้ดี”