‘วันมูหะมัดนอร์ มะทา’ หัวหน้าพรรคประชาชาติ เปิดเผยหลังพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล มีมติเสนอชื่อให้ตนเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า หากการโหวตวันนี้เลือกตนเป็นประธานสภาฯ ก็พร้อมทำงานให้ดีที่สุดเพื่อบ้านเมืองและเพื่อประชาธิปไตยตามที่ประชาชนคาดหวัง
เมื่อถามว่าใช้เวลาตัดสินใจนานหรือไม่ในการรับตำแหน่ง ‘วันมูหะมัดนอร์’ เล่าว่าไม่ได้คิดนาน แต่ใจจริงอยากให้ทั้งสองพรรคใหญ่ตกลงกันได้เพื่อให้การทำงานราบรื่น แต่เมื่ออยากให้ตนมาทำหน้าที่นี้ ก็ต้องทำหน้าที่เพราะเป็นภาระของพวกเราทุกคน
เมื่อถามว่าเมื่อรับตำแหน่งประธานสภาฯ จะทำให้เสียโควตารัฐมนตรีหรือไม่ ‘วันมูหะมัดนอร์’ บอกว่า เรายังไม่คุยกันเรื่องการบริหารและโควตารัฐมนตรี รอให้มีการโปรดเกล้าฯตำแหน่งประธานสภาฯ ก่อนจึงจะมีการพูดคุยกัน
ส่วนเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาล แต่พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคการเมืองหนึ่งของสภาก็อยากเสนอเข้ามา ก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและข้อบังคับสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่กฎหมายก็ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกลที่เสนอได้ พรรคอื่นๆก็สามารถเสนอได้เช่นกัน รวมถึงภาคประชาชนด้วย สภาต้องโปร่งใส และส่วนตัวก็พร้อมให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ รวมถึงสื่อมวลชนสามารถตรวจสอบการทำงานของสภาได้
ส่วนกรณีที่จะต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคหากรับตำแหน่งประธานสภา ‘วันมูหะมัดนอร์’ บอกว่าต้องเป็นไปตามข้อบังคับ ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่กำหนด เพราะประธานสภาฯ ต้องทำหน้าที่เป็นกลาง แต่ตนขอไปศึกษารัฐธรรมนูญก่อนว่าจะต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคเมื่อไหร่ ส่วนตัวคิดว่าคงเป็นหลังโปรดเกล้าฯแล้ว
เมื่อถามต่อว่าอาจต้องเสียสละถึง 2 ตำแหน่งคือตำแหน่งหัวหน้าพรรคและรัฐมนตรี ‘วันมูหะมัดนอร์’ ระบุว่าในพรรคก็มีคนทำงาน และไม่ใช่ว่าตนจะเป็นหัวหน้าพรรคตลอดไป นี่จึงเป็นโอกาสที่คนจะเป็นหัวหน้าพรรคต่อไปได้เข้ามาทำงาน
‘วันมูหะมัดนอร์’ กล่าวทิ้งท้ายว่า ได้รับทราบเรื่องตำแหน่งประธานสภาในเบื้องต้นตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม แต่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) ช่วง 14.00 น.
เมื่อถามว่าใช้เวลาตัดสินใจนานหรือไม่ในการรับตำแหน่ง ‘วันมูหะมัดนอร์’ เล่าว่าไม่ได้คิดนาน แต่ใจจริงอยากให้ทั้งสองพรรคใหญ่ตกลงกันได้เพื่อให้การทำงานราบรื่น แต่เมื่ออยากให้ตนมาทำหน้าที่นี้ ก็ต้องทำหน้าที่เพราะเป็นภาระของพวกเราทุกคน
เมื่อถามว่าเมื่อรับตำแหน่งประธานสภาฯ จะทำให้เสียโควตารัฐมนตรีหรือไม่ ‘วันมูหะมัดนอร์’ บอกว่า เรายังไม่คุยกันเรื่องการบริหารและโควตารัฐมนตรี รอให้มีการโปรดเกล้าฯตำแหน่งประธานสภาฯ ก่อนจึงจะมีการพูดคุยกัน
ส่วนเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาล แต่พรรคก้าวไกลในฐานะพรรคการเมืองหนึ่งของสภาก็อยากเสนอเข้ามา ก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและข้อบังคับสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่กฎหมายก็ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกลที่เสนอได้ พรรคอื่นๆก็สามารถเสนอได้เช่นกัน รวมถึงภาคประชาชนด้วย สภาต้องโปร่งใส และส่วนตัวก็พร้อมให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ รวมถึงสื่อมวลชนสามารถตรวจสอบการทำงานของสภาได้
ส่วนกรณีที่จะต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคหากรับตำแหน่งประธานสภา ‘วันมูหะมัดนอร์’ บอกว่าต้องเป็นไปตามข้อบังคับ ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่กำหนด เพราะประธานสภาฯ ต้องทำหน้าที่เป็นกลาง แต่ตนขอไปศึกษารัฐธรรมนูญก่อนว่าจะต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคเมื่อไหร่ ส่วนตัวคิดว่าคงเป็นหลังโปรดเกล้าฯแล้ว
เมื่อถามต่อว่าอาจต้องเสียสละถึง 2 ตำแหน่งคือตำแหน่งหัวหน้าพรรคและรัฐมนตรี ‘วันมูหะมัดนอร์’ ระบุว่าในพรรคก็มีคนทำงาน และไม่ใช่ว่าตนจะเป็นหัวหน้าพรรคตลอดไป นี่จึงเป็นโอกาสที่คนจะเป็นหัวหน้าพรรคต่อไปได้เข้ามาทำงาน
‘วันมูหะมัดนอร์’ กล่าวทิ้งท้ายว่า ได้รับทราบเรื่องตำแหน่งประธานสภาในเบื้องต้นตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 2 กรกฎาคม แต่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) ช่วง 14.00 น.