การเมคฟันกับอาการป่วยและคนพิการในปี 2025 ควรมีอยู่หรือตระหนักรู้และพอแค่นี้

1 ก.ค. 2568 - 07:56

  • ในยุคที่สังคมกำลังตื่นตัวกับประเด็นความเท่าเทียมและการเคารพความหลากหลายมากขึ้นการกระทำต่างๆ ที่ลิดรอนความเท่าเทียมและเหมือนไม่ให้เกียรติผู้อื่นยังสมควรนำมาล้อเลียนเป็นเรื่องตลกอยู่หรือไม่

  • หลิงหลิง คอง ได้แสดงท่าทางเลียนแบบผู้พิการทางสายตาโดยสวมแว่นดำและถือร่มเดินคลำทาง

  • หลิงหลิง คอง ได้ใช้พื้นที่ในโลกออนไลน์ออกมาขอโทษในการกระทำที่ไม่ยั้งคิดและจะเก็บไว้เป็นบทเรียนในอนาคตไม่ให้เกิดขึ้นอีก

การเมคฟันกับอาการป่วยและคนพิการในปี 2025 ควรมีอยู่หรือตระหนักรู้และพอแค่นี้

ในยุคที่สังคมกำลังตื่นตัวกับประเด็นความเท่าเทียมและการเคารพความหลากหลายมากขึ้น มีคำถามมากมายที่ชวนให้คิดวิเคราะห์ถึงการกระทำของผู้คนในปัจจุบันนี้ว่าการแสดงออกที่ลิดรอนความเท่าเทียมและเหมือนไม่ให้เกียรติผู้อื่นยังสมควรนำมาล้อเลียนเป็นเรื่องตลกอยู่หรือไม่  

เช่นเดียวกับประเด็นล่าสุดของ หลิงหลิง คอง นักแสดงสาวชื่อดังที่ได้ใช้พื้นที่ในโลกออนไลน์ออกมาขอโทษในการกระทำที่ไม่ยั้งคิดและจะเก็บไว้เป็นบทเรียนในอนาคตไม่ให้เกิดขึ้นอีก หลังจากที่ในงานแฟนมีตติ้งที่ประเทศจีน หลิงหลิง คอง ได้แสดงท่าทางเลียนแบบผู้พิการทางสายตาโดยสวมแว่นดำและถือร่มเดินคลำทาง แม้ว่าจะออกมาขอโทษและยืนยันว่าไม่มีเจตนาล้อเลียนแต่คลิปดังกล่าวก็สร้างความไม่พอใจอย่างมากในโลกออนไลน์ หลายคนมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติผู้พิการ 

ปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ มีความก้าวหน้าอย่างมาก ในหลายๆ ประเทศที่พัฒนาแล้วรวมถึงประเทศไทยที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาล้วนมีการรณรงค์ให้ตระหนักรู้ถึงการให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ การใช้มุกล้อเลียนคนพิการอาจเป็นการสะท้อนถึงความล้าหลังและการไม่ให้เกียรติบุคคลอื่นในสังคม 

การสร้างสีสันหรือมุกตลกต่างๆ เพื่อเอนเตอร์เทนคนดูนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี แต่การเมคฟันกับอาการป่วยหรือคนพิการสำหรับปี 2025 ที่โลกมีวิวัฒนาการไปมากแล้วยังสมควรที่จะเกิดขึ้นอยู่หรือไม่ การสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้คนเป็นการเยียวยาสภาพจิตใจแต่การรเมคฟันจากอาการป่วยหรือคนพิการจะเรียกว่าใช้เสียงหัวเราะเพื่อเยียวยาได้จริงหรือ? สุดท้ายแล้วเราจะเยียวยาจิตใจหรือทำร้ายจิตใจคนอื่นกันแน่ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์