พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ เลขานุการ ก.ตร. ชี้แจง_ผลการประชุม ก.ตร. นำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ประธาน ก.ตร. พิจารณากรณีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน โดยมติที่ประชุมเสียงส่วนมาก 12 ต่อ 0 เห็นชอบในคำสั่งที่เซ็นให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน_ ซึ่งสอดคล้องกับอนุกรรมการวินัยก่อนหน้านี้ที่มีความเห็นว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมาย จาก มติ 14 ต่อ 1
พล.ต.ท.อนุชา ยังระบุอีกว่าในมติของ ก.ตร. เรื่อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ใช่เป็นการกดดันการทำงานของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ที่จะมีการพิจารณาในภายหลังจากนี้ ซึ่งการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร. เป็นอิสระ อีกทั้ง การพิจารณาของ ก.ตร. ไม่ได้มีอำนาจชี้ขาดในกรณีบิ๊กโจ๊ก เป็นเพียงการพิจารณาในส่วนของบริหารงานส่วนบุคคล แต่ในส่วนของอำนาจการชี้ขาดเป็นของ ก.พ.ค.ตร. ซึ่งจะมีการพิจารณา 120 และขยายเพิ่มได้ 2 รอบ (รอบละ60วัน) แต่เชื่อว่าจะสามารถพิจารณาเสร็จในกรอบแรก

อีกทั้งในที่ประชุมมีการนำมติกฤษฎีกาในเรื่องของการตีความ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาพิจารณาด้วย แต่ พล.ต.ท.อนุชา ไม่ขอลงในรายละเอียดประเด็นดังกล่าว
ส่วนมติของ ก.ตร. จะสามารถให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กราบบังคมทูลฯ ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า ประเด็นนี้ก็ขอไม่ขอตอบ เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจของ ก.ตร.
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เป็นหนึ่งใน คณะกรรมการ ก.ตร. ไม่ได้มาร่วมลงมติในครั้งนี้ เนื่องจากอาจทำให้การพิจารณาไม่เป็นกลาง ซึ่งทาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้เสนอในที่ประชุมว่าของดเข้าร่วมพิจารณา เนื่องจากอาจเกิดความไม่เป็นธรรมซึ่งทางมติที่ประชุมก็เห็นชอบที่จะไม่ให้เข้าร่วม

เมื่อคำสั่งตาม ก.ตร. ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกราชการไว้ก่อนยังไม่สมบูรณ์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะสามารถกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งในฐานะรองผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติ ได้อยู่หรือไม่นั้น พล.ต.ท.อนุชา ระบุว่า ในส่วนนี้เกินอำนาจหน้าที่ที่จะตอบได้ และ นอกเหนืออำนาจตัวเองที่จะพิจารณา
ส่วนประเด็นที่คณะกรรมการบางคนถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไล่ฟ้องจะส่งผลให้ไม่สามารถเข้าพิจารณาได้ครบองค์ประชุมหรือไม่ พล.ต.ท.อนุชา ระบุว่า เรื่องนี้ถือว่าไม่เป็นปัญหา และผู้ที่ถูกฟ้องสามารถเสนอเหตุผลในที่ประชุม ก.ตร. ว่าอาจจะทำให้การพิจารณาไม่เป็นกลางซึ่งทางคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ออกจากการพิจารณาได้หรือไม่
เมื่อถามว่าในที่ประชุมนายกรัฐมนตรี ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษในที่ประชุมหรือไม่ พล.ต.ท.อนุชา ระบุสั้นๆว่า ไม่ได้ระบุอะไรเป็นพิเศษแต่ให้เน้นย้ำถึงความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและยึดหลักกฏหมาย
