ขยี้ซ้ำ ‘ตั๋วเพื่อไทย’ จวก ‘เศรษฐา’ ยอมรับสภาพ อย่ามาแถ

23 พ.ย. 2566 - 06:25

  • ‘วิโรจน์’ ขยี้ซ้ำ ‘ตั๋วเพื่อไทย’ จวก ‘เศรษฐา’ อย่ามาแถแก้ตัวสีข้างถลอก

  • แนะยอมรับสภาพ เชื่อจงใจพูดเอง แซะจะบอกว่าโดนคุณไสยคงไม่ใช่

  • เผยเตรียมทำบัญชีตำรวจระดับ ‘ผู้กำกับ’ ใคร ‘สมหวัง-แห้ว’ โยงหาตัวการ ‘สส.เพื่อไทย’

  • ลั่นเปิดสภาฯ มาเจอตั้งกระทู้ซักแน่

Wirot-advises-Srettha-not-to-make-excuses-about-the-appointment-of-police-SPACEBAR-Hero.jpg

ปมร้อนกรณี ‘หลุดปาก’ กลางที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันอังคารที่ 21 พ.ย. ของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ระบุถึงความผิดหวังและสมหวังในการแต่งตั้งผู้กำกับการตำรวจใหม่ ซึ่งสื่อไปในทางมี ‘ตั๋วฝาก’ จาก สส.ในพรรคเป็นจำนวนมาก กำลังกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ซัดเข้าใส่ เศรษฐา อย่างไม่มีทางเลี่ยงได้ ไม่ต่างกับการทำ ‘ปืนลั่น’ ใส่ตัวเอง ก่อนที่จะออกมาปฏิเสธทันควันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับผู้กำกับ

โดยหนึ่งในผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างเผ็ดร้อนนั่นก็คือ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ได้ย้อนถามว่า นายกฯ ได้ชี้แจงหรือไม่ว่าท่านกินอะไรไป วันก่อนถึงพูดว่ามี สส.เข้าไปเกี่ยวข้องกับการโยกย้ายนายตำรวจระดับผู้กำกับ ซึ่งก็ชัดเจนว่า นายกฯพูดถึงการแก้หนี้นอกระบบและมีการพูดถึงนายอำเภอ ผู้การจังหวัด

ดังนั้น ผู้กำกับจะหมายเป็นอย่างอื่นไม่ได้ จะเป็นผู้กำกับซีรี่ย์หรือภาพยนตร์ไม่ได้ ต้องเป็นผู้กำกับสถานีตำรวจอย่างเดียว และที่นายกฯ บอกว่ามีคนขอมาเยอะ ตกลงแล้วคนที่ขอเป็นคนหรือเป็นสัมภเวสี แล้วท่านพูดกับใคร ท่านพูดในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่

Wirot-advises-Srettha-not-to-make-excuses-about-the-appointment-of-police-SPACEBAR-Photo03.jpg

เมื่อถามว่า ในฐานะฝ่านค้านจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร วิโรจน์ กล่าวว่า เมื่อเปิดสมัยประชุมมาก็ต้องต้องกระทู้ถามในเรื่องนี้ว่า ที่นายกฯ บอกว่าที่คนขอมาเยอะเหลือเกินคือใคร เพราะท่านพูดอีกว่ามีคนผิดหวังมากกว่าสมหวัง แต่สมหวังก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย แสดงว่ามีการฝากกันจริง ต้องยอมรับกันตรงๆ อย่าบิดพลิ้วเลย ท่านหลุดปากพูดแล้วมาอีกวันก็มาแก้ตัว

ท่านยอมรับสภาพเถอะ วันก่อนหน้าเป็นการสารภาพของคนเป็นนายกฯอยู่แล้ว แล้วที่ท่านเคยพูดก่อนหน้าหาเสียงที่บอกว่า จะขจัดสังคมเส้นสาย พอหลังหาเสียงก็ลืมที่นายเศรษฐาเคยพูดเอาไว้เสียงเข้ม แต่ก็ลืมหมดแล้ว ตกลงเศรษฐาก่อนหน้าที่ประชุมพรรคเพื่อไทย กับเศรษฐาที่มาพูดอีกวันคือเศรษฐาคนเดียวกันหรือเปล่า

วิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ก่อนที่จะเปิดสมัยประชุมก็คงจะใช้การทำงานของคณะกรรมาธิการในการจัดการก่อน พอเปิดสมัยประชุมนายกฯ ก็ต้องมาชี้แจง ไม่ใช่อยู่ดีๆ พอวันรุ่งขึ้นมาบอกว่าไม่ได้หมายความแบบนั้น พูดถึงว่าความไม่ใช่คน ตนเองฟังแล้วจริงๆ แล้ววันนั้น อยากเอายาไปทาสีข้างให้ท่าน ท่านคงจะอักเสบพอสมควร ไหนๆ ท่านก็สารภาพมา 80% แล้ว อีก 20% ก็พูดมาเถอะว่า สส.ที่มาฝากผู้กำกับใหม่กับท่านคือใคร ฝากกี่คน จริงๆ ไม่ได้ยากเกินวิสัย เพราะผู้กำกับมีการโยกย้ายและมีผุ้กำกับใหม่อยู่จำนวนหนึ่ง

เดี๋ยวผมจะไปหาทางโยงว่า ผู้กำกับที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจาก พ.ต.ท. เป็น พ.ต.อ. และเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้กำกับใหม่ เป็นใคร อยู่ในจังหวัดไหน อยู่ในสถานีตำรวจใด และมีเครือข่ายความสัมพันธ์โยงใย เครือข่ายกับ สส.คนไหน แล้วเดี๋ยวค่อยไปถามนายกฯ เรียงคนว่าคนนี้อยู่ในบัญชีฝากหรือไม่ สมหวังหรือผิดหวัง

Wirot-advises-Srettha-not-to-make-excuses-about-the-appointment-of-police-SPACEBAR-Photo04.jpg

เมื่อถามว่า ถ้าดูจากคำพูดของนายกฯ ในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ตามกฎหมายเราสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง วิโรจน์ กล่าวว่า จริงๆ คนผิดต่อสังคมเกิดขึ้นแล้ว แต่ต้องหาหลักฐานเพิ่ม เพราะการสารภาพของผู้ต้องหายังไม่ใช่หลักฐาน ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง แต่เดี๋ยวก็รู้ เพราะผู้กำกับใหม่มีไม่กี่คน โดยเฉพาะพื้นที่ สส.พรรคเพื่อไทยชนะ หาชื่อนามสกุลก็รู้แล้วว่า เป็นน้องคนนั้น เป็นเพื่อนคนนี้ และเรียนรุ่นเดียวกับคนนั้นคนนี้ ซึ่งตนเองจะทำบัญชีว่า คนไหนอยู่บัญชีสมหวัง หรือบัญชีแห้ว

ส่วนเรื่องนี้จะทำให้นายกฯ พ้นสภาพได้หรือไม่นั้น วิโรจน์ มองว่า ต้องถูกตั้งคำถาม แต่คำสารภาพของผู้ต้องหาไม่ใช่หลักฐาน ซึ่งจะทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่า ต่อไปนี้จะเชื่อคำพูดอะไรจากนายกฯ ได้อีก เพราะเมื่อวานพูดอย่างวันนี้พูดอย่าง เมื่อถามย้ำกรณี พล.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เรียกร้องให้ เศรษฐา ลาออก วิโรจน์ กล่าวว่า การเรียกร้องเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่การตัดสินใจคงต้องอยู่ที่นายกฯ แต่ตนเองถือโอกาสนี้ให้กำลังใจตำรวจ ให้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเต็มที่

มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่บอกว่าถ้าคุณไม่วิ่ง คุณไม่หาเงินมาซื้อตำแหน่ง โอกาสที่คุณจะขึ้นเป็นผู้กำกับก็ยากเหลือทน ซึ่งเป็นคำพูดที่ทุกคนรู้ดีว่าแสดงว่าเป็นความท้อแท้ ท้อถอยของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ แต่พอเขามาเจออย่างนี้ คนที่ชื่อเศรษฐา พูดตอนหาเสียงว่าจะขจัดเส้นสายให้หมดไป แล้ววันนี้เมื่อเป็นนายกฯ มาพูด จะมาบอกว่าถูกบังคับ หรือว่าโดนคุณไสยหรือโดนของ เพราะพูดไปยิ้มไปและพูดด้วยตัวของตัวเอง เรื่องนี้ผมเข้าใจว่าท่านอยู่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์บางรายก็จะรู้สึกว่าการติดสินบน การฝาก การใช้เส้นสาย เป็นเรื่องปกติ แต่ก็หวงัว่านายกฯ ที่ยืนยันตัวเองว่าอยากยืนอยู่ในสังคมที่ถูกต้อง และทำธุรกิจมาอย่างถูกต้องตลอดจะไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้

Wirot-advises-Srettha-not-to-make-excuses-about-the-appointment-of-police-SPACEBAR-Photo02.jpg

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เรียกร้องให้ เศรษฐา แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก สืบเนื่องมาจากกรณีดังกล่าว โดยยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 วรรคสอง “รัฐมนตรีต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการใดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่นหรือของพรรคการเมืองโดยมิชอบ ตามที่กำหนดในมาตรทางจริยธรรม”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์