จับตาเกมล้ม ‘มติแพทยสภา’

14 พ.ค. 2568 - 06:12

  • ‘หมอวรงค์’ แนะ ‘แพทยสภา’ เตรียมตั้งรับแผน ‘ยับยั้งมติลงโทษแพทย์’ โยงปม ‘ชั้น 14’

  • ‘แกนนำ คปท.’ แฉ 3 ประสาน ‘กงล้อไสยศาสตร์การเมือง’ เดินเกม ‘ล้มมติแพทยสภา’

ยังต้องจับตาอย่างต่อเนื่องสำหรับปมร้อน ‘ชั้น 14’ ภายหลังมีข่าว พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มอบทนายยื่นหนังสือถึง สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ขอความเป็นธรรมกรณี ‘มติแพทยสภา’ ลงโทษแพทย์ 3 ท่าน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพักรักษาตัวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ จนหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของ ‘เกมยับยั้งมติแพทยสภา’ หรือไม่?


โดยหนึ่งในผุ้ที่ออกมาพูดถึงเรื่องนี้คือ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ซึ่งเผยผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า


#เกมยับยั้งมติแพทยสภาเริ่มต้นขึ้นแล้วหรือไม่


ตามข่าวทนายความของแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กรณีแพทยสภาจะสั่งพักใบอนุญาต ข้อมูลที่ยื่นนี้ เป็นข้อมูลเพิ่มใหม่ มีอีกหนึ่งชุดข้อมูล ในมุมที่คิดว่ายังไม่ได้มีการชี้แจงต่อแพทยสภา


ประเด็นที่น่าสนใจ


1.อนุกรรมการสอบสวน เปิดโอกาสให้แพทย์ใหญ่ ส่งเอกสารทั้งหมดถึง 2 รอบ รอบแรกเดือนมกราคม 2568 และรอบสองช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 จนแพทยสภาถูกวิจารณ์อย่างหนัก ทำไมแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ จึงส่งเอกสาร และข้อมูลให้อนุสอบสวนไม่หมด ทั้งๆที่ให้โอกาสแล้ว


2.การร้องขอความเป็นธรรม ต่อรัฐมนตรีสาธารณสุข ในข้อมูลเพิ่มใหม่ ย่อมถูกตั้งข้อสงสัยได้ว่า แพทย์ใหญ่จงใจปกปิดข้อมูลหรือไม่ มีพฤติกรรมที่ไม่สุจริตในการส่งข้อมูลให้อนุสอบสวนหรือไม่


3.ข้อมูลใหม่ที่ร้องต่อ รมว.สาธารณสุข จะเชื่อถือได้อย่างไรว่า เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และ รมว.สาธารณสุข สมควรรับข้อมูลนี้พิจารณาไหม ในเมื่ออนุสอบสวน เปิดโอกาสให้ยื่นเอกสาร ชี้แจงแล้ว แต่ยื่นไม่หมดเอง


4.ภาพที่เกิดขึ้น ต้องระมัดระวังว่า เป็นการใช้อำนาจเพื่อช่วยเหลือพวกเดียวกัน


5.พฤติกรรมที่เกิดขึ้น ย่อมถูกตั้งข้อสงสัยได้ว่า พวกท่านกำลังสร้างเงื่อนไข ให้เกิดความสับสนว่า แพทยสภาตัดสินบนฐานข้อมูลที่ไม่ครบ (ทั้งๆที่ให้โอกาสท่านยื่นแล้ว) เพื่อสร้างความชอบธรรม ให้รัฐมนตรีสาธารณสุข ใช้สิทธิ์ยับยั้งมติแพทยสภาหรือไม่


เรื่องนี้คือเกียรติและศักศรีดิ์ของแพทยสภา เพราะถ้ามีการยับยั้งมติ จะเป็นครั้งแรกที่ รัฐมนตรีสาธารณสุขใช้สิทธิ์ยับยั้งความจริง โดยอ้างข้อมูลใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลใหม่ไม่น่าเชื่อถือ แต่อาจสร้างความปั่นป่วนขึ้นได้ แพทยสภาต้องเตรียมตั้งรับให้ดี

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม

View post on Facebook

ขณะที่ พิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ตั้งข้อสังเกตถึงประเด็น ‘ล้มมติแพทยสภา’ ผ่านโซเชียลมีเดียเช่นกัน ว่า


ขบวนการไสยศาสตร์การเมือง


เริ่มขบวนการอย่างเป็นขั้นตอน สำหรับขบวนการไสยศาสตร์การเมือง ที่พยายามเปลี่ยนวิทยาศาสตร์การแพทย์ของแพทยสภา ที่ไม่เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์ในการป่วยวิกฤตของ ทักษิณ ชินวัตร


เริ่มด้วย 3 ประสานแห่งกงล้อไสยศาสตร์การเมือง


1.แพทองธาร ชินวัตร


ยอมกลืนน้ำลายตัวเองที่ให้เชื่อผลแพทยสภา กลับออกลูกพริ้วอธิบายดื้อๆด้านๆว่า “พ่อป่วยจริง” เปลี่ยนน้ำหนักประเด็นเหมือนประชาชนกินหญ้าหวานทั้งประเทศ ทั้งที่แพทยสภาพูดเรื่อง ป่วยวิกฤต ที่ราชทัณฑ์และ ร.พ.ตำรวจ อ้างเรื่องนี้มาโดยตลอด


2.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม


บอกว่ายังไม่เคยได้ยิน แพทยสภา พูดเรื่องไม่มีหลักฐานเรื่อง ป่วยวิกฤต อันนี้ หู ของ รมว.ยุติธรรม คงวิกฤตหนักแล้วละ พร้อมทั้งอ้างเรื่องการรักษาตัวนอกเรือนจำเพราะ ร.พ.ราชทัณฑ์ ไม่สามารถรักษาได้ อันนี้ลิ้นพริ้ว พันคอตัวเองมาตลอด


3.กงล้อนี้เริ่มหมุน หลังเงียบไปนาน


สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะ นายกสภาพิเศษ ของแพทยสภา วันนี้ หมอใหญ่ ร.พ.ตำรวจ ก็เริ่มกระบวนการไปยื่นขอความเป็นธรรม ต่อ สมศักดิ์ เทพสุทิน


นี่จะเป็นเงื่อนไขให้ สมศักดิ์ เทพสุทิน ใช้เป็นข้ออ้าง ในการล้มมติแพทยสภา ในอนาคต


กงล้อไสยศาสตร์การเมืองทั้ง 3 กงล้อ ดิ้นพล่านไม่สนใจวิทยาศาสตร์การแพทย์อะไรทั้งสิ้น น่าหดหู่กับนักการเมืองที่มองเห็นแต่พวกพ้อง แม้จะเหยียบย่ำความถูกต้องก็ตาม ประชาชนต้องหยุดกงล้อไสยศาสตร์การเมืองนี้ลงให้ได้

พิชิต ไชยมงคล


View post on Facebook

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์