รัฐสภา (22 เมษายน 2567) วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) ให้การต้อนรับสมาชิกพรรคประชาชาติ จากกรุงเทพฯ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และนนทบุรี จำนวน 400 คน เข้าเยี่ยมคารวะ และเยี่ยมชมรัฐสภา
โดย วันมูหะมัดนอร์ กล่าวให้โอวาท ตอนหนึ่งว่า ประชาธิปไตยเป็นของประชาชน เพื่อประชาชน ประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้ง การเลือกตั้งมาจากพรรคการเมือง พรรคการเมืองมาจากสมาชิกพรรค สมาชิกก็มีหน้าที่หาเสียงสนับสนุนพรรคให้มีพลังในการต่อสู้ นี่คือประชาธิปไตยที่เราหวัง
วันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า ก็คงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม 44 ปี ตนถึงเป็น สส.ได้ มีความผูกพันธ์กับประชาชนมา 11 สมัย ไม่เคยสอบตก และจำนวน สส.ยังวัดว่าใครจะได้เป็นรัฐมนตรีรวมถึงวัดว่าเป็น สส.มาแล้วกี่สมัย ซึ่งตนกว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีก็เป็น สส.5 สมัย เชื่อว่าท่านคงไม่อยากให้ สส.ของท่านสอบตก ดังนั้นการทำการเมืองต้องมุ่งหวังไปสู่รัฐมนตรี ไม่ใช่อยากมีอำนาจอย่างเดียว ซึ่งตนไม่ได้เก่งแต่ประชาชนไม่ทิ้ง ให้สู้ด้วยหัวใจแล้วเอาประชาชนเป็นหลัก
“ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นเสาหลักของประชาธิปไตย ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของพรรคประชาชาติ เป็นศักดิ์ศรี ไม่ใช่มานั่งได้ง่าย ต้องเป็น สส.ไม่ใช่คนนอกเหมือนนายกฯ ที่เป็น สส.ก็ได้ คนนอกก็ได้ การที่ผมเป็นประธานสภาฯไม่ได้นั่งประชุมอย่างเดียว แต่ต้องต้อนรับแขกที่มาเยือน และเดินทางไปประชุมรัฐสภาโลก และประธานรัฐสภา เป็นบุคคล 1 ใน 3 ของอำนาจประชาธิปไตย แต่ถ้าไปประเทศอื่นเขาให้ความสำคัญมากกว่าประเทศเรา เช่น จีน เบอร์ 1 คือประธานาธิบดี เบอร์ 2 คือประธานสภาฯ เบอร์ 3 คือนายกฯ ซึ่งไปเยือนเขาก็ให้เกียรติเรา ต้อนรับเราดี ไปกัมพูชาก็เหมือนกัน แต่ของเรากลับกัน” วันมูหะมัดนอร์ กล่าว
วันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า ตนมีตำแหน่งที่มีเกียรติยศ ที่หาไม่ได้ง่ายๆ ตนเป็นมุสลิมคนแรกที่เป็นประธานรัฐสภา เป็นประธานรัฐสภาครั้งที่สอง ก็ไม่แน่ใจว่าอีก 10 ปี หรืออีก 100 ปี จะมีมุสลิมมานั่งตรงนี้หรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าคนที่เป็น สส.มีโอกาสเป็นได้ เพราะคนนอกเป็นไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงช่วงเปิดให้ซักถาม มีสมาชิกพรรค ปช. จาก จ.ยะลาถามถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงการเปลี่ยนตัวประธานรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องที่พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้อยากทราบ วันมูหะมัดนอร์ จึงถามกลับว่า พี่น้องประชาชนยังอยากให้เป็นอยู่หรือไม่ พร้อมกลับทำความเข้าใจกับสมาชิกว่า ตำแหน่งประธานรัฐสภาไม่ได้เป็นของรัฐบาล ถ้านายกฯ จะปรับ ครม.ก็ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ประธานสภาฯมาจากสมาชิกสภาฯ และตนมาจากการถูกเสนอชื่อในที่ประชุมเพียงคนเดียว เพราะฉะนั้นใครก็เปลี่ยนไม่ได้ ยกเว้นว่าตนทำหน้าที่ไม่ได้ก็ลาออก นั่นจึงจะเปลี่ยนได้
“ไม่ต้องกังวลไม่มีการเปลี่ยนแน่นอน ตนไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง แต่หากผมลาออกและยอมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติได้ ประชาธิปไตยจะไม่สง่างาม ผมจึงต้องรักษาไว้เพื่อให้ประชาธิปไตยสง่างามและเดินต่อไปได้ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง” วันมูหะมัดนอร์ กล่าวยืนยันกับสมาชิกพรรคประชาชาติ
