‘วิโรจน์’ เตือนคนไทยรับมือให้ดี ชี้ ‘ฮุนเซน’ บิดาแห่งสแกมเมอร์ฯ ย้ำต้องดูหลักฐานประกอบก่อนเชื่อ

27 มิ.ย. 2568 - 05:32

  • ‘วิโรจน์’ เตือนคนไทยตั้งสติ ชี้ ‘ฮุน เซน’ เป็นบิดาของสแกมเมอร์แห่งภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซัดคนนี้ ‘หักหลัง-เหยียบศพ’ ขึ้นไปมีอำนาจ

  • ท้าเปิดชื่อ ‘7 นักการเมืองไทย’ ฟอกเงินในเขมร เชื่อ ‘อิ๊งค์’ รู้แต่ไม่จัดการ

  • ฉะ ‘มาริษ’ เงียบเกินไป ควรเปลี่ยนตัวคนที่เก่ง-ทันเกมกว่านี้

‘วิโรจน์’ เตือนคนไทยรับมือให้ดี ชี้ ‘ฮุนเซน’ บิดาแห่งสแกมเมอร์ฯ ย้ำต้องดูหลักฐานประกอบก่อนเชื่อ

ที่รัฐสภา วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเคลื่อนไหวของ สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า ปกติแล้ว ความขัดแย้งระหว่างประเทศทั่วโลกจะกังวลว่าอีกประเทศจะปล่อยขีปนาวุธหรือโดรนสังหาร แต่สมเด็จฯ ฮุน เซน ปล่อยคลิปปั่นกระแสทุกวัน ซึ่งจริงหรือเท็จก็ไม่รู้ แต่ เขารู้ว่าแหย่อะไรออกมาแล้ว เราจะตื่นเต้น ดังนั้นคิดว่าอย่าไปสนใจมาก สมเด็จฯ ฮุน เซน มีอะไรก็ปล่อยออกมาเลย 

วิโรจน์ ย้ำว่าทุกอย่างที่ สมเด็จฯ ฮุน เซน ทำ เป็นการทำอย่างมีกระบวนการ การที่บอกว่าจะแฉ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และแผนการปลด อนุทิน ชาญวีรกูล ออกจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทย รวมถึงการแสดงท่าทีสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี  หรือเรื่องการเปลี่ยนผู้นำไทย ภายใน 3 เดือน รวมถึงการถ่ายภาพห้องนอนของทักษิณ และยิ่งลักษณ์ แม้กระทั่งเรื่องคลิปเสียงสนทนากับนายกฯ แพทองธาร ทั้งหมดล้วนเป็นแผนที่หวังสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย 

“ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เรารู้สึกหรือไม่ว่าเขาเป็นผู้นำสายคอนเทนต์ เขาปลุกปั่นตลอด ผมถึงบอกว่าจริงเท็จประการใดก็บอกมาเลย อย่าไปสนใจเลย คนคนนี้คือบิดาของสแกมเมอร์แห่งภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชียวนะ สแกมเมอร์เขาก็ทำแบบนี้แหละ มีคลิปหรือไม่มี ก็บอกว่ามีไว้ก่อน พอบอกว่ามีอะไรก็บอกว่ายังไม่บอก เป็นการข่มขู่”

วิโรจน์ กล่าว

ดังนั้น วิโรจน์ ย้ำว่า คนไทยควรดึงใจของพวกเรากลับมา อย่าหลงเป็นเหยื่อบิดาของสแกมเมอร์แห่งภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนคนนี้เลย ถ้ามีหลักฐานจริง เราค่อยตัดสินใจว่าจะเป็นอย่างไร  

“ขอยืนยันว่าไม่ใช่อยู่ดีๆ วันนี้ ฮุน เซน ให้สัมภาษณ์อย่างเดียว ไม่มีหลักฐานอะไร แล้วไปเอาคำสัมภาษณ์ของฮุน เซนไปแจ้ง ม. 112 ต่อคุณทักษิณ อันนี้ไม่ได้ การกล่าวหาของบิดาแห่งวงการสแกมเมอร์ไม่ใช่หลักฐาน หรือต่อให้มีคลิปเสียง คลิปภาพก็ต้องพิสูจน์ก่อน เพราะยุคนี้ AI มันทำได้”

วิโรจน์ กล่าว

วิโรจน์ ยังระบุว่า เราต้องตั้งคำถามว่าเขาทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร พร้อมเตือนว่า คนๆ นี้กว่าจะขึ้นมาสู่ตำแหน่งทางการเมืองได้ และรักษาอำนาจทางการเมืองมาหลายสิบปี เขาหักหลัง แทงข้างหลังคน เขาเหยียบบนกองศพ บนโครงกระดูกมาเยอะ เขาไม่มีเพื่อนที่แท้จริง ไม่มีศัตรูที่ถาวรอยู่แล้ว เขาพร้อมที่จะหักหลังทุกคน

“เราต้องรู้ก่อนว่าเรากำลังเจอกับอะไร และอย่าให้เขาปลุกปั่นเราได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่สนใจ ไม่ต้องตื่นเต้น วันนี้ที่ฮุนเซนบอกว่าจะสื่อสารถึงคนไทยเกี่ยวกับนายทักษิณ ผมเผื่อใจไว้ 30% ว่าเขาอาจจะไม่พูดถึง สมมติอยู่ดีๆ เขาพูดว่าได้รับข้อเสนอที่รับได้แล้ว เขาไม่พูดแล้วดีกว่า ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครหยิบยื่นข้อเสนอให้เขา เราก็ต้องตั้งคำถามกับนายกรัฐมนตรีว่าไปดีลลับอะไรหรือไม่ เพราะเป็นนิสัยของนายทักษิณและวงศ์วานที่ชอบดีลลับ”

วิโรจน์ กล่าว

ดังนั้น สิ่งที่ฮุนเซนทำก็เพื่อให้ประชาชนพุ่งเป้าที่ทักษิณและนายกรัฐมนตรี และที่ฮุนเซนชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ ต้องย้อนถามว่าเขารัก พล.อ.ประยุทธ์ จริงหรือไม่ หรือเพราะ เขารู้อยู่แล้วว่ากองเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีความเกลียดชังทักษิณและไม่ชอบแพทองธารอยู่แล้ว ดังนั้นเวลาที่ฮุน เซน พูดอะไร เขายุให้เราตีกัน และต้องมานั่งทะเลาะกันเพราะคำพูดของสแกมเมอร์ ตนคิดว่ามันไม่ใช่

เมื่อถามว่าอย่างนี้รัฐบาลควรตอบโต้อย่างไร วิโรจน์ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีควรจะวางตัวโฆษกประจำตัวของนายกรัฐมนตรีที่จะตอบโต้ได้อย่างสมเหตุสมผล เพราะตอนนี้เรารู้แต่ว่าคนใกล้ตัวที่ทำให้นายกรัฐมนตรีมีปัญหา ชื่อเล่น อ.อ่าง และ นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งโฆษกและคณะทำงานของกระทรวงการต่างประเทศที่จะชี้แจงต่อทูตต่างๆ อย่างทันท่วงที ย้ำว่าเรื่องนี้ เป็นการรับมือกับบิดาแห่งสแกมเมอร์จะต้องมอบหมายเป็นการเฉพาะ โฆษกรัฐบาลอย่างเดียวคงไม่พอ 

เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นานาชาติรับไม่ได้ นอกจากตอบโต้ทางวาจาแล้ว ควรมีกลไกอื่นด้วยหรือไม่ วิโรจน์ ระบุว่า ต้องประท้วง เพราะสถานที่ตั้งของสหประชาชาติก็อยู่ในประเทศไทย รวมทั้งสถานที่ต่างๆ ด้วย เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงกับทูตประเทศต่างๆ ไปแล้ว แต่ต้องต่อเนื่อง ซึ่ง บทบาทของ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อาจจะเงียบเกินไป เราควรมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่เก่งกว่านี้ 

ส่วน 2 พ่อลูกตระกูลฮุน ต้องการให้ไทยทำรัฐประหารใช่หรือไม่ วิโรจน์ อธิบายว่า จากที่พยายามอ่านเกมแล้ว มี 4-5 เรื่อง ยกตัวอย่างเช่น 

  1. ความขัดแย้งกับทักษิณ น่าจะมีผลประโยชน์บางอย่างที่ตกลงกันไม่ได้จนหักเหลี่ยมโหดกัน 
  2. ฮุนเซนมีความกังวลในเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ฐานใหญ่สุดอยู่ที่กัมพูชา ซึ่งถ้าตามข่าว ทั้งบริษัท ฮุยวัน รวมถึงออกญาลียงพัด ซึ่งเกี่ยวข้องกับ LYP กรุ๊ป ถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ แม้กระทั่ง ออกญา มงฤทธี ที่เป็นมือไม้ให้ฮุนเซน 

ดังนั้น ถ้าดูเส้นทางทางการเงินเหล่านี้ หลายกรณีพัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ ค้ามนุษย์ ค้ายาเสพติด การพนันออนไลน์ โดยเฉพาะบริษัทฮุยวัน ที่ทาง คณะทำงานปฏิบัติการทางการเงิน (FATF) ของสหรัฐฯติดตามเรื่องการฟอกเงินอยู่ เพราะพบเบาะแสว่ามีความเชื่อมโยงกับแฮ็กเกอร์ในกลุ่มประเทศเกาหลีเหนือ ที่ถูกขึ้นบัญชีดำจาก FATS ซึ่งเป็นคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมถึงใช้เงินในการก่อการร้าย เป็นการรวมกันของหลายประเทศ

เมื่อถามว่าใน กมธ.การทหารฯ ได้เปิดเผนรายชื่อ นักการเมืองไทย 7 ที่ไปฟอกเงินที่เขมร หรือไม่ วิโรจน์ ระบุว่า ปปง.รู้ เพราะทุกธุรกรรมตั้งแต่ 700,000 บาทขึ้นไป ไม่ว่าจะออกหรือเข้า ปปง.ต้องทราบ จึงพอที่จะคาดการณ์ได้ว่าเป็นใคร แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นบุคคลใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรับมนตรีรู้จักหรือไม่ ถ้าหนักกว่านั้น อาจจะเป็นอดีตรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะหากใช่ก็จะโดนข้อหาแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ 

และถ้าเงินนั้นมาจากการทุจริตก็เข้าความผิดมูลฐานที่ ปปง.จะสามารถอายัดทรัพย์สินได้ และนายกรัฐมนตรีก็ไป แต่งตั้งคนที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติการฟอกเงินมาเป็นรัฐมนตรี ก็จะผิดจริยธรรมแล้วมีจุดจบเหมือน อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพราะประเด็นเหล่านี้หรือไม่ที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้จริงจังในการจัดการ ทั้งที่สามารถพุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงินตระกูลฮุนได้ ซึ่งแม่นยำ ได้ผล กดดัน และสร้างผลกระทบให้ผู้ประกอบการชายแดนน้อยกว่าที่เป็นอยู่ 

ทั้งนี้ วิโรจน์ ยังระบุว่า ผลการประชุมของ กมธ.การทหารเมื่อวานนี้ (26 มิ.ย. 68) ได้ทำหนังสือ ข้อสังเกต และข้อมูลลับถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้นจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เชื่อผมหรือไม่ เผลอๆผมอาจเอาเรื่องที่นายกรัฐมนตรีรู้อยู่แล้วไปบอกก็ได้ อาจจะรู้ละเอียดกว่าผมด้วยซ้ำ ซึ่งข้อมูลดังกล่าว กมธ.ก็ตกใจ ซึ่งตอนนี้ ปปง.รู้ทุกอย่างทั้งกลุ่มทุนไทยที่น่าจะไปฟอกเงินในกัมพูชา หรือกลุ่มทุนกัมพูชาที่เข้ามาปฏิบัติการในประเทศไทย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์