'สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ' ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการปล่อยตัว พักการลงโทษของ 'บุญทรง เตริยาภิรมย์' อดีตรมว.พาณิชย์ และ 'อภิชาติ จันทร์สกุลพร' หรือ เสี่ยเปี๋ยง
สมบูรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ว่าการ กระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการประกาศใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังนอกเรือนจำ ว่า ยืนยันไม่ได้เพื่อรอใครคนหนึ่งกลับมาถึงประกาศหรือไม่ แต่รอความครบถ้วนของประกาศเสียก่อน โดยเป้าหมายเพื่อลดความแออัด ในเรือนจำ
ขณะที่รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวเสริมว่า ระเบียบดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นประชาชน จนถึง 17 ธ.ค.67 เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข จากนั้นเมื่อเรียบร้อยท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ก็จะลงนาม ประกาศใช้ได้ทันที ถ้าในการทำประชาพิจารณ์มีคนเห็นแย้ง 90% อาจจะต้องมีการปรับแก้ไข แต่หากไม่ถึง 20% ก็อาจจะไม่ต้องมีการปรับเนื้อหาแต่อย่างใด
ส่วนกรณี 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเงื่อนไขประกาศระเบียบดังกล่าวหรือไม่ สมบูรณ์ กล่าวว่า ระเบียบหลักเกณฑ์เป็นเพียงเบื้องต้น ยังไม่ออกเป็นหลักเกณฑ์ที่ประกาศใช้อย่างเป็นทางการเลย จึงยังตอบไม่ได้ และเรายังไม่ได้มีการพิจารณาเนื่องจากเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งตอนนี้ต้องรอให้ประกาศดังกล่าวออกมาก่อน และทุกอย่างก็คงเดินหน้าไปตามระเบียบ เราไม่มีการดำเนินการว่าใครจะเข้าเงื่อนไขดังกล่าวก่อนล่วงหน้า
กนกวรรณ กล่าวเสริมเรื่อง หลักเกณฑ์การคุมขังนอกเรือนจำ ว่า เราจะใช้เกณฑ์ การพิจารณาตาม หลัก 'ทัณฑวิทยา' ซึ่งเกี่ยวกับการปฏิบัติในการลงโทษ ซึ่งจะมีคณะกรรมการในการตัดสิน โดยขอเรียนว่ามันไม่ใช่สิทธิ์ หรือประโยชน์ของผู้ต้องขัง แต่เป็นการบริหารเรือนจำ เนื่องจากขณะนี้มีผู้ต้องขังจำนวนมาก และเป็นหลักสากลที่หลายๆประเทศใช้อยู่ และการที่จะให้เขาไปอยู่ในที่คุมขังอื่น ก็ไม่ใช่การอยู่เฉยๆ ต้องมีกฎมีระเบียบ โดยจะต้องมีการประเมินความเสี่ยงจากคณะกรรมการในระดับเรือนจำก่อนจะไปคุมขังนอกเรือนจำ
สมบูรณ์ กล่าวยืนยันว่า เราไม่ได้วางระเบียบนี้เพื่อรอใครคนใดคนหนึ่ง แต่ประกาศนี้ออกมาเมื่อปี 2566 ซึ่งเมื่อมีประกาศแล้วก็ต้องออกระเบียบตามมาในช่วงนี้ ยอมรับปฏิเสธไม่ได้ว่าสร้างความคลังแคลงใจ ว่าเราทำเพื่ออะไร
แต่เรายืนยันได้ว่าเราไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เราทำเพราะมันเข้าเงื่อนไขและความครบถ้วนในกระบวนการต่างๆ
ส่วนจะทันไตรมาสแรกของปี 2568 หรือไม่ เพราะมันประจวบเหมาะพอดีกับที่ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดว่า ยิ่งลักษณ์ จะกลับมาในช่วงสงกรานต์ 2568 สมบูรณ์ กล่าวว่า ถ้าถามความเห็นของตนก็น่าจะเป็นไปได้ แต่มันก็มีขั้นตอนในการปฏิบัติไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง แต่ถ้าถามว่าไตรมาสแรกมันก็ 3 เดือน ก็น่าจะเป็นไปได้
แต่ในส่วนของ ยิ่งลักษณ์ ไม่ทราบว่าเขาจะกลับเมื่อไหร่ ได้ยินเพียงแต่ข่าว ดังนั้น เรื่องของการคาดเดาว่าจะทันหรือไม่ ผมไม่สามารถระบุได้ เพียงแต่บอกว่า “มันใกล้จะเสร็จแล้ว”
เมื่อถามว่าระเบียบการคุมขังนอกเรือนจำที่กำหนดอายุโทษไม่เกิน 4 ปี หาก ยิ่งลักษณ์ กลับมา จะไม่ต้องเข้าเรือนจำ และไปคุมขังที่บ้านได้เลยหรือไม่ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เบื้องต้นที่วางระเบียบคือคำพิพากษาล่าสุดไม่เกิน 4 ปี แต่ท่านอดีตนายกฯมีโทษจำคุกมากกว่า ก็ต้องอยู่ในเรือนจำระยะเวลาหนึ่ง แต่ทุกอย่างมันยังอยู่ระหว่างการดำเนินการมีแก้ไขได้อีก หลังรับฟังความเห็น
เมื่อถามว่า ยิ่งลักษณ์ จะเป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวเหมือนกับทักษิณ หรือไม่ สมบูรณ์ กล่าวยืนยันว่า ท่านนายกฯ ทักษิณติดคุก เพราะไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจก็ถือว่าเป็นคุกแห่งหนึ่งตามกฎหมาย
ยอมรับว่าเรากังวลต่อข้อสงสัยของพี่น้องประชาชน แต่เรายืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ ดังนั้นในเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นั้น ป.ป.ช. กำลังดำเนินการอยู่ รอกันวินิจฉัยของ ป.ป.ช. เป็นผู้ตัดสิน
ส่วนการพักโทษ บุญทรง และ อภิชาติ ซึ่งเป็นนักโทษคดีทุจริตที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ กว่า 9 แสนล้านบาทนั้น มีการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามคำพิพากษาหรือไม่นั้น สมบูรณ์ กล่าวว่า มีการเสนอในคณะอนุกรรมการพักโทษให้พิจารณา แต่ชดใช้แล้วหรือไม่นั้นไม่มีใครทราบ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) ในการอายัด และยึดทรัพย์สินให้เป็นของแผ่นดิน ซึ่งดำเนินการไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่คงเหลืออีกเท่าไรนั้นเรายังไม่ทราบ
ขณะนี้ยังคงมีผู้ต้องขังในคดีจำนำข้าวอีก 2 ราย ที่เป็นข้าราชการระดับสูง และยังอยู่ระหว่างการได้รับโทษต้องขัง เนื่องจากต้องโทษจำคุกสูง และไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยอย่างไร
